WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

May copyบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

ตลาดหุ้นวานนี้:
  ตลาดหุ้นไทยวานนี้ เริ่มเห็นการฟื้นตัวจากกลุ่มพลังงาน นำโดย PTT / PTTEP ที่ลงไปแรงในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา ตามมาด้วยกลุ่ม ICT ขยับขึ้นเด่น อย่างไรก็ตาม กลุ่มอาหาร / ท่องเที่ยว / อสังหาฯ ปรับตัวลงแรงตั้งแต่เปิดตลาดรอบบ่าย พร้อมกับข่าวเชิงลบที่ออกมาในสังคมออนไลน์ตลอดบ่าย กดให้ SET INDEX หลุดแนว 1,350 จุด ลงมาปิดที่ 1,339.45 จุด ลบสูงสุดในภูมิภาค 1.2% ด้วยมูลค่าการซื้อขายเพียง 37,211 ล้านบาท
  ขณะที่ต่างชาติ ซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 7 วันทำการ เพียง 19 ล้านบาท แม้ว่าจะ Short สุทธิใน SET50 Index Futures มากถึง 14,181 สัญญา คาดว่าเป็นการปิดสถานะ Long ที่เปิดไว้ก่อนหน้านี้ หลัง SET50 Index ปรับฐานลงแรงแบบไร้เหตุผล ด้านตลาดตราสารหนี้ ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 3 อีกเล็กน้อย 209 ล้านบาท

ปัจจัยสำคัญวันนี้
  ติดตามผลการประชุม ECB ในค่ำวันนี้
  ติดตามรายงาน Beige Book ของสหรัฐฯ คืนนี้ เพื่อประเมินทิศทางเศรษฐกิจ
  งาน Thailand Focus ระหว่างวันที่ 2 - 4 ธ.ค.
  รองนายกฯ คาดรถไฟฟ้าสายสีส้ม เตรียมเสนอครม.พิจารณาและอนุมัติในสัปดาห์หน้า

มุมมองต่อตลาด
  เราคงมุมมองการลงทุนเป็น “กลาง” วันที่ 13 แม้ว่า SET INDEX หลุดแนว 1,350 จุดวานนี้ แต่เป็นผลจากสภาพตลาดที่ซื้อขายเบาบาง รวมถึงการเกิดข่าวเชิงลบต่อจิตวิทยาการลงทุนเข้ามาตลอดชั่วโมงการซื้อขายวานนี้ ผ่านสังคมออนไลน์ แต่ท้ายสุดต่างชาติกลับไม่ได้ขายสุทธิหนาแน่นอย่างที่ตลาดตกใจจากข่าวต่างๆ เราจึงเชื่อว่าวันนี้ SET INDEX จะเกิด Technical Rebound เพื่อทดสอบด่าน 1,350 จุด ผลักดันด้วยกลุ่มท่องเที่ยว / กลุ่มอาหาร และหุ้นขนาดใหญ่ที่วานนี้ปิดลงแรง
  ด้านกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง / วัสดุก่อสร้าง / ธนาคาร ยังคงเป็นกลุ่มหลักที่มีความน่าสนใจที่สอดคล้องกับไปกับนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งทีมเศรษฐกิจ ที่เร่งเดินหน้าประมูลโครงการลงทุนขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด รองนายกฯ ได้ส่งสัญญาณโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม จะเสนอต่อครม.เพื่อพิจารณาและอนุมัติโครงการดังกล่าวในวันที่ 8 ธ.ค. เราประเมินว่า CK มีโอกาสสูงที่จะได้รับงานนี้ และ BMCL น่าจะได้เป็นผู้บริหารจัดการเส้นทางดังกล่าว
  ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนทั่วโลกต่างจับตามองคือ ผลการประชุม ECB ในค่ำวันนี้ (ตามเวลาประเทศไทย) ณ ปัจจุบัน ตลาดประเมินว่า ECB จะเพิ่มมาตรการทางการเงิน
  วงเงินการเข้าซื้อสินทรัพย์ (QE) เพิ่มอีก 1.5-2.0 หมื่นล้านยูโร เป็น 7.5-8.0 หมื่นล้านยูโร/ เดือน
  ยืดเวลาโครงการ QE ออกไปอีก 6 เดือน จากปัจจุบันโครงนี้จะสิ้นสุดเดือนก.ย. 2559
  การลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากกับ ECB ณ ปัจจุบัน -0.20% เป็น -0.30-0.40% แต่จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.05%
  ทั้งนี้ ค่าเงินยูโรอ่อนค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ 4.9% QTD ดังนั้นหากผลการประชุมเป็นไปตามที่ตลาดคาด อาจเกิด Covered Short เงินยูโร หรือ เงินยูโรจะกลับมาแข็งค่าชั่วคราวจากการสะท้อนผลการประชุมเท่านั้น แต่ทิศทางของนโยบายดังกล่าวจะเปิดทางให้ทำ Euro Carry Trade อีกระลอก เราประเมินว่าจะเกิดขึ้นในต้นปีหน้า โดยตลาดหุ้นเกิดใหม่น่าจะเป็นเป้าหมายของการเก็งกำไรครั้งนี้

กลยุทธ์การลงทุน
  ดังนั้น เราแนะนำ “นักลงทุนเข้าเก็งกำไรหุ้นหลักที่ปรับฐานลงแรงวานนี้ เพราะปัจจัยพื้นฐานการลงทุนทั้งในแง่ของภาพรวมตลาดหุ้น และหุ้นรายตัวยังคงปกติ”

Top Pick in 4Q15: BMCL / ITD/ TMB/ TPIPL
HOLD: ITD / TPIPL/ WHA/ IFEC/ INTUCH/ KTB/ BMCL
Accumulative Buy: BECL
Speculative Buy: LH
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham
Assistant Analyst
662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!