- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 25 November 2015 18:10
- Hits: 1232
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
'หลุด 1380 ดูไม่ดี...แนะลดพอร์ตตาม'
Stock Picks-Nov 2015 : Fundamental : CENTEL, CPN, STEC, SAMART, TCAP และ Dark Horse เป็น PREB, SC
Fundamental Pick -Today: CRNRF (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมด้านใน)
Top Picks-High Div Yield : ADVANC, INTUCH, DCC, AP, QH, SPALI, MODERN, TCAP, TMT, BTSGIF, CPNRF, SPF
Shot Sell-Prev : AIT 43%, DTAC 24%
Technical View ภาพตลาดพลิกเป็นลบ
Support Resistance Stop Loss
SET ซื้อค่าบวก 1390,1400-10 ต่ำกว่า 1380
SET50 ซื้อค่าบวก 900,910-20 ต่ำกว่า 885
Technical Picks- Today : TISCO, DCC, CPN, INET, BCH, KKC, ROBINS, MCS
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ความเสี่ยงจากปัจจัยการเมืองระหว่างประเทศมีมากขึ้น หลังจากเมื่อวานนี้ตุรกียิงเครื่องบินรบรัสเซียตก และทางกลุ่ม NATO เรียกประชุมประเทศสมาชิกฉุกเฉินเพื่อรับมือกับภัยก่อการร้ายที่มีเข้ามาถี่ขึ้นในช่วงนี้ หลายประเทศใช้แผนป้องกันความเสี่ยงขั้นสูง ทั้งในยุโรป สหรัฐ ออสเตรเลีย และรัสเซีย
ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นแรงในช่วงสั้น เพราะสถานการณ์ในตะวันออกกลางมีความกดดันมากขึ้น ซึ่งหุ้นกลุ่มนี้มี Market Cap ใหญ่ ก็อาจพยุงตลาดไว้ไม่ให้ลงแรง แต่เรามองว่าโดยภาพรวมแล้วสถานการณ์และปัจจัยไม่น่าไว้วางใจ ตัวเลขเศรษฐกิจไทยยังไม่แข็งแกร่งนัก ภาคส่งออกเดือนต.ค.2015 หดตัวกว่า 8%YoY ซึ่งแย่กว่าคาด และประเมินว่าต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว ประกอบกับ Valuation ของตลาดหุ้นไทยก็สูงมากด้วย ณ ปัจจุบันซื้อขายที่ P/E ปี 2015 ประมาณ 20 เท่า และปี 2016 ที่ 17 เท่า ซึ่งอยู่ในระดับ Median+1.4SD นับว่าไม่ถูก ในเชิงกลยุทธ์การลงทุน เน้นเลือกลงทุน/ถือครองหุ้น Defensive และหุ้นปันผลสูง สำหรับ สำหรับหุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้เป็น CPNRF
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดพลิกเป็นลบ การซื้อใหม่ตามด้วยค่าบวก แนวต้านระยะสั้น 1390, 1400, 1410 จุด ค่าลบดูไม่ดี ดัชนีต่ำกว่า 1380 จุด แนะนำให้ลดพอร์ต เพราะมีสิทธิลงไปที่ 1360-1350 จุดได้ หุ้น SCAN ที่มีสัญญาณทางเทคนิคดี น่าสนใจซื้อเก็งกำไรตามด้วยค่าบวกที่เข้ามาใหม่ เป็น TISCO, BCH ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List และหาจังหวะขายทำกำไรเมื่อราคาปรับขึ้น คือ CPF, ASIMAR, BECL, ROBINS, VGI หุ้นที่หลุด List คือ THANI, FSMART
- การเมืองต่างประเทศ : เครื่องบินรบรัสเซียถูกยิงตกในบริเวณชายแดนซีเรีย โดยตุรกีอ้างว่าเครื่องบินรัสเซียได้รุกล้ำน่านฟ้าตุรกี แต่ทางฝ่ายรัสเซียกล่าวว่าไม่ได้รุกล้ำแต่อย่างใด ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้สถานการณ์ในตะวันออกกลางตึงเครียดขึ้น ทางด้าน NATO ประกาศประชุมฉุกเฉินเมื่อวานนี้ โดยผู้เข้าร่วมประชุมเป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐและตัวแทนประเทศสมาชิกอีก 27 ประเทศ
