- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 20 November 2015 16:23
- Hits: 2931
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+/-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA -4.41, NASDAQ -1.56, S&P -2.34, FTSE +50.96, CAC +8.33 และ DAX +125.49
..... ตลาดหุ้นสหรัฐ ปิดลบเล็กน้อย โดยนอกเหนือจาก ความกังวลกรณีการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ที่เข้ามาเป็นระยะ ดัชนีฯ สหรัฐยังถูกฉูกฉุดรั้งด้วยราคาน้ำมันที่ลดลง ประกอบกับหุ้น Healthcare ที่ถูกกดดัน หลังจากมีรายงานว่าบริษัทยูไนเต็ดเฮลธ์ กรุ๊ป วางแผนที่จะถอนตัวออกจากโครงการ 'Obama Care'
….. ทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ได้รับปัจจัยบวกจากรายงานการประชุมของ ECB ที่บ่งชี้ว่า มีโอกาสที่ ECB จะขยายมาตรการกระตุ้นฯ ในการประชุม ธ.ค. นี้
..... ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) น้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 21 เซนต์ ปิดที่ 40.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และร่วงลงต่ำกว่า 40 ดอลลาร์ช่วงสั้นๆ ในการซื้ขายระหว่างวัน โดยความกังวลด้าน Supply ยังเข้ามากระทบจิตวิทยาการซื้อขายอยู่เป็นระยะ
..... ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 9.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,077.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ 375 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -117,806 ล้านบาท (ปี’57 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)
ทิศทางตลาด :
ทิศทางตลาด : คาด Sideway Up โดยหลักๆ มาจากปัจจัยต่างประเทศที่เป็นบวก โดยล่าสุด ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศลดพอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมข้ามคืนที่ปล่อยให้ธนาคารพาณิชย์ลงถึง 1.75% มาอยู่ที่ 2.75% และหั่นดอกเบี้ยกู้ยืมระยะ 7 วัน ลง 2.25% มาอยู่ที่ 3.25% โดยให้มีผลบังคับใช้ โดยนับเป็นการหั่นอัตราดอกเบี้ยลงเป็นครั้งที่ 6 แล้ว ภายในเวลาเพียง 12 เดือน ประกอบกับรายงานการประชุมของ ECB ล่าสุดที่สะท้อนจากความกังวลถึงอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ ทำให้สมมุติฐานที่ว่า ECB จะเพิ่มมาตรการกระตุ้นฯ ในการประชุม ธ.ค. นี้หนักแน่นขึ้น
..... ด้านปัจจัยภายในประเทศ แม้มีน้ำหนักน้อยในช่วงนี้แต่เริ่มเป็นบวก หลังจากมีความคืบหน้าด้านโครงการภาครัฐ โดยล่าสุด STEC ชนะประมูลงานรถไฟทางคู่ ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ที่ราคา 9,826 ล้านบาท ขณะที่การเร่งรัดโครงการอื่นๆ ผ่านช่องทางที่รวดเร็ว ยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ เห็นชอบให้นำโครงการลงทุน 5 โครงการ มูลค่า 3.34 แสนล้านบาท เข้าสู่โครงการ Fast Track เฟสแรก ซึ่งคาดว่าจะเสนอ ครม. พิจารณาได้ใน มี.ค. ก่อนจะเปิดประมูลในเดือน พ.ค.
.....ส่วนทางด้าน Fund Flow ต่างชาติยังขายสุทธิต่อเนื่องอีก 375 ล้านบาท ซึ่งยังอยู่ในทิศทางเดียวกับภูมิภาคส่วนใหญ่ โดยค่าเงินบาทยังมีทิศทางอ่อนค่า แต่คาดได้รับการชดเชยจากแรงซื้อของสถาบันในประเทศ
....โดยยังแนะติดตาม (1) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, PTTGC, TOP และ BCP จะได้รับผลกระทบจากการขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในช่วง 3Q/58 แต่เรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นในช่วงที่ราคาอ่อนตัวสำหรับการลงทุนในระยะยาวกลาง – ยาว (2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่คาดยังคงได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐ เช่น CK, ITD, STEC และ UNIQ (3) ค่าเงินบาท ล่าสุดเคลื่อนไหวบริเวณ 35.77 แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากวานนี้ แต่ระยะกลางคาดมีโอกาสอ่อนค่าอีกครั้ง ส่วนหนึ่งตามสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น SCC, SCCC และ TASCO เป็นต้น (5) กลุ่มโรงแรม (MINT, CENTEL) และหุ้นกลุ่มขนส่ง (เช่น AAV, AOT) หลังสถานการณ์การท่องเที่ยวมีแนวโน้มดีขึ้นโดยเฉพาะช่วง High season ในช่วง 4Q/58
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.03 อยู่ที่ 2.25% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) +0.14 อยู่ที่ 16.99
หุ้นแนะนำ : LIT
ประเด็นที่ต้องติดตาม (20 พ.ย.’58)
20/11/58 : - ไม่มีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ -
นักวิเคราะห์ : พลเทพ วงษ์นาค 02-684-8796