- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 02 December 2015 17:15
- Hits: 1017
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
แกว่งหรือบวกแคบๆ รอปัจจัยภายนอกเพิ่มเติม
KGI คาด SET วันพุธแกว่ง/บวกแคบๆ (วานนี้ลง หลังหุ้นน้ำมันร่วง แย่กว่าเราคาด) ตลาดรอปัจจัยภายนอกที่สำคัญ โดยเฉพาะผลประชุม ECB (3 ธ.ค.) และการจ้างงานสหรัฐฯ พ.ย. (4 ธ.ค.) ทั้งนี้เมื่อคืนสหรัฐฯ รายงาน ISM ภาคอุตฯ ต่ำสุดรอบ 3 ปี (48.6 จุด VS ตลาดคาด 50.4 จุด) ยิ่งทำให้ตัวเลขจ้างงานในวันศุกร์นี้มีนัยที่ต้องติดตามมากขึ้น ทั้งนี้ Fed Funds probability สำหรับการขึ้นดอกเบี้ย ธ.ค. ยังสูงกว่า 70% อยู่ดี ด้านปัจจัยภายใน ตัวเลขเงินเฟ้อ พ.ย. ที่ลบมากกว่าคาด เรามองไม่เป็นสัญญาณเงินฝืดแต่อย่างใด เพราะเกิดจากฐานราคาน้ำมันที่ต่ำเท่านั้น (อ่านเพิ่มในข่าววันนี้) เราคงมุมมอง SET ฟื้นตัวในเดือนนี้ หนุนโดยความชัดเจนของเฟด + เม็ดเงิน LTF และแนะนำทยอยสะสมหุ้นในช่วงที่ SET แกว่งตัว
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร ASEFA, SMT
ASEFA (เป้าพื้นฐาน 7 บาท) 1) ราคาหุ้นวานนี้ปิดที่ 6.05 บาท Breakout แนวต้าน 5.95 บาทขึ้นมาได้ ประเมินแนวต้านถัดไปที่ 6.4 บาทและ 6.9 บาท ตามลำดับ 2) เราประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานของ ASEFA จะเป็นขาขึ้นไปอีกอย่างน้อย 2 – 3 ปี จากการขยายกำลังการผลิตอีก 50% (เสร็จไตรมาส 1/59) รองรับ Mega Trend ของอุตสาหกรรม ตู้สวิตช์บอร์ดและระบบไฟฟ้า i) การขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าอีกเท่าตัวตามแผน PDP2015 ii) การลงทุนภาครัฐฯที่กำลังทยอยเข้ามา เช่น รถไฟฟ้า (ASEFA ได้งานสายสีเขียวและสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย) การขยายสายส่งฯ, การย้ายสายไฟฟ้าลงใต้ดิน เป็นต้น iii) นโยบายเศรษฐกิจดิจิตอล (การขยายโครงข่ายรองรับ 4G + Datacenter) 3) ประเมินราคาเหมาะสมเท่ากับ 7 บาท คิดเป็น PE 17 เท่า ใกล้เคียงกับอัตราการเติบโตของกำไร 18% CAGR
SMT (เป้าพื้นฐาน 13 บาท) 1) ราคาหุ้นเริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัว หากวันนี้ยืนได้ไม่ต่ำกว่า 10.2 บาทจะเป็น Breakout แนวต้านเทรนไลน์ขาลง แนวต้าน 10.7 บาท และถัดไปที่ 11.3 บาท 2) ฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2559 จะพลิกกลับมามีกำไรได้ราว ±350 ล้านบาท (EPS 0.86 บาท/หุ้น) จากสมมติฐานหลักคืออัตรากำไรสุทธิที่ฟื้นตัวเป็น 4% (ผู้บริหารตั้งเป้าไว้ที่กรอบ 4 – 5%) เป็นผลจากการปรับสัดส่วนรายได้เน้นไปที่กลุ่มสินค้า High margin (เดิมเน้น Hard disk) ซึ่งคาดจะเริ่มมีสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นมีนัยในปี 2559 ... วานนี้มีบทวิเคราะห์ Alert … 2) การลงทุนโรงงานผลิตแผงโซลาร์เซลล์ โดยผู้บริหารคาดหากสรุปแผนลงทุนจะเริ่มรับรู้รายได้ใน 2H59 ราว 1 พันล้านบาท (สมมติฐานอัตรากำไรสุทธิ 2 - 3% ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของ SOLAR จะได้กำไรราว 20 – 30 ล้านบาท เป็น Upside risk)
… IFEC (เป้าพื้นฐานเบื้องต้น 14.6 บาท ... รอผลการประมูลที่ออสเตรเลีย) 1) ราคาหุ้นอ่อนตัวลงอยู่ที่บริเวณแนวรับ ±9 บาท ซึ่งเป็นการปรับลงตามกลุ่มฯ คาดเป็นผลจากข่าวช่วงบ่ายวานนี้ “รัฐจ่อยึด PPA โซลาร์ฟาร์มค้างท่อหากจ่ายไฟไม่ทันปีนี้, เสนอ กพช.23 ธ.ค. (อินโฟเควสท์)” ซึ่งไม่กระทบต่อ IFEC เพราะไม่มีโครงการในกลุ่มฯนี้ 2) อยู่ระหว่างการประมูลโครงการพลังงานลมที่ออสเตรเลีย 106.5MW (ยื่นซอง 9 ธ.ค.) + โครงการต่างๆในต่างประเทศยังเป็นไปตามแผน (PPA ลมเวียดนามได้มาแล้ว รอก่อสร้าง, ลมนอกชายฝั่ง เกาหลีใต้ลงทุนไตรมาส 1/59) 3) แนะนำ “ซื้อสะสม” รูปแบบราคาเป็น Bullish divergence (MACD histogram ยกสูง) ... ข้อมูลผู้บริหารซื้อขายหุ้น (59-2) ข้อมูลวันที่ 16 พ.ย. – 30 พ.ย. ผู้บริหาร IFEC สะสมหุ้น IFEC รวมแล้ว 1.78 ล้านหุ้น ที่ราคาเฉลี่ย 9.4 บาท
(+) กลุ่มรับเหมาฯ (CK*, STEC*, ITD*, UNIQ*) แนะนำ “สะสม” 1) ครม อนุมัติแผนปฏิบัติการลงทุน 20 โครงการ 1.79 ล้านล้านบาท (โพสต์ทูเดย์) และสัปดาห์หน้านำ รถไฟฟ้าสายสีส้มเข้า ครม (คมชัดลึก) 2) E-Auction รถไฟทางคู่ (จิระ-ขอนแก่น มูลค่า ±2 หมื่นล้านบาท) วันที่ 8 ธ.ค. ในเชิงพื้นฐานเลือก CK* เป็นหุ้นเด่น (มีประเด็นบวกเรื่องการควบรวม BMCL* + BECL* ด้วย) ... อย่างไรก็ดีมีข่าวลบเข้ามากระทบต่อ Sentiment การลงทุนคือ การชะลอเซ็นสัญญารถไฟไทยจีน (โพสต์ทูเดย์) แต่เชื่อว่าผลกระทบต่อกลุ่มฯน้อย
… TSR (เป้าพื้นฐาน 9.5 บาท) 1) คาดราคาหุ้นยังเป็นรูปแบบการ Sideway ในกรอบขาขึ้น แนะนำ “ซื้อที่แนวรับ” ±8.3 บาท 2) ในเชิงพื้นฐานคาดกำไรไตรมาส 4/58 โตต่อเนื่อง QoQ จากไตรมาส 3/58 จากการขายผลิตภัณฑ์ใหม่เครื่องทำน้ำอุ่น 3) แจก Warrant TSR-W1 ฟรี 2:1 (2 หุ้น ต่อ 1 Warrant) กำหนด XW วันที่ 8 ธ.ค.58 (คาดเตรียมขยาย โกดังสินค้ารองรับผลิตภัณฑ์ใหม่และสาขาในต่างจังหวัด)
… ASK (เป้าพื้นฐาน 28 บาท) 1) รูปแบบราคามีโอกาส Sideway up ขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ ±21.3 บาท (แนวรับ 19.5 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยประเมินกำไรปีหน้าโต >20% YoY จาก i) การรีไฟแนนซ์เงินกู้ ดอกเบี้ยจ่ายลดลง ±50 ล้านบาท/ปี ii) สินเชื่อรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ (รถบรรทุก โตตามการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน / รถตู้ โตตามเศรษฐกิจในต่างจังหวัดและการค้าชายแดน 3) ปันผลสูงเฉลี่ย ±7% ต่อปี
… PLAT (เป้า Consensus 7.4 บาท) หากวันนี้ต่ำกว่า 5.2 บาท แนะนำ “Stop loss” ในเชิงพื้นฐานการขยายการลงทุนมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท คาดจะเริ่มรับรู้รายได้อย่างมีนัยสำคัญในปี 2561 เป็นต้นไป Consensus คาดกำไรโต >30% CAGR ทำให้ PEG ตอนนี้ต่ำกว่า 1 เท่า (±0.8 เท่า)
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
ถือต่อได้แนวโน้มยังดี: SCC*, KTB*, BANPU*, IFEC, TSR
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
WORK ยังคงแนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 51 บาท จากการประชุมนักวิเคระห์วานนี้ แนวโน้ม 4Q15-2016 อยู่ในเชิงบวก โดยเฉพาะในส่วนของยอดขายสปอตโฆษณาปี 2016
SCB* ยังคงแนะนำ “ขาย” เป้าพื้นฐาน 140 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์ ฝ่ายวิจัยฯปรับลดประมาณการฯลง 5% สะท้อนมุมมองเชิงลบต่อเนื่องในปีหน้า (NPL ยังมีความเสี่ยง)
ข่าวเด่นจากสถาบันวิจัยฯ
(0) CPI พ.ย. ลบเป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกัน กระทรวงพาณิชย์รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) ในเดือนพฤศจิกายนลดลง 0.97% YoY ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารสดและพลังงานเพิ่มขึ้น 0.88% YoY (Bisnews) อัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวลดลงเนื่องจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงขายปลีกในประเทศลดลง ไทยไม่ได้เข้าสู่ภาวะเงินฝืด เนื่องจากในราคาที่แท้จริงยังมีการปรับขึ้นราคาสินค้าและบริการทั้งโดยตรงและแฝงโดยเฉพาะสินค้าประเภทอาหาร ราคาสินค้าและบริการทั่วไปยังไม่ได้ลดราคาอย่างแท้จริงอันสืบเนื่องจากความต้องการในระบบเศรษฐิจที่ลดลง ขณะที่ปริมาณการใช้น้ำมันกลับเพิ่มขึ้น ปี 2558 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยจะอยู่ที่ -0.87% ต่ำกว่าที่เราเคยคาดไว้ที่ -0.84% และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ยที่ 1.05% ปีหน้า 2559 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ยจะอยู่ที่ 1.0% เท่ากัน โดยราคาน้ำมันดิบดูไบจะเฉลี่ยในช่วง 45-50 ดอลลาร์/บาร์เรล ผลกระทบจากภาวะแห้งแล้งในปลายฤดูแล้งนี้รุนแรงหนักกว่าช่วงที่ผ่านมา จากปรากฏการณ์เอลนิโญที่รุนแรงและยาวนานจะมีผลให้ราคาอาหารสดพุ่งขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม อัตราเงินเฟ้อที่ติดลบต่อเนื่องจะไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงแนวนโยบายการเงินในปีหน้า แม้ว่าเราคาดว่า กนง. จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5% แต่ถ้าภาวะเศรษฐกิจทรุดตัวกว่าที่เป็นอยู่อาจเป็นแรงกดดันให้ กนง. อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงได้