- รัสเซีย : ส่งเรือรบ Yamal เดินทางสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยผ่านไปทางช่องแคบดาร์ดาเนลส์ (ทิศตะวันตกเฉียงเหนือของตุรกี) หลังถูกตุรกียิงเครื่องบินรบ ซึ่งเรือรบ Yamal มีความสามารถขนส่งทหารได้ 250 นายและรถถังอีก 10 คัน
/+ สหรัฐ : GDP Growth ประจำ 3Q15 ดีกว่าประมาณการครั้งก่อน (โดย +2.1%QoQ จากประมาณการเดิมที่ +1.5%QoQ เพราะมีการทบทวนตัวเลขสต็อกสินค้าภาคเอกชน และการลงทุนภาคก่อสร้างเพิ่มขึ้น)
+ สหรัฐ : ราคาบ้านในสหรัฐ +4.9%YoY ในเดือนก.ย. เนื่องจากจากการที่ปริมาณบ้านที่เสนอขายในตลาดมีจำกัด ทำให้ผู้ซื้อต้องเสนอราคาเพิ่มขึ้น และสูงกว่า +4.6%YoY ในเดือนส.ค.2015
ตลาดหุ้นสหรัฐ : ปิดบวกได้เล็กน้อย แม้ปรับลงก่อนในช่วงแรก หนุนโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน (ดัชนี DJIA ปิด +19.51 จุด) แต่หุ้นกลุ่มสายการบินที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ก่อการร้ายร่วงลง
- ตลาดหุ้นยุโรปร่วงแรงราว 1.4-1.5% : หวั่นปัญหาการเมืองฉุดธุรกิจสายการบินและท่องเที่ยว รวมถึงเศรษฐกิจในยูโรโซนที่จะฟื้นตัวช้าลงไปอีก ถ้ามีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นบ่อยๆ
+ ราคาน้ำมันดิบพุ่ง หลังเหตุการณ์เครื่องบินรัสเซียถูกยิงตก สัญญาน้ำมันดิบ WTI และ BRENT ส่งมอบม.ค.2016 ปิด +1.12 และ 1.29 US$ ปิดที่ 42.87 และ 46.12 US$/bbl ตามลำดับ ปัจจัยจับตา คือ สถานการณ์การเมืองโลก และรายงานสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์สหรัฐ ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าจะขยับขึ้นอีก 1.1 ล้านบาร์เรล
+ ราคาทองคำปรับขึ้น สัญญาตลาด COMEX ปิด +7 US$ ที่ 1,073.80 US$/ออนซ์ เพราะนักลงทุนกลับเข้ามาถือครองทองคำที่มีความปลอดภัยสูง หลังประเมินว่าสหรัฐมีความเสี่ยงจากภัยก่อการร้าย เพราะเป็นอีกประเทศหนึ่งที่กลุ่ม IS มีเป้าหมายในการโจมตี
ปัจจัยในประเทศ & ข่าวเด่น
/+ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง : 4 ผู้รับเหมา (CK-ITD-STEC-UNIQ) ผ่านคุณสมบัติได้เข้าประมูลโครงการรถไฟรางคู่สายจิระ-ขอนแก่น ซึ่งจะมีในวันที่ 8 ธ.ค.2015 นี้ มูลค่าโครงการประมาณ 2.3 หมื่นล้านบาท...นับเป็นบวกกับกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่ผู้ประกอบการจะมีงานใหม่เข้ามาต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ต้องพิจารณาเรื่องมาร์จิ้นของโครงการประกอบการลงทุนด้วย ซึ่งโดยปกติงานโครงการภาครัฐจะมีมาร์จิ้นไม่สูงมากเพราะเป็นงานใหญ่ที่มีมูลค่างานสูง ในเชิงกลยุทธ์ เราให้น้ำหนักไปในทางเก็งกำไร (เล่นตามข่าว) สำหรับกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ส่วนการลงทุนจะให้น้ำหนักกับกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ซึ่งมีอัตรากำไรจาการดำเนินงานสูงกว่ามากกว่า โดยหุ้นเด่นทางปัจจัยพื้นฐานในกลุ่มนี้เป็น SCC (ราคาพื้นฐาน 580 บาท) ส่วนหุ้น Dark Horse เป็น TPIPL (ราคาพื้นฐาน 3.20 บาท)
/- มูลค่าส่งออกเดือนต.ค.2015 หดตัวเกินคาด โดยมูลค่าส่งออกรูปดอลลาร์สหรัฐเดือนต.ค. -8.11%YoY เป็น 18,566 ล้านUS$ (ตลาดคาดไว้ที่ -7.1% ถึง -7.4%) มูลค่านำเข้าลดลง 18.21%YoY เป็น 16,465 ล้านUS$ สำหรับ 10M15 มูลค่าส่งออก -5.32%YoY เท่ากับ 180,129 ล้านUS$ ส่วนมูลค่านำเข้า -11.27% เท่ากับ 170,270 ล้านUS$ โดยดุลการค้าในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้เกินดุล 9,859 ล้านUS$
มูลค่าการส่งออกสินค้าด้านเกษตรและธุรกิจเกษตรต.ค. -10.3%YoY นำโดยข้าว, มันสำปะหลัง, อาหารทะเลแช่แข็ง แต่มูลค่าส่งออกผลไม้สด, น้ำตาล, ผลไม้กระป๋อง, ไก่แปรรูปส่งออก ขยายตัวได้ YoY (ไก่แปรรูป +4.6%YoY) สำหรับมูลค่าส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมต.ค. -6.6%YoY หลักๆ มาจากการลดลงของผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม เคมีภัณฑ์ แต่รถยนต์ & ชิ้นส่วน +0.2%YoY
กระทรวงพาณิชย์เห็นว่า การส่งออกของไทยลดลงก็จริง แต่น้อยกว่าอีกหลายประเทศ และหดตัวน้อยกว่ามูลค่าการส่งออกของโลกที่ IMF ประเมินว่าปี 2015 จะลดลงถึง 11.17%YoY นอกจากนั้นไทยยังรักษาส่วนแบ่งการตลาดไว้ได้ดี สำหรับทั้งปีนี้ กระทรวงพาณิชย์คาดว่ามูลค่าส่งออกไทยจะ -3% แต่หลายสำนักวิจัยมองไว้ที่ประมาณ -5% แล้วค่อยฟื้นตัวเป็นประมาณ +3% ในปี 2016
- AQ : มีรายงานว่าพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ขายหุ้นออกไป 3.95% ของที่ถืออยู่และมีสิทธิออกเสียง ยังผลให้เหลือถือหุ้นใน AQ อยู่ 11.84% ทั้งนี้ AQ อยู่ในช่วงของการขายหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อไปชำระหนี้ให้กับ KTB ซึ่งมูลหนี้อยู่ที่ราว 1 หมื่นล้านบาท
นักวิเคราะห์ & กลยุทธ์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค - [email protected] & Thailand Research Team
ข่าวอุตสาหกรรมและหุ้นเด่น
CPNRF (ราคาปิด 17.40 บาท, คำแนะนำซื้อ, ราคาพื้นฐาน 20.00 บาท)
กำไรจะกลับมาแกร่งตั้งแต่ 1Q16
กำไรจากการลงทุน (Net Investment Income) ลดลง 22% y-o-y ใน 3Q15 เป็น 567 ล้านบาท สืบเนื่องจากหลายร้านค้าในเซ็นทรัล ปิ่นเกล้าได้ปิดไป สำหรับการปิดปรับปรุง
แต่การปิดปรับปรุงและตกแต่งใหม่โดยส่วนใหญ่จะมีกำหนดการแล้วเสร็จปลายปี 2015 นี้แล้ว ดังนั้นจึงคาดว่ากำไรและเงินปันผล (DPU) จะกลับมาแข็งแกร่งอย่างมากในงวดปี 2015 และปี 2016 โดยเริ่มตั้งแต่ 1Q16 เป็นต้นไป
เป็นหลักทรัพย์ที่จ่ายเงินปันผลได้สูง คาดการณ์อัตราผลตอบแทนปันผลงวดปี 2015-2016 เป็น 7.2% และ 7.9% ตามลำดับ
แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐานไว้เท่ากับ 20 บาท/หุ้น ซึ่งประเมินด้วยวิธี DCF ทั้งนี้เรามองว่าในช่วงที่ตลาดหุ้นผันผวนและอยู่ใน Valuation สูง มีโอกาสที่จะเกิดการปรับฐาน กลุ่มที่น่าสนใจลงทุนจะเป็นพวกธุรกิจ Defensive และปันผลสูง ซึ่งกองทุน CPNRF อยู่ในข่ายนี้
นักวิเคราะห์ & กลยุทธ์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค
[email protected]
# TRUE ข่าวต้องเพิ่มทุน เพื่อจ่ายค่าใบอนุญาต 4G หรือไม่
TRUE ประมูลชนะที่ 39,792 ล้านบาท ตามเงื่อนไขต้องจ่าย 50% ภายใน 90 วัน และอีก 25% ภายใน 2 ปี และ 25% สุดท้ายภายใน 3 ปี นับตั้งแต่วันประมูลได้
แสดงว่าที่ต้องจ่ายงวดแรกคือ 50% จึงอยู่ที่ประมาณ 20 พันล้านบาท หากพิจารณาเงินสดในมือและเงินลงทุนระยะสั้น ณ 3Q58 ที่ 11.2 พันล้านบาท หรือในมุมมองของกระแสเงินสดจากการดำเนินงานในรอบ 9M58 ที่ 8.1 พันล้านบาท ก็ดูเหมือนว่าจะไม่เพียงพอ
แต่อัตราส่วนเงินกู้ต่อส่วนผู้ถือหุ้น ณ 3Q58 เป็นประมาณ 0.83 เท่า (อัตราส่วนหนี้สินทั้งหมดต่อทุนเป็น 2.2 เท่า) ก็ยังสามารถกู้ได้เพิ่มอีก คือ หากสมมุติให้กู้ทั้งหมดที่ 20 พันล้านบาท ก็จะทำให้อัตราส่วนเงินกู้ต่อผู้ถือหุ้นเพิ่มเป็น 1.1 เท่า ก็ถือว่ายังเป็นระดับที่ไม่สูง แต่ข้อเสียคือ TRUE จะมีภาระดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มหากอัตราดอกเบี้ยเป็น 5% ก็จะมีดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มปีละ 1 พันล้านบาทต่อปี และไปบั่นทอนผลการดำเนินงานที่กำลังฟื้นตัวได้ ขณะที่ 9M58 มีกำไรสุทธิ 4.1 พันล้านบาท
นอกจากนี้ ต้องติดตามการประมูลคลื่นความถี่ 900 MHz ที่จะเกิดกลาง ธ.ค.58 นี้อีก หาก TRUE ชนะอีกครั้งก็จะใช้เงินเพิ่มขึ้นไปอีก สมมุติให้ต้องใช้เงินอีก 20 พันล้านบาท อัตราส่วนเงินกู้ต่อส่วนผู้ถือหุ้นจะเพิ่มไปเป็น 1.4 เท่า
ดังนั้น TRUE จึงต้องตัดสินใจว่าจะเลือกใช้วิธีไหน หากเลือกเพิ่มทุนก็จะเป็นการรบกวนเงินผู้ถือหุ้น (Cash Call) และมี dilution effect แต่หากเลือกกู้เพิ่ม ผลการดำเนินงานก็จะด้อยลงเพราะดอกเบี้ยจ่ายเพิ่ม ทั้งนี้การเพิ่มทุนอาจมีทางเลือกให้พันธมิตรคือ China Mobile International Holdings ซึ่งปัจจุบันถือหุ้น TRUE 18% มาเพิ่มทุน PP บางส่วนได้ หรือจะเป็นเครือเจริญโภคภัณฑ์ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 ที่ 27.96% มาช่วยเพิ่มทุน PP
เราไม่ได้ทำการวิเคราะห์ TRUE (not rated) แต่อาจกล่าวได้ว่าการประมูล 4G ของ TRUE จะเกิดประโยชน์ในระยะยาวมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรายได้ และการช่วงชิงส่วนครองตลาด แต่ในช่วง 2-3 ปีแรกจะมีผลกระทบต่อผลการดำเนินงาน ที่เห็นชัดเจนคือ 1) ค่าตัดจำหน่ายใบอนุญาตเป็นเวลา 18 ปี ตกปีละ 2.2 พันล้านบาท 2) ภาระดอกเบี้ยจ่ายเพิ่ม และ 3) ค่าเสื่อมราคาที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต เมื่อมีการลงทุนในโครงข่ายและอุปกรณ์ 4G เพิ่มขึ้น
ส่วนการเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นเดิมล่าสุดที่เกิดขึ้นคือ XR 31ก.ค.57 เป็นสัดส่วน 2.5725:1 ที่ราคา 6.45 บาท
นักวิเคราะห์ & กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา
[email protected]