- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 25 November 2015 17:58
- Hits: 1060
บล.โนมูระ พัฒนสิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
เหตุปะทะ ตุรกี-รัสเซีย กระตุ้นราคาน้ำมันดิบพุ่ง แนะเก็งกลุ่มโรงกลั่น (PTTGC, TOP) ผสานหุ้นค้าปลีก Laggard (ROBINS)
Nomura : Key Factors
(+) Int Factor: ครม.เห็นชอบร่าง MOC รถไฟไทย-ญี่ปุ่น เตรียมลงนามที่ญี่ปุ่น 25-28 พย.นี้
(+) Commo: ราคาน้ำมันดิบ WTI +2.34% สู่ $42.73/bbl / Brent +2.87% สู่ $46.12/bbl
(+) US Econ: 3Q15 US GDPที่ +2.1%q-q จาก +1.5%q-q สะท้อนเศรษฐกิจ US ฟื้นตัว
(+) Ex Factor: เก็งการประชุม ECB คาดลดดอกเบี้ยเงินฝาก 10 bps ขยายเวลา QE
(+) Int Factor: คาดเม็ดเงิน LTF 2 เดือนสุดท้ายอย่างน้อยราว 2.2 – 3.2 หมื่นลบ พยุงSET
(+) Int Factor: งาน Thailand Focus 2-4 ธค.สถิติบ่งชี้ SET +0.7% ก่อนงาน 2 สัปดาห์
(*) Fund Flow: ต่างชาติขาย 200 ลบ, Long Future 1311, ซื้อ Bond 4893 ลบ
(-) Ex Factor: เหตุการณ์ความรุนแรง ตุรกี-รัสเซีย กดดันภาคการส่งออกสั้น
(-) TH Econ: ดัชนีการส่งออกไทย ตค. -8.11%m-m จาก -5.51% แย่กว่าคาดที่ -7.7%
SET PER 15F: CNS 14.96x (EPS 92.5) vs Cons.15.46x (LT-Avg 14.0x)
2016 SET Target: CNS Base 1628 pts (EPS 105, PER15.5x)
Nomura Daily Top Picks: PTTGC, TOP, ROBINS
Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ Sideway ในกรอบแนวต้าน 1394/1398 จุด และ แนวรับ 1376/1368 จุด จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่ตุรกีได้ส่งเครื่องบิน F-16 ยิงเครื่องบินรบ SU-24 ของรัสเซีย ตกใกล้ชายแดนประเทศซีเรีย โดยอ้างว่ามีการล้วงล้ำน่านฟ้า เพิ่มความตึงเครียดมากยิ่งขึ้นหากเหตุการณ์บานปลายออกไป ส่งผลให้มีแรงขายออกมาในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกวานนี้ แต่อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าว ถือเป็นแรงกระตุ้นหนุนราคาน้ำมันดิบโลก ขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยวานนี้ ราคาน้ำมันดิบของสหรัฐฯ +2.34% สู่ระดับ 42.73 เหรียญต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบ Brent +2.87% สู่ระดับ 46.12 เหรียญต่อบาร์เรล คาดจะช่วยเพิ่ม sentiment บวกต่อกลุ่มน้ำมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มโรงกลั่น ที่ค่าการกลั่นยังคงอยู่ในระดับสูง เป็นตัวช่วยจำกัด Downside ของตลาดได้
ผสานกับปัจจัยบวกในประเทศ เช่นความคืบหน้าของโครงการรถไฟไทย-ญี่ปุ่น ที่ครม.ได้เห็นชอบร่าง MOC แล้ว โดยจะมีการลงนามที่ญี่ปุ่นในระหว่างวันที่ 25-28 พย.นี้ ต่อไป น่าจะช่วยหนุนภาพรวมการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงถัดไปได้ นอกจากนี้ในระยะสั้น หากพิจารณาสถานะถือครองของต่างชาติในตลาด TFEX พบว่ายังคงเปิดสถานะ Net Long ต่อเนื่อง 5 วันติดต่อกัน (วานนี้ Long เพิ่มอีก 1311 สัญญา) ทำให้สถานะของต่างชาติตั้งแต่ เดือน ตค. 2015 ถึงปัจจุบันยังเป็น Net Long Future สูงถึง 45,933 สัญญา เพิ่มจิตวิทยาบวกต่อตลาดหุ้นไทยในช่วงถัดไป
Asset allocation : หุ้น 85% ทองคำ 2.5% ตลาดบอนด์ 5% และเงินสด 7.5%
Short-Term Strategy : เหตุความรุนแรงระหว่าง ตุรกี-รัสเซีย หนุนราคาน้ำมันดิบวานนี้ฟื้นต่อเนื่องราว 2.3-2.8% แนะเก็งกลุ่มโรงกลั่น (PTTGC, TOP, IRPC) ขณะที่ให้ระมัดระวังหุ้นส่งออก ทีรับ sentiment เชิงจากเหตุการณ์ปะทะดังกล่าว และดัชนีส่งออกไทยที่ยังคงหดตัวลง 10 เดือนติดต่อกัน กลับมาเน้นกลุ่ม Domestic Plays เช่น กลุ่มค้าปลีก (ROBINS, GLOBAL, HMPRO), รับเหมา (CK, STEC), PROP (LPN, PS, SC) ผสานกับหุ้น Mid-Small Caps ที่คาดกำไร 4Q15 จะฟื้นตัวเด่น (BRR, CI, COM7, ERW, KAMART, PLANB) ตามมาด้วยกลุ่ม MSCI Play มีผล 30 พย.นี้ (PTTGC คาดเม็ดเงินซื้อราว 17-18 ล้านเหรียญ, GPSC, VNG) 3) หุ้นคาดเข้าSET50/100รอบใหม่ : SET50 Play เลือก STEC, MTLS, S, GPSC / SET100 Play เลือก EPG, VNG, PLANB, WORK, SAMTEL สำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว แนะนำสะสมหุ้นNOV2015 Top Picks : MINT, AOT, DCC, CI, TVT, KAMART สำหรับวันนี้แนะนำ*Daily Top Picks: PTTGC, TOP, ROBINS *
Mid-Long Term Strategy : คาด SET จะแกว่งบวก สู่ต้าน 1454/1480จุด รับ 1375/1350จุด กรณี SET ขึ้นทดสอบ 1450จุด+/- ให้ลดน้ำหนักหุ้นลงราว 10-15% จากเดิม 85% โดยคาดกลุ่มนำตลาดในเดือนนี้ ได้แก่ กลุ่มได้ประโยชน์จากฤดูกาล(AOT, MINT, KAMART, HMPRO Laggard ERW) กลุ่มรับเหมาฯ(DCC, CK, ITD) ผสานกลุ่ม ICT(ADVANC, INTUCH) และ Mid-small Cap ที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว TVT, CI, PLANB, AMATA ส่วนหุ้นที่คาดว่าจะ Underperform ในเดือนนี้ COAL(BANPU), MEDIA(BEC), Airline(THAI), ICT(DTAC, TRUE) โดย Portfolio Top picks NOV 15 MINT, AOT, DCC , CI, TVT, KAMART / Dark Horse PLANB, HMPRO, GUNKUL, AMATA, ITD
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
PTTGC (TP68*): Support 55.0/54.0 Resistance 58.0/60.0
Theme : Oil Recovery
Earning Outlook : คาดกำไร 4Q15F ฟื้นตัวจาก Stock loss ที่ลดลง ขณะที่ Core-Earnings มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามSeasonalคาดโอเลฟินส์และอะโรเมติกส์จะมีกำไรดีขึ้นq-q
Valuation : โดดเด่นจากกำไรที่ดีใน 4Q15F แนะนำ “ซื้อ” มูลค่าเหมาะสม 68 บาท (Upside 22.5%)
Catalyst : ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นที่ระดับ 42.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หรือ +2.3% จากเหตการณ์ความรุนแรงของตุรกีและรัสเซีย รวมถึงรอยเตอร์คาด EIA จะเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 4 แสนบาร์เรลและอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้นอีก 0.5% ที่ระดับ 90.3% เป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มโรงกลั่น
TOP (TP63*): Support 60.0/58.0 Resistance 63.5/65.5
Theme : Oil Recovery
Earning Outlook : แนวโน้มผลประกอบการ 4Q15F และ 2016F ฟื้นตัวแรงจากความเสี่ยงของการเกิด Stock loss และ FX มีเสถียรภาพมากขึ้น
Valuation : ราคาเป้าหมายปี 2016F ที่ 63.00 บาท มี Upside 3.2%
Catalyst : ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นที่ระดับ 42.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หรือ +2.3% จากเหตการณ์ความรุนแรงของตุรกีและรัสเซีย รวมถึงรอยเตอร์คาด EIA จะเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 4 แสนบาร์เรลและอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้นอีก 0.5% ที่ระดับ 90.3% เป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มโรงกลั่น
ROBINS (TP57*): Support 43.0/41.5 Resistantce 45.0/48.0
Theme : The Laggard
Earning outlook : คาดกำไร 3Q15 ทรงตัว q-q แต่เติบโต 24% y-y ที่ 438 ลบ. จากรายได้ค่าเช่าที่โตกระโดด +43% y-y, flat q-q
Valuation : Valuation ที่ยังถูก โดยซื้อขายที่ระดับ PER16F ต่ำเพียง 17x ต่ำกว่ากลุ่มฯที่ 24.8x มี Upside 30.3%
Catalyst : ราคาหุ้น Laggard กลุ่มฯอยู่มากขณะที่แนวโน้มกำไรเติบโตต่อเนื่องในปี 16-17F เฉลี่ย 17% ต่อปี จากการเพิ่มสัดส่วนยอดขาย House brand
Strategist Team
Koraphat Vorachet : Analyst Registration No. 043100
[email protected] : 0-2287-6771, 0-2638-5771
Wijit Arayapisit : Analyst Registration No. 044799
[email protected] : 0-2287-6871, 0-2638-5871
Chavaratt Changpakorn : Assistant Strategist
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS,Nomura)