- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 01 December 2015 17:50
- Hits: 907
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ เปิดย่อตัวลงสู่แนวรับ 1,355 จุด ก่อนเกิดการฟื้นตัวกลับมาแกว่งแคบ 1,365 จุด +/- ผลักดันด้วยกลุ่มธนาคาร / ขนส่ง /โรงพยาบาล เป็นต้น ทั้งนี้ภาวะการลงทุนเป็นไปอย่างระมัดระวัง เพราะความกังวลต่อการปรับดัชนี MSCI ณ ระดับปิดวันนี้ ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นเป็นไปอย่างจำกัด ส่งผลให้ SET INDEX ปิดลบเพียง 3.43 จุด มาอยู่ที่ 1,359.70 จุด มูลค่าการซื้อขายขยับขึ้นเป็น 44,890 ล้านบาท
ทั้งนี้ต่างชาติคงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 5 ตามคาด 2,572 ล้านบาท Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 3 อีก 6,006 สัญญา แต่กลับมาซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้ 2,705 ล้านบาท และค่าเงินบาทแข็งค่า 4-5 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐฯ ตลอดชั่วโมงการซื้อขาย
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ตัวเลขภาคเอกชนเดือนต.ค.ของไทยส่งสัญญาณฟื้นตัวต่อเนื่อง
แรงขายจากต่างชาติต่อตลาดหุ้นไทย กลับสู่ระดับปกติ หลังปรับน้ำหนักการลงทุนตามดัชนี MSCI
ติดตามการประชุมครม.วันนี้ อาจมีการพิจารณาและอนุมัติแผนการควบรวม BMCL และ BECL ตามที่รมว.คมนาคมเสนอเรื่อง
ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนอยู่ที่ 49.6 จุดในเดือน พ.ย.ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาดเล็กน้อยที่ 49.8 จุดและยังคงเป็นระดับที่ต่ำกว่า 50 จุด แต่ PMI ภาคบริการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอยู่ที่ 53.6 จุด จากเดือนก่อน 53.1 จุด
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองการลงทุนเป็น “กลาง” วันที่ 11 และถือว่า SET INDEX ทรงตัวได้อย่างแข็งแกร่งในวานนี้ แม้ว่าจะปิดต่ำกว่า 1,360 จุดเล็กน้อย จากการปรับดัชนี MSCI รอบ 6 เดือน แต่เรากลับมองว่าหุ้นหลักที่ปรับตัวลงในวานนี้ อย่าง PTT / PTTEP / ADVANC จะเกิด Technical rebound ในวันนี้ เพราะการปรับตัวลงวานนี้เป็นผลจาก MSCI เท่านั้น ปัจจัยพื้นฐานยังไม่เปลี่ยนแปลง
ขณะที่สัญญาณด้านเศรษฐกิจไทย ฟื้นตัวเป็นลำดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดัชนีความเชื่อมั่นภาคเอกชนที่กลับมายืนเหนือ 50.0 จุด เป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน หากเอกชนกลับมาเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจมากขึ้น แนวโน้มการจ้างงานใน 1H59 จะเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัว ซึ่งจะนำไปสู่ภาคการบริโภคให้กลับมาขยายตัวในระดับที่แข็งแกร่งมากขึ้นเป็นลำดับ แต่แน่นอนว่า การลงทุน / การใช้จ่ายของภาครัฐ จะยังคงเป็นตัวชี้นำต่อไปอีกในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า ด้วยการเริ่มประมูลโครงการลงทุนขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการผลักดันโครงการลงทุนร่วมกับเอกชนผ่านโครงการ Fast Track PPP
ด้านกระแสเงินทุนต่างชาติ เราเชื่อว่าจะกลับมาทรงตัวทั้งในแง่ของการซื้อสุทธิ หรือ ขายสุทธิ เบาบาง เพื่อรอดูทิศทางการประชุม ECB ในวันที่ 3 ธ.ค. ว่าจะมีการเพิ่มปริมาณเงินการเข้าซื้อสินทรัพย์ 1.50-2.00 หมื่นล้านยูโร/เดือน ตามที่ตลาดคาดการณ์หรือไม่ เพราะจะเป็นตัวแปรต่อการทำ Euro Carry Trade มากขึ้น เงินทุนมีโอกาสกลับเข้าลงทุนในตลาดเกิดใหม่ในเอเชียช่วงต้นปีหน้า
ด้วยปัจจัยแวดล้อมเหล่านี้ เราประเมินกรอบแกว่งของ SET INDEX ระหว่าง 1,355-1,370 จุด มูลค่าการซื้อขายจะกลับมาเบาบางระดับ 2.0-2.5 หมื่นล้านบาท/วัน เพราะเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวของตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องถึงสัปดาห์หน้า
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ “นักลงทุนถือพอร์ตหุ้นระยะสั้น และอาจพิจารณาขายทำกำไรบางส่วน หากราคาหุ้นเป้าหมายฟื้นตัว”
Top Pick in 4Q15: BMCL / ITD/ TMB/ TPIPL
HOLD: ITD / TPIPL/ WHA/ IFEC/ INTUCH/ KTB/ BMCL
Accumulative Buy: ADVANC / BECL
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham
Assistant Analyst
662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong
