- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 19 November 2015 18:19
- Hits: 730
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(AM)
Technical highlights
SET Index : ซื้อ แนวรับ 1375-1380
ทิศทางตลาด : SET Index ปิดที่ 1376.82 จุด ลดลง 13.35 จุด มูลค่าการซื้อขาย 36,228 ล้านบาท ตลาดเมื่อวานปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงจากขายหุ้น pTT หลุดแนวรับสำคัญที่ 1380 จุดลงไป แต่โครงสร้างแนวโน้มขาขึ้นมีแนวรับสำคัญที่ 1370-1380 จุด ถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณขายเพื่อลดพอร์ต
Daily: ปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงมาทดสอบแนวรับสำคัญที่ 1370 จุด แต่มูลค่าการซื้อขายไม่สูงมาก ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังสามารถคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยมีแนวต้านที่ 1400 จุด ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1414 จุดเป็นแนวต้านสำคัญ เมื่อพิจารณา Cycle ของการเคลื่อนไหวในรอบที่ผ่านมา เรายังคงคาดหวังการฟื้นตัวที่แนวรับสำคัญกลับขึ้นไปเคลื่อนไหวในกรอบแนวโน้มขาขึ้น
กลยุทธ์ :SET Index ปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงทดสอบแนวรับสำคัญของกรอบแนวโน้มขาขึ้นที่ 1370-1380 จุด เราจึงแนะนำให้ใช้เป็นจังหวะในการเข้าซื้อหุ้น เนื่องจากเป็นแนวรับสำคัญของการปรับฐาน เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านที่ 1414 จุดสิ้นสุดแนวโน้มขาลง
Most Active Value: แนวรับ แนวต้าน
PTT แนวโน้มลงทดสอบ 260 แนวต้าน 270 262 / 260 267/ 270
TNP แนวรับ 1.78-1.80 แนวต้าน 1.95 1.80 / 1.78 1.90/ 1.95
JAS เคลื่อนไหวในกรอบ 5.20-5.40 5.20 / 5.10 5.30/ 5.40
SCB สัญญาณขาย แนวโน้มลงทดสอบ 125 แนวต้าน 134-135 130 / 128 134/ 135
ADVANC เคลื่อนไหวในกรอบ 210-215 212 / 210 214/ 215
BDMS สัญญาณซื้อ แนวโน้มขึ้นทดสอบ 21.00 19.80 / 19.50 20.20 /20.50
AOT สัญญาณขายระยะสั้น แนวต้าน 320 แนวรับ 310 312 / 310 315/317
CPF สร้างฐานหลังทดสอบ 22.00 แนวรับ 21.00 21.50 / 21.00 21.80/22.00
MTLS สัญญาณซื้อ แนวโน้มขึ้นทดสอบ 22.00 แนวรับ 20.50 20.80 / 20.50 21.20/ 21.50
TASCO สัญญาณฟื้นตัว แนวต้าน 42.00 และ 43.00 แนวรับ 38.00 40.00 / 38.00 42.00/ 43.00
Thai Oil (TOP TB; THB 61.75) - ซื้อ
แนวต้าน : 63.00 และ 65.00
แนวรับ : 61.50 และ 61.00
ราคาหุ้นเคลื่อนไหวในกรอบแคบหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น ทะลุผ่านแนวโน้มขาลงในระยะยาวขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ TOP โดยมีแนวรับที่ 61.50 และ 61.00 และมีแนวต้านที่ 63.00 และ 65.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 60.00 ลงไป
Sherwood Chemicals (SWC TB; THB 9.80) - ซื้อ
แนวต้าน : 10.30 และ 10.80
แนวรับ : 9.80 และ 9.70
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านสำคัญที่ 9.50 ขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ SWC โดยมีแนวรับที่ 9.80 และ 9.70 และมีแนวต้านที่ 10.30 และ 10.80 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 9.50 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...ลุ้นตัวเลขเศรษฐกิจสัปดาห์หน้า
หากสถานการณ์ในยุโรป ไม่ลุกลาม รวมทั้งการโจมตีทางอากาศในซีเรียของกลุ่มพันธมิตรไม่ขยายวง ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่กำลังทยอยประกาศออกมาบ่งชี้ถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. เรามองว่าดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกและเอเชีย น่าจะเริ่มค่อยๆ ดีดตัวขึ้นกลับได้นับตั้งแต่ปลายเดือน พ.ย. หรือต้น ธ.ค. เป็นอย่างช้า เนื่องจากมองว่าจะเข้าสู่ช่วง High ของการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกรวมทั้งจะเกิดความชัดเจนเรื่องทิศทางดอกเบี้ยในสหรัฐ