(+) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง; ครม อนุมัติแผนการลงทุนเบื้องต้นสำหรับงบประมาณปี 2559 (เนชั่น) การลงทุนดังกล่าวถือเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล เพราะการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่จะช่วยกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจปีหน้า โดย 6 โครงการมูลค่า 1.8 แสนล้านบาท อาทิ รถไฟฟ้ารางคู่ จิระ-ขอนแก่น คาดจะพร้อมประมูลได้ภายใน 4Q/58-1Q/59 สำหรับ 14 โครงการที่เหลือมูลค่ารวมกว่า 1.6 ล้านล้านบาท อาทิ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม สีเหลือง และสีชมพู คาดจะสามารถประมูลได้ในปี 2559-60 ดังนั้น ภาพรวมธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่ยังโดดเด่น ทำให้เรายังคงน้ำหนัก “มากกว่าตลาด” และเลือก CK* เป็นหุ้นเด่นของกลุ่ม ราคาเป้าหมาย 36.50 บาท
(+) คมนาคมจ่อเปิดทางเอกชนไทย ร่วมทุนบริษัทเดินรถไทย-ญี่ปุ่น (ข่าวหุ้น) “คมนาคม” รายงานครม.รับทราบความคืบหน้ารถไฟไทย-ญี่ปุ่น เส้นแนวระเบียงเศรษฐกิจด้านใต้ “อาคม” จ่อคุยฝ่ายญี่ปุ่นให้ได้ข้อยุติบริษัทร่วมทุนด้านเดินรถภายในม.ค.นี้ ส่อแววเปิดโอกาสเอกชนไทยเข้าร่วมได้ 2%
(+) UAC อัพกำลังผลิตเท่าตัว ตั้งเป้าปั๊มพลังงาน 30 MW (ทันหุ้น) UAC โชว์แผนงานปี 2559 วางเป้ารายได้ทะยาน 20% แตะ 1.8 พันล้านบาท ส่วนกำไรคาดทำได้สูงกว่าปีนี้ มั่นใจรายได้ปี 2558 มาตามนัด พร้อมทุ่มงบพันล้านดันกำลังผลิตธุรกิจเคมีภัณฑ์พุ่งเท่าตัวที่ 2 หมื่นตันต่อปี รองรับออเดอร์ต่างแดนไหลทะลัก ตั้งเป้าดันกำลังการผลิตจากธุรกิจพลังงานทดแทนแตะ 30 MW จากปัจจุบัน 6.5 MW
(+) KAMART เล็งกำไรแรง ลือรายใหญ่ดอดซื้อ PP (ทันหุ้น) KAMART ฉายแววกำไรเด้งแรงในรอบหลายปี มีลุ้นแตะระดับ 200 ล้านบาท หลังผุดผลิตภัณฑ์ใหม่ เพิ่มสาขาในประเทศและต่างประเทศ การบริหารจัดการต้นทุนยอดเยี่ยมจับตาไตรมาส 4/2558 ผลงานสุดพีค รับอานิสงส์ช่วงไฮซีซัน หนุนลูกค้าแห่ซื้อผลิตภัณฑ์เป็นของขวัญต้อนรับปีใหม่ ลือหึ่งกองทุนใหญ่ดอดซื้อ PP
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ‘กรอบราคา 1353 - 1360 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือต้าน 1360 จุดได้นั้น อาจผลักขึ้นทดสอบแนวต้าน 1377 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1353 จุดนั้น อาจกดราคาสู่รับ 1340 จุด…
แนวรับวันนี้: 1353/1341 แนวต้านวันนี้: 1360/1376
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]