- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 04 July 2014 14:17
- Hits: 2440
บล.ทิสโก้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +1.40 จุด แกว่งบวกกรอบแคบ รอปัจจัยชี้นำใหม่
SET แกว่งแดนบวกในกรอบแคบๆ 1488-95 โดยปรับขึ้นเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน มีแรงซื้อเข้ามาโดดเด่นต่อเนื่องในหุ้นกลุ่มธนาคาร เก็งผลประกอบการ Q2 ที่จะเริ่มทยอยประกาศในสัปดาห์หน้า ต่างชาติซื้อสุทธิ 446 ลบ.
ทิศทางตลาดวันนี้ : ขึ้นทดสอบ 1500 การจ้างงานหนุน DJIA ทะลุ 17000
หุ้นโลกเมื่อคืน (3 ก.ค.) ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ (DJIA) ทะลุ 17000 จุด และตลาดหุ้นเยอรมัน (DAX) ทะลุ 10000 จุด ปิดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ทั้ง 2 ตลาด ขานรับการจ้างงานสหรัฐฯ มิ.ย. แข็งแกร่งมาก โดยเพิ่มขึ้น 288,000 ตำแหน่ง vs +224,000 ตำแหน่งใน พ.ค. และคาด +215,000 ตำแหน่ง ส่งผลให้อัตราว่างงานลดลงเป็น 6.1% (vs พ.ค. และคาดที่ 6.3%) ขณะที่ ECB คงอัตราดบ.ตามคาดที่ 0.15% และปธ.ECB ยืนยันใช้มาตรการพิเศษ (Unconventional Measures) เพื่อกระตุ้นศก.ต่อไป หากเงินเฟ้อยังขยายตัวในระดับต่ำมากกว่าคาด ส่วนร่างรธน.ปกครองปท.ชั่วคราวยังไม่สมบูรณ์ หลังพล.อ.ประยุทธ์ หัวหน้าคสช.สั่งแก้ไขเนื้อหาบางมาตรา แต่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เราเชื่อว่าจะสามารถคลอดได้ภายในกลางเดือนนี้ มอง SET ขึ้นทดสอบแนวต้านระดับ 1500-1505 จากบรรยากาศเชิงบวกของหุ้นตปท.หนุน ระหว่างวันแกว่งจากแรงขายทำกำไร มีแนวรับ 1485+/- อนึ่ง หุ้น BTC, KC, MAX, NUSA, TFD, VIH, VTE คาดติด Cash Balance เย็นนี้ (4 ก.ค.)
กลยุทธ์การลงทุน : ขึ้นยังแนะขายล็อกกำไร ถือเงินสดเพิ่มรอจังหวะเข้ารอบใหม่
สัปดาห์นี้ (30 มิ.ย. – 4 ก.ค.) TISCO Weekly Guru แนะนำลดพอร์ตลงทุนหุ้นลงจาก 60% เหลือ 40% โดยไม่มีหุ้นเด่นแนะนำใหม่สำหรับสัปดาห์นี้ มีเพียงหุ้นที่ถืออยู่ติดพอร์ตจากสัปดาห์ที่แล้ว คือ KTB, HMPRO, THCOM, SIM เรามองภาพการลงทุนเดือน ก.ค. ต้องใช้ความระมัดระวังสูง เพราะน่าจะมีแนวโน้มผันผวน หลัง SET ปัจจุบันปรับตัวขึ้นมาเกือบถึงระดับ 1500 จุด สะท้อนการคาดหวังเชิงบวกจากนโยบายการฟื้นฟูประเทศของ คสช. ในระดับหนึ่งแล้ว
ขณะที่เรามองว่า การลงมือสู่ภาคปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต้องใช้เวลาในการขับเคลื่อน ไม่รวดเร็วดั่งราคาหุ้นที่ขยับขึ้น (มี Execution Risk) จึงอาจทำให้มีแรงขายทำกำไรออกมาได้ในไม่ช้านี้ นอกจากนี้ ในแง่ของการประเมินมูลค่า SET ค่อนข้างตึงตัวมาก โดยคิดเป็น Forward PER 12 เดือนข้างหน้าที่ 12.7 เท่า ซึ่งค่อนข้างสูง ทั้งนี้เนื่องจากในอดีตช่วงเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา ระดับ Forward PER ที่มากกว่า 12.5 เท่าถือว่าเป็นจุดอันตราย เพราะมักจะตามด้วยการปรับตัวลงเฉลี่ย 7-8% ในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า สำหรับประเด็นการลงทุนเดือน ก.ค. เรามองหุ้นงบ Q2 ที่คาดว่าจะออกมาดี และ/หรือหุ้นที่จ่ายปันผลระหว่างกาลดี จะเป็นเป้าหมายการลงทุนหลัก ในช่วง 2 เดือนข้างหน้านี้ หุ้นเด่น (Top picks) สำหรับเดือน ก.ค. คือ ANAN, BECL, DEMCO, INTUCH, PTTGC, SCB, STEC, THCOM สำหรับหุ้นที่มีสัญญาณเชิงบวกเหมาะแก่การเทรดระยะสั้น คือ JAS, PPP, PTL, WINNER
หุ้นเด่นรายวัน : JAS
JAS – ราคาหุ้นเริ่มขยับขึ้น หลังร่วง 3 วันติด เบื้องต้นคาดงบ 2Q57F ยังมีกำไรดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ มาแถว 900 ลบ. จาก 715 ลบ.ใน 2Q56 และ 852 ลบ.ใน 1Q57 ปันผลดีที่ 4-5% ต่อปี จากกระแสเงินสดดี และมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง ล่าสุดออกแผนซื้อหุ้นคืนวงเงิน 1 พันลบ. ซึ่งทยอยซื้อคืนบางแล้ว หนุนกำไรเพิ่มราว 2% สำหรับการออก IFF คาดว่าจะเลื่อนเป็นช่วงปลายปีนี้ มูลค่าเหมาะสม 10.9 บ. (DCF)
ปัจจัยติดตาม
วันที่ ปท. เหตุการณ์
4 ก.ค. GE ตัวเลขคำสั่งซื้อสินค้าภาคโรงงานของเยอรมันในเดือน พ.ค.
US ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการ เนื่องในวันชาติสหรัฐฯ
7 ก.ค. JP ตัวเลขดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ในเดือน พ.ค. (เบื้องต้น)
GE ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมันในเดือน พ.ค.
ที่มา : Bloomberg, DB, TISCO Research
นักวิเคราะห์ :
อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 18171 02-633-6467 : [email protected]
ธนพล บำรุงพงศ์ เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 46537 02-633-6471 : [email protected]