- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 02 December 2015 17:08
- Hits: 1129
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Rebound
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ เปิดซึมตัวลงสู่แนวรับ 1,355 จุด เหมือนเช่นวันก่อนหน้า โดย PTT / PTTEP ยังคงเป็นตัวกดดัน SET INDEX ต่อเนื่อง ขณะที่ ICT นำโดย ADVANC ฟื้นตัวเด่น รวมถึงกลุ่มขนส่งอย่าง AOT ช่วยผลักดันให้ SET INDEX ค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นมาปิดที่ 1,357.01 จุด บวกเล็กน้อย 2.69 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 33,550 ล้านบาท
ทั้งนี้ต่างชาติคงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 6 เพียง 371 ล้านบาท กลับมา Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ 556 สัญญา และคงการซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 มากถึง 9,564 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
กระแสเงินทุนต่างชาติชะลอ เพื่อรอดูการประชุม ECB วันพรุ่งนี้
ติดตามตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ คืนนี้
FAA ลดระดับมาตรฐานความปลอดภัยการบินของไทย เป็น Category 2 มีผลกระทบจำกัด
งาน Thailand Focus เริ่มแล้ววันนี้ จนถึงวันที่ 4 ธ.ค.
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองการลงทุนเป็น "กลาง" วันที่ 12 พร้อมประเมินกรอบแกว่งระหว่าง 1,350-1,365 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.0-3.5 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้จับตาการปรับพอร์ตของสถาบันจาก upstream อย่าง PTTEP เป็น Downstream อย่างหุ้นโรงกลั่น ซึ่ง QTD ค่าการกลั่นเพิ่มขึ้น 22.81% qoq และ 23.01% yoy ปิดล่าสุดที่ US$8.40/barrel เทียบกับราคาน้ำมันดิบ Brent ที่ QTD -9.42% qoq ปิดล่าสุดวานนี้ US$44.44/barrel ขณะที่ราคาหุ้น PTTEP ปรับตัวลง QTD 11.07% น่าจะสะท้อนความเปราะบางดังกล่าวไปมากแล้วเช่นกัน ด้วยประเด็นเหล่านี้ เราจึงมองว่า Downside risk ของ SET INDEX ในภาพรวมเป็นไปอย่างจำกัด
ขณะที่กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง / กลุ่มวัสดุก่อสร้าง / กลุ่มธนาคาร จะทรงตัวถึงขยับขึ้น หลัง ครม.วานนี้เห็นชอบ Action Plan ของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 20 โครงการ มูลค่า 1.7 ล้านล้านบาทที่ รมว.คมนาคมเสนอต่อครม. สะท้อนถึงความจริงจัง และการเดินหน้าผลักดันโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ตามที่วางแผนไว้
สำหรับผลของการปรับลดมาตรฐานของ FAA เราประเมินว่ามีผลกระทบที่จำกัด สายการบินที่บินเข้าสหรัฐฯ มีเพียง THAI เท่านั้น และ Category 2 นั้น ห้ามเพิ่มเส้นทางเที่ยวบิน หรือ จุดลงใหม่ ซึ่ง THAI ไม่มีแผนเพิ่มเส้นทาง หลังจากหยุดบินเส้นทางกรุงเทพ - LA ไปในเดือนต.ค. แต่อาจกดดัน Sentiment ของกลุ่มท่องเที่ยวได้ ซึ่งหาก AOT ปรับตัวลงแรงจากประเด็นนี้ในวันนี้ กลับกลายเป็นจังหวะของการเก็งกำไรได้เช่นกัน
ส่วนกระเงินทุนต่างชาติมีแนวโน้มชะลอตัวมากยิ่งขึ้น เพื่อรอดูผลการประชุม ECB ในเย็นวันพรุ่งนี้ (ตามเวลาประเทศไทย) ณ ปัจจุบัน ตลาดประเมินว่า ECB จะเพิ่มมาตรการทางการเงิน
วงเงินการเข้าซื้อสินทรัพย์ (QE) เพิ่มอีก 1.5-2.0 หมื่นล้านยูโร เป็น 7.5-8.0 หมื่นล้านยูโร/ เดือน
ยืดเวลาโครงการ QE ออกไปอีก 6 เดือน จากปัจจุบันโครงนี้จะสิ้นสุดเดือนก.ย. 2559
การลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากกับ ECB ณ ปัจจุบัน -0.20% เป็น -0.30-0.40% แต่จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.05%
ทั้งนี้ ค่าเงินยูโรอ่อนค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ 4.96% QTD ดังนั้นหากผลการประชุมเป็นไปตามที่ตลาดคาด อาจเกิด Covered Short เงินยูโร หรือ เงินยูโรจะกลับมาแข็งค่าชั่วคราวจากการสะท้อนผลการประชุมเท่านั้น แต่ทิศทางของนโยบายดังกล่าวจะเปิดทางให้ทำ Euro Carry Trade อีกระลอก เราประเมินว่าจะเกิดขึ้นในต้นปีหน้า โดยตลาดหุ้นเกิดใหม่น่าจะเป็นเป้าหมายของการเก็งกำไรครั้งนี้
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนถือพอร์ตหุ้นระยะสั้น และอาจพิจารณาขายทำกำไรบางส่วน หากราคาหุ้นเป้าหมายฟื้นตัว"
Top Pick in 4Q15: BMCL / ITD/ TMB/ TPIPL
HOLD: ITD / TPIPL/ WHA/ IFEC/ INTUCH/ KTB/ BMCL
Accumulative Buy: TPIPL
Speculative Buy: PTTEP
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "ทยอยสะสม" ได้แก่
TPIPL : ราคาปิด 2.34 บาท ราคาเหมาะสม 3.40 บาท
MBKET คงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่ได้ประโยชน์โดยตรงจากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐฯในปี 2559 หลังวานนี้ ครม.เห็นชอบ Action Plan 20 โครงการลงทุนเร่งด่วน 1.7 ล้านล้านบาทระหว่างปี 2558-2560
TPIPL ได้ประโยชน์โดยตรงจากค่าเงินยูโรที่อ่อนค่าลง เนื่องจากมีหนี้สกุลยูโรอยู่ 160 ล้านยูโร และคาดว่าค่าเงินยูโร / เงินบาทจะมีทิศทางอ่อนค่าลงอีก เนื่องจากคาดว่าการประชุม ECB ในวันพฤหัสนี้จะมีการออกมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มเติม เช่น เพิ่มวงเงินซื้อคืนพันธบัตร, ขยายอายุโครงการ QE
คาดผลประกอบการ 4Q58 จะพลิกกลับเป็นกำไรสุทธิ qoq จากแรงหนุนของกำไรจากการดำเนินงานปกติที่คาดว่าจะเติบโต qoq เนื่องจากเป็นไตรมาสแรกที่รับรู้รายได้โรงไฟฟ้าขยะจำนวน 73MW แบบเต็มไตรมาส และคาดว่าจะมีกำไรพิเศษจากอัตราแลกเปลี่ยนอีกราว 300-400 ล้านบาท
ราคาปัจจุบันซื้อขายระดับ PBV 2559 เพียง 0.78 เท่า ต่ำกว่า SCC และ SCCC ที่ 2.31 และ 3.11 เท่าตามลำดับ
และ "ซื้อเก็งกำไร" ได้แก่
PTTEP : ราคาปิด 62.25 บาท ราคาเหมาะสม 87.00 บาท
ราคาหุ้นปรับตัวลงแรงถึง -11.0% QTD ใน 4Q58 ปรับตัวลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบ Brent ที่ปรับตัวลง -8% QTD ใน 4Q58 อย่างไรก็ตาม คาดว่าราคาน้ำมันดิบ NYMEX และ BRENT จะเริ่มทรงตัวได้เนื่องจากจะมีการประชุม OPEC ในวันศุกร์นี้
คาดผลประกอบการ 4Q58 จะดีขึ้น qoq เมื่อเทียบกับ 3Q58 ที่มีผลขาดทุนเป็นจำนวนมากจากการรับรู้ผลด้อยค่าของเงินลงทุน อย่างไรก็ตาม ผลจากการตั้งสำรองด้อยค่าเงินลงทุนไปเป็นจำนวนมากจะส่งผลให้ต้นทุนค่าเสื่อมราคาลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ 4Q58 เป็นต้นไป
มีโอกาสเกิด Short Covering หากราคาหุ้นรีบาวน์ขึ้นผ่านระดับ 63.50 บาท เนื่องจากถูก SBL สูงสุดเป็นอันดับ 3 วานนี้มูลค่า 125.4 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 63.34 บาท
Valuation ค่อนข้างถูก ซื้อขายระดับ PBV2559 เพียง 0.74 เท่า เทียบกับหุ้นในกลุ่ม PTT ได้แก่ PTT ที่ 1.03 เท่า, TOP 1.25 เท่า, PTTGC 0.89 เท่า และ IRPC 1.06 เท่า
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชีย กลับมาซื้อสุทธิเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วันทำการ US$362 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$1.2 พันล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติขายสุทธิเพียงบางส่วนในตลาดหุ้นไทย
นักลงทุนต่างชาติคงการขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 6 แต่ลดลงเหลือเพียง 371 ล้านบาท รวม 6 วันทำการ ขายสุทธิ 5,606 ล้านบาท เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,223 ล้านบาท ส่งผลให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ยังคงขายสุทธิสูงกว่า 1.2 แสนล้านบาท เป็น 122,188 ล้านบาท