หากเป็นไปอย่างที่คาด เรามองว่าในตลาดหุ้นไทยเองก็กำลังมีปัจจัยหนุนภายใน อย่างการค่อยๆฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายใน จากแรงหนุนของภาคการท่องเที่ยวและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ผ่านมาเริ่มส่งผลต่อเศรษฐกิจ ดังนั้นเราจึงมองว่าตัวเลขเศรษฐกิจภายในบางตัวที่กำลังจะทยอยประกาศในปลายอาทิตย์หน้าอย่าง ตัวเลขความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ตัวเลขการลงทุนและบริโภคภาคเอกชน น่าจะเริ่มขยับในทางที่ดีขึ้นซึ่งจะเป็นแรงหนุนให้เกิดการซื้อหุ้นที่โตจากภายใน ทั้งกลุ่มธนาคาร ท่องเที่ยว ค้าปลีก รับเหมา วัสดุก่อสร้าง และอสังหาสร้างบ้าน
หากมาพิจารณาดูตัวเลขการบริโภคและลงทุนของภาคเอกชน ในช่วงที่ผ่านมาตั้งแต่ต้นปี ปราฏกว่า ไม่ค่อยดี จากแรงกดของภาพรวมเศรษฐกิจไทยและโลก การอยู่ในช่วงรัฐบาลทหารและความล่าช้าของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ จากรูป เราจะพบว่า การฟื้นตัวของการลงทุนและบริโภคของภาคเอกชน จะสัมพันธ์กับอัตราการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ เราจึงมองว่า หากตัวเลขทั้ง 2 ที่กำลังจะทยอยประกาศออกมาในเชิงบวก ก็น่าจะส่งผลทางอ้อมกับการลงทุนในกลุ่มธนาคารพาณิชย์
หากมามองหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เราจะพบว่าอยู่ในช่วงเลวร้ายสุดในรอบ 10 ปี พิจารณาจากค่า p/BV ของกลุ่มที่ลงมาเล่นในระดับต่ำกว่าค่า -1SD จากรูปจะเห็นได้ว่าในรอบ 10 ปีค่า p/BV ของกลุ่มไม่เคยลงมาเล่นต่ำกว่าค่า -1SD ยกเว้นปี 2008 ที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจในสหรัฐแล้วลุกลามไปทั่วโลก โดยในปัจจุบันค่า p/BV ของกลุ่มยังเล่นกันต่ำกว่าค่า -1SD น่าจะเกิดจากตลาดยังมีความกังวลเรื่องการเพิ่มขึ้นของตัวเลข NpL จากการที่ประเทศไทยกำลังติดกับดักหนี้ครัวเรือน ขณะที่การฟื้นตัวเป็นไปอย่างเชื่องช้า ซึ่งก็หมายถึงแนวโน้มที่ NpL จะขึ้นไปถึงจุดสูงสุดยังต้องรอออกไป อย่างไรก็ตามแม้จะยังไม่รู้ว่าตัวเลข NpL จะถึงจุดสูงสุดเมื่อไร แต่ในช่วงสั้นๆ หากตัวเลขภายในเริ่มดีขึ้น ก็น่าจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดแรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารได้ แล้วไปวัดกันอีกทีในช่วงงบ Q4/15 ออกมาในช่วงกลางเดือน ม.ค.2016
ทิศทางดัชนีหุ้น SET รวมๆในปลายอาทิตย์นี้ คาดจะดีดตัวขึ้นแรง จากความชัดเจนเรื่องดอกเบี้ยของสหรัฐ แต่หากมีปัจจัยลบเกิดขึ้นอีก เรามองว่าดัชนี SET ก็ไม่น่าจะลงได้มาก เนื่องจากตลาดกำลังให้ความสำคัญกับตัวเลขการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในและเก็งโอกาสที่ GDP ปีนี้จะขยายตัวมากกว่า 3% ดังนั้นมีโอกาสสูงที่ดัชนีค่อยๆ แกว่งตัวขึ้นไปเล่นเหนือระดับ 1400 จุดในปลายอาทิตย์นี้หรือในอาทิตย์หน้า
วันนี้คาดดัชนี SET จะดีดตัวกลับหลังดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดบวกได้แรง นอกจากนั้นการปรับตัวลงของ SET เมื่อวานนี้ถือเป็นการปรับฐานไปแล้ว โดยวันนี้แนวต้านอยู่ที่ 1385-1390 จุด ส่วนแนวรับที่ 1372-1368 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร ANAN CPALL CPF TASCO BA TOP และ ROBINS
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(AM)
Investment Strategy
กลยุทธ์: เรามองว่าในตลาดหุ้นไทยเองก็กำลังมีปัจจัยหนุนภายใน อย่างการค่อยๆ ฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายใน จากแรงหนุนของภาคการท่องเที่ยวและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ผ่านมาเริ่มส่งผลต่อเศรษฐกิจ ดังนั้นเราจึงมองว่าตัวเลขเศรษฐกิจภายในบางตัวที่กำลังจะทยอยประกาศในปลายอาทิตย์หน้าน่าจะออกมาดี ทิศทางดัชนีหุ้น SET รวมๆในปลายอาทิตย์นี้ คาดจะดีดตัวขึ้นแรง จากความชัดเจนเรื่องดอกเบี้ยของสหรัฐ แต่หากมีปัจจัยลบเกิดขึ้นอีก เรามองว่าดัชนี SET ก็ไม่น่าจะลงได้มาก เนื่องจากตลาดกำลังให้ความสำคัญกับตัวเลขการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในและเก็งโอกาสที่ GDP ปีนี้จะขยายตัวมากกว่า 3% ดังนั้นมีโอกาสสูงที่ดัชนีค่อยๆ แกว่งตัวขึ้นไปเล่นเหนือระดับ 1400 จุดในปลายอาทิตย์นี้หรือในอาทิตย์หน้า วันนี้คาดดัชนี SET จะดีดตัวกลับหลังดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดบวกได้แรง นอกจากนั้นการปรