WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

May copyบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

กลยุทธ์วันนี้ Sideways

ตลาดหุ้นวานนี้:
    ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ยังคงเป็นการแกว่งในกรอบระหว่าง 1,380-1,388 จุด กลุ่ม ICT ยังคงปรับตัวลงต่อเนื่อง จากความกังวลต่อฐานทุนของ TRUE กับการประมูลคลื่น 4G ความถี่ 900MHz ในปลายปีนี้ ขณะที่กลุ่มพลังงาน /ธนาคารฟื้นตัวเด่น ช่วยประคอง SET INDEX ในภาพรวม ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,381.46 จุด ลบ 3.46 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบาง 31,988 ล้านบาท
      ทั้งนี้ ต่างชาติคงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 อีก 1,649 ล้านบาท คงการ Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 6 อีก 808 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 4 อีก 3,363 ล้านบาท ส่งผลให้ค่าเงินบาทมีทิศทางของการแข็งค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ตลอดชั่วโมงการซื้อขาย

ปัจจัยสำคัญวันนี้
ตลาดทุกตลาดในสหรัฐฯ ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า
กระแสเงินทุนต่างชาติชะลอการลงทุน
สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่าง ตุรกี และ รัสเซีย ทรงตัว

มุมมองต่อตลาด
      เราคงมุมมองการลงทุนเป็น "กลาง" วันที่ 8 ประเมินว่ากลุ่ม ICT มีแนวโน้มทรงตัวดีขึ้น หลังจากปรับตัวลงไปแล้วทั้งสิ้น 11.45% นับตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย. ประมูลคลื่น 4G ความถี่ 1800MHz โดยหุ้นที่ปรับตัวลงแรงสุด DTAC 21.91% ตามมาด้วย TRUE 16.67% JAS 12.82% และ ADVANC 10.48% ตามลำดับ สะท้อนต้นทุนใบอนุญาตสูงกว่าที่ตลาดคาด บวกกับความกังวลต่อการประมูล 4G ความถี่ 900MHz วันที่ 15 ธ.ค. อย่างไรก็ตาม หุ้นที่เกี่ยวข้องกับเหล่านี้คาดว่าจะฟื้นตัวได้อย่างจำกัดในช่วงนี้เช่นกัน จนกว่าจะได้ข้อสรุปการประมูลคลื่น 4G ในกลางเดือนธ.ค.
ขณะที่กระแสเงินทุนต่างชาติ เราคาดว่าจะทรงตัวในช่วง 2 วันทำการนี้ เนื่องด้วยวันขอบคุณพระเจ้า ทุกตลาดในสหรัฐฯ ปิดทำการวันนี้ และเปิดทำการพรุ่งนี้เพียงครึ่งวันเท่านั้น ส่งผลให้หุ้นขนาดใหญ่มีแนวโน้มทรงตัว หรือ แกว่งในกรอบแคบ อีกทั้งสถาบันภายในประเทศมีแนวโน้มชะลอการลงทุน เพื่อรอดูสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างตุรกี และ รัสเซีย รวมถึงสถานการณ์ภาพรวมในยุโรป ช่วงสุดสัปดาห์นี้
       ดังนั้น หุ้นขนาดกลางและเล็กจะมีแนวโน้มขยับเด่น เหนือภาพรวมของตลาดหุ้นโดยรวม รวมถึงกลุ่มท่องเที่ยว / สนามบิน / สายการบิน ที่ได้รับอานิสงค์เชิงบวกจากความวุ่นวายในยุโรป นักท่องเที่ยวจีนมีแนวโน้มจะเปลี่ยนแปลงการท่องเที่ยวในช่วงสิ้นปี มายังประเทศไทย บวกกับการเป็น High Season ของธุรกิจท่องเที่ยว เราเชื่อว่า หุ้นในกลุ่มดังกล่าวเกิดการย่อตัวลงระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย น่าสนใจเข้าซื้อเก็งกำไรรอบสั้น เพราะแนวโน้มผลการดำเนินงานใน 4Q58 - 1Q59 จะเติบโต qoq เด่น

กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนถือพอร์ตหุ้นระยะสั้น เพื่อรอขายทำกำไรบริเวณ 1,390 จุด +/- และอาจเข้าเก็งกำไรเพิ่มเติมในหุ้นเป้าหมาย หากราคาปรับฐานลงระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย"

Top Pick in 4Q15: BMCL / ITD/ TMB/ TPIPL
HOLD: ITD / TPIPL/ ADVANC/ WHA/ IFEC/ INTUCH/ KTB/ BMCL
Accumulative Buy: BMCL

Stock Pick of the Day

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "สะสม" ได้แก่
BMCL : ราคาปิด 2.00 บาท ราคาเหมาะสม 2.72 บาท
      BMCL - BECL อยู่ระหว่าง Roadshow กับเราในสัปดาห์นี้ เพื่อให้ข้อมูลกับกองทุนต่างชาติที่ประเทศฮ่องกง - สิงคโปร์ - มาเลเซีย และผลตอบรับของกองทุนต่างชาติตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านเป็นบวก และให้ความสนใจมากต่อบริษัทใหม่จากการควบรวมคือ BEM
เนื่องจาก BEM จะเป็นหุ้นเด่นในกลุ่มขนส่ง จากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งเพราะเป็นธุรกิจที่มีกระแสเงินสดมั่นคง, เติบโตต่อเนื่อง และมีโอกาสในการขยายธุรกิจได้อีกมาก ทั้งทางด่วน, รถไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นอีกเป็นจำนวนมากตามการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
มีปัจจัยบวกที่ชัดเจนรออยู่ในปี 2559 ได้แก่ 1.การเปิดให้บริการทางด่วนสายศรีรัช - วงแหวนตะวันตก และ 2.การเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณผู้ใช้บริการได้อย่างมีนัยสำคัญฯ
คาดว่าการควบรวมกิจการจะได้รับความเห็นชอบจากครม.ภายในวันที่ 8 ธ.ค. หลังได้ผ่านการพิจารณาจากอัยการสูงสุดแล้ว ขณะที่ขั้นตอนการควบรวมจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นปี 2558 และเริ่มการซื้อขาย "BEM" ในช่วงต้นปี 2559
คงมุมมองบวกต่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัทใหม่หลังการควบรวม คือ BEM ซึ่งมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง และด้วยขนาดของ Market Cap ที่ระดับ 6-7 หมื่นล้านบาท เชื่อว่ามีโอกาสที่จะถูกเพิ่มเข้าสู่ดัชนี SET50 และ MSCI ได้ในปีหน้า

Fund Flow Analysis

Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชีย ขายสุทธิเป็นวันที่ 2 อีก US$235 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$230 ล้าน

Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติชะลอการลงทุนในไทยต่อเนื่อง
      นักลงทุนต่างชาติคงการขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 เร่งขึ้นเป็น 1,649 ล้านบาท รวม 2 วันทำการ ขายสุทธิ 1,849 ล้านบาท เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,223 ล้านบาท ส่งผลให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ยังคงขายสุทธิสูงกว่า 1.1 แสนล้านบาท เป็น 118,431 ล้านบาท
SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติคงการ Long สุทธิวันที่ 6 ลดลงต่อเนื่อง เหลือ 808 สัญญา รวม 6 วันทำการ Long สุทธิ 13,479 สัญญา คาดว่าจะเป็นการเปิดสถานะ Long สุทธิต่อเนื่อง ผลักดันให้ QTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Long สุทธิขยับขึ้นเป็น 46,768 สัญญา เมื่อ S50Z15 ปิดต่ำกว่า 900 จุด เป็นวันที่ 13 โดย S50Z15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 16 แต่แคบเหลือเพียง 0.05bps จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 3.78 จุด ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิเป็นวันที่ 11 ลดลงเป็น 13,959 สัญญา
        และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 4 อีก 3,363 ล้านบาท รวม 4 วันทำการซื้อสุทธิ 15,746 ล้านบาท เทียบกับ 9 วันทำการก่อนหน้าขายสุทธิ 26,419 ล้านบาท เมื่อราคาพันธบัตรไทยฟื้นตัวขึ้นเป็นวันที่ 2 ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลงเป็นวันที่ 2 อีก 4.09bps จากวันก่อนหน้าลดลง 3.99bps ปิดที่ 2.748%

Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ลดลงเล็กน้อย เป็น 703 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 717 ล้านบาท

NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 4 คงเน้นกลุ่มธนาคารต่อเนื่อง
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิลดลงเหลือ 628 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,022 ล้านบาท รวม 4 วันทำการ ซื้อสุทธิ 4,459 ล้านบาท โดยคงเน้นกลุ่มธนาคารต่อเนื่อง สรุปได้ดังต่อไปนี้
1. กลุ่มธนาคาร ซื้อสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 2 อีก 407 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 484 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มพลังงาน ซื้อสุทธิ 114 ล้านบาท กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซื้อสุทธิ 86 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่มปิโตรเคมี ขายสุทธิสูงสุด 100 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มท่องเที่ยว ขายสุทธิเพียง 28 ล้านบาท

ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค

สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นกลาง
คำสั่งซื้อสินค้าคงทน เดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 3.0% mom ดีกว่าที่ Bloomberg consensus คาด +1.5% mom และฟื้นตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ -0.8% mom หากไม่รวมรายการขนส่ง คำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น 0.5% mom ซึ่งก็ดีกว่าที่คาดเช่นกัน ทั้งนี้คำสั่งซื้อเครื่องบินพาณิชย์เพิ่มขึ้นมากกว่า 200%
ยอดขอสวัสดิการว่างงาน เพิ่มขึ้น 2.60 แสนตำแหน่ง ดีกว่า Bloomberg consensus คาด 2.70 แสนตำแหน่ง และสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.72 แสนตำแหน่ง
รายได้ส่วนบุคลล เดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 0.4% mom เท่ากับที่ Bloomberg consensus คาด และดีกว่าเดือนก่อนหน้าที่เพิ่มขึ้น 0.2% mom โดยค่าแรงและเงินเดือนเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น 0.6% mom
รายจ่ายส่วนบุคคล เดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 0.1% mom ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด 0.3% mom แต่เท่ากับเดือนก่อนหน้า โดยการใช้จ่ายส่วนใหญ่ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า
ยอดขายบ้านใหม่ เดือนต.ค. เท่ากับ 4.95 แสนหลัง ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด 4.99 แสนหลัง แต่ดีกว่าเดือนก่อนหน้าที่ 4.47 แสนหลัง เนื่องจากการขาดแคลนบ้านใหม่ที่เข้าสู่ตลาด ส่งผลให้อัตราส่วนปริมาณบ้านใหม่ต่อยอดขายลดลง 5.5 เดือน จากเดือนก่อนหน้าที่ 6.0 เดือน
ดัชนี Consumer sentiment เดือนพ.ย. เท่ากับ 91.3 จุด ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 93.1 จุด และเดือนก่อนหน้าที่ 93.1 จุด เป็นผลกระทบจากกรณีก่อการร้ายในกรุงปารีส

ยุโรป
Gazprom หยุดการส่งก๊าซให้ยูเครน: จนกว่ายูเครนจะชำระเงินค่าก๊าซกับทางรัสเซีย กลายเป็นความเสี่ยงที่ยุโรปจะต้องหาก๊าซมาใช้ในช่วงฤดูหนาวนี้ นอกจากนี้ รมว.พลังงานของรัสเซีย เตรียมลดการขายถ่านหินให้ยูเครน สร้างความเสี่ยงให้พื้นที่ไคลเมียร์ของยูเครน จะขาดแคลนไฟฟ้าใช้ อีกเช่นกัน
ECB เตรียมหยุดการเข้าซื้อพันธบัตรเป็นการชั่วคราวในช่วงปลายปี: เนื่องจากสภาพคล่องในตลาดตราสารหนี้จะลดลง ทำให้ ECB ตัดสินใจที่จะหยุดการเข้าซื้อพันธบัตรตามแผนระหว่างวันที่ 22 ธ.ค. ถึง 1 ม.ค. ทั้งนี้ การซื้อพันธบัตรในช่วงวันที่ 27 พ.ย. ถึง 21 ธ.ค. จะมีการเข้าซื้อเพื่อชดเชยช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งนี้ ECB จะกลับมาซื้อในระดับปกติอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค. 2559 เป็นต้นไป

จีน
ดัชนี Consumer sentiment ดีขึ้น: ดัชนี Westpac MNI China Consumer Sentiment เดือนพ.ย. เพิ่มขึ้นเป็น 113.1 จุด จากเดือนก่อนหน้าที่ 109.7 จุด เป็นการฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดนับตั้งแต่การเริ่มจัดทำดัชนีนี้ในปี 2550 ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นในตลาดแรงงานดีขึ้น และผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มธุรกิจดีขึ้น

เอเชียแปซิฟิก
เศรษฐกิจในสิงคโปร์เติบโตดีกว่าคาด: ใน 3Q58 เติบโต 1.9% qoq ฟื้นตัวจาก 2Q58 ที่หดตัว 2.6% qoq และเป็นการปรับตัวเลขขึ้นจากตัวเลขเบื้องต้นที่ขยายตัว 0.1% qoq ขณะที่ Bloomberg consensus คาดว่าจะทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า ส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจสิงคโปร์ปีนี้จะเติบโตราว 2% ส่วนปีหน้าคาดว่าจะขยายตัวได้ 1-3%

ไทย
ไม่มี

Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!