แต่ SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติกลับมา Long สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ 556 สัญญา เทียบกับ 3 วันทำการก่อนหน้า Short สุทธิ 10,848 สัญญา และ 6 วันทำการก่อนหน้า Long สุทธิ 13,479 สัญญา คาดว่าจะเป็นการกลับมาเปิดสถานะ Long อีกครั้ง หลัง SET50 Index และ S50Z15 ทรงตัวดีขึ้น ส่งผลให้ QTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Long สุทธิขยับขึ้นเล็กน้อยเป็น 36,476 สัญญา และ S50Z15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 20 กว้างขึ้นเล็กน้อยเป็น 2.19 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เพียง 1.98 จุด ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิเป็นวันที่ 15 ลดลงเล็กน้อยเป็น 24,251 สัญญา
และเงินทุนต่างชาติพักในตลาดตราสารหนี้ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ซื้อสุทธิเร่งขึ้นเป็น 9,564 ล้านบาท รวม 2 วันทำการ ซื้อสุทธิ 12,269 ล้านบาท ส่งผลให้ราคาพันธบัตรไทยขยับขึ้นเล็กน้อย ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลงเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 2.94bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 3.89bps ปิดที่ 2.712%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ขยับขึ้นเป็นวันที่ 2 สูงถึง 1,066 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 717 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 8 กลับมาเน้นTOP แต่ลดน้ำหนัก PTT
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิลดลงเป็น 383 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,266 ล้านบาท รวม 8 วันทำการ ซื้อสุทธิ 6,990 ล้านบาท โดยกลับมาเน้นกลุ่มพลังงานอีกครั้ง สรุปภาพการลงทุนได้ดังนี้
1. กลุ่มพลังงาน กลับมาซื้อสุทธิสูงสุดอีกครั้ง 321 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 258 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มอาหาร ซื้อสุทธิ 283 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 433 ล้านบาท กลุ่ม ICT ซื้อสุทธิ 147 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่มธนาคารถูกขายสุทธิสูงสุดอีกครั้ง 252 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 285 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ ขายสุทธิ 69 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นกลาง
oดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้น เดือนพ.ย. เท่ากับ 52.8 จุด ใกล้เคียงกับที่ Bloomberg consensus คาดที่ 52.6 จุด แต่ต่ำกว่าเดือนก่อนหน้าที่ 54.1 จุด ทั้งนี้คำสั่งซื้อใหม่เพิ่มขึ้นในระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี คำสั่งซื้อสินค้าส่งออกหดตัว
oดัชนี ISM ภาคการผลิตเดือนพ.ย. เท่ากับ 48.6 จุด ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 50.5 จุด และเดือนก่อนหน้า 50.1 จุด ถือเป็นระดบต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2552 โดยคำสั่งซื้อใหม่ลดลง 4.0 จุด เป็น 48.9 จุด ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2555
oการใช้จ่ายภาคการก่อสร้าง เดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.0% mom ดีกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 0.6% mom และเดือนก่อนหน้าที่ 0.6% mom ถือเป็นการขยายตัวดีที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.
ยุโรป
ดัชนี PMI ภาคการผลิตของอังกฤษยังคงแข็งแกร่ง: เดือนพ.ย.เท่ากับ 52.7 จุด ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 55.2 จุด แต่ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด 53.6 จุด ทั้งนี้สัญญาณภาคการผลิตจะยังเป็นบวกต่อ 4Q58 ความต้องการยังคงเติบโต คำสั่งซื้อใหม่ภาคการส่งอก เติบโตเร็วกว่าในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
นายกฯ กรีซคาดว่าจะยกเลิกมาตรการควบคุมเงินทุนในกลางปีหน้า: นายกฯ กรีซ ประเมินเศรษฐกิจกรีซปรับตัวดีขึ้นตามแผนที่วางไว้ คาดว่าการควบคุมเงินทุนไหลเข้า - ออก จะสามารถยกเลิกมาตรการดังกล่าวได้ในช่วง 1H59
จีน
ตัวเลข PMI ของจีนยังไม่ฟื้นตัว: ดัชนี Caixin PMI ภาคการผลิต เท่ากับ 48.6 จุด ในเดือนพ.ย. เป็นระดับที่ต่ำกว่า 50.0 จุด เดือนที่ 9 ติดต่อกัน แต่เริ่มฟื้นตัวจากเดือนต.ค.ที่ 48.3 จุด ขณะที่ตลาดคาดการณ์ 48.3 จุด
เอเชียแปซิฟิก
ส่งออกเกาหลีใต้หดตัวเป็นเดือนที่ 11: เดือนพ.ย. ลดลงอีก 4.7% yoy เป็น US$4.44 หมื่นล้าน เป็นการลดลงเดือนที่ 11 ส่วนการนำเข้าลดลง 17.6% yoy เป็น US$3.407 หมื่นล้าน ส่งผลให้เกาหลีใต้มีดุลการค้าเกินดุล US$1.36 หมื่นล้าน เป็นการเกินดุลเดือนที่ 46 นับตั้งแต่เดือนก.พ. 2556
ธนาคารกลางออสเตรเลียคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย: เท่ากับ 2.0% สอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ เศรษฐกิจเติบโตในระดับปานกลางต่อเนื่อง แม้ว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะปรับตัวลงแรง และส่งผลกระทบต่อภาคการค้าของออสเตรเลียก็ตาม
ธนาคารกลางอินเดียคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย: เท่ากับ 6.75% สอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ หลังก่อนหน้าธนาคารกลางได้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายมาตลอดการประชุม 4 ครั้งก่อนหน้า
อัตราเงินเฟ้ออินโดนีเซียชะลอตัวลง: เพิ่มขึ้น 4.89% yoy ในเดือน พ.ย. จากเดือนก่อนที่ +6.25% yoy ใกล้เคียงกับ Bloomberg Consensus คาด +4.85% yoy ทั้งนี้ราคาอาหารและขนส่งชะลอตัวลงโดยเพิ่มขึ้น 4.96% และ 3.47% จากเดือนก่อนที่เพิ่มขึ้น 6.85% และ 7.84% ตามลำดับ
ตัวเลขการผลิตเดือน พ.ย.ในเอเชียส่วนใหญ่ลดลง แต่เพิ่มขึ้นสำหรับในเอเชียเหนือ:
ดัชนี Nikkei PMI ภาคการผลิตของเวียดนามลดลงอยู่ที่ระดับ 49.4 จุด จากเดือน ต.ค. 50.1 จุด
ดัชนี Nikkei PMI ภาคการผลิตของอินโดนีเซียลดลงอยู่ที่ระดับ 46.9 จุด จากเดือน ต.ค. 47.8 จุด
ดัชนี Nikkei PMI ภาคการผลิตของมาเลเซียลดลงอยู่ที่ระดับ 47.0 จุด จากเดือน ต.ค. 48.1 จุด
ดัชนี Nikkei PMI ภาคการผลิตของอินเดียลดลงอยู่ที่ระดับ 50.3 จุด จากเดือน ต.ค. 50.7 จุด
ดัชนี Nikkei PMI ภาคการผลิตของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 52.6 จุด จากเดือน ต.ค. 52.4 จุด
ดัชนี Nikkei PMI ภาคการผลิตของไต้หวันเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 49.5 จุด จากเดือน ต.ค. 47.8 จุด
ดัชนี Nikkei PMI ภาคการผลิตของเกาหลีใต้คงที่อยู่ที่ระดับ 49.1 จุด เท่ากับเดือน ต.ค.
ไทย
สมคิด เบรคทางคู่ไทย - จีน: วันที่ 3 ธ.ค.2558 นี้ จะมีการประชุมร่วมกับฝ่ายจีนเป็นครั้งที่ 9 ที่โรงแรมโอเรียลเต็ล กรุงเทพฯ นี้จะยังไม่มีการลงนามกรอบความร่วมมือรถไฟไทย-จีน เส้นทางกรุงเทพฯ-แก่งคอย-นครราชสีมา-หนองคาย และแก่งคอย-มาบตาพุด ซึ่งเป็นกรอบการทำงานร่วมกัน ที่ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติมาก่อนหน้านี้ เนื่องจากทางการจีนได้ขอเปลี่ยนตัวบริษัทคู่สัญญาที่จะซื้อยางพาราจากรัฐบาลไทย ขณะเดียวกันก็ขอเปลี่ยนเงื่อนไข โดยขอซื้อเฉพาะยางพาราใหม่เท่านั้น ซึ่งขัดกับเงื่อนไขเดิมที่ตกลงกันไว้ว่าจะซื้อยางเก่า ดังนั้นหากเรื่องยางพารายังไม่ได้ข้อยุติ จะยังไม่มีการลงนามกับจีนเพิ่มเติม นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จึงให้นโยบายทุกหน่วยยุติการลงนามกับรัฐบาลจีนออกไปก่อน จนกว่าจะได้ข้อสรุปเรื่องสัญญาขายยางพารา
ครม.เคาะ Action Plan โครงสร้างพื้นฐาน: ครม.เห็นชอบแผนปฏิบัติการด้านคมนาคมขนส่งระยะเร่งด่วน (Action Plan) ปี 2559 ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยโครงการลงทุนขนาดใหญ่ในปี 2558-2565 ที่มีความพร้อมจะเริ่มประกวดราคาได้ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทยระยะเร่งด่วน 20 โครงการ มูลค่า 1.79 ล้านล้านบาท สำหรับโครงการที่มีความพร้อมและได้รับการอนุมัติจาก ครม. ซึ่งจัดให้อยู่ในกลุ่ม 1 ที่มีความพร้อมมากที่สุด และจะประกวดราคาภายในปี 2558 หรือไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2559 มี 6 โครงการ วงเงินลงทุนรวม 186,000 ล้านบาท คือ 1.รถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางจิระ-ขอนแก่น 2.ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง(มอเตอร์เวย์) สายพัทยา-มาบตาพุด 3.มอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา 4.การพัฒนาท่าเทียบเรือชายฝั่ง (ท่าเทียบเรือเอ) ที่ท่าเรือแหลมฉบัง 5.การพัฒนาศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟที่ท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 1 และ 6.การพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะ 2
อัตราเงินเฟ้อไทยหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11: ลดลง 0.97% yoy ในเดือน พ.ย. จากเดือนก่อนหน้าที่ลดลง 0.77% yoy และเป็นการหดตัวแรงกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดลดลง 0.68% yoy นอกจากนี้ยังเป็นการลดลง 0.32% mom จากการลดลงของราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศ รวมถึงราคาผักและผลไม้สด เนื้อสุกรและไข่ไก่ ที่ลดลงตามปริมาณผลผลิตที่ออกสู่ตลาดมากขึ้น แต่ความต้องการบริโภคยังคงเท่าเดิม ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน(Core CPI) เพิ่มขึ้น 0.88% yoy สำหรับในช่วง 11M58 อัตราเงินเฟ้อลดลง 0.90% yoy กระทรวงพาณิชย์ ยังคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะติดลบต่อเนื่องจนถึงปลายปีนี้ และยังอยู่ในช่วงคาดการณ์ทั้งปีนี้ ลดลง 0.2% ถึงลดลง 1.0% ขณะที่ปี 2559 คาดว่าจะกลับมาบวก 1-2%
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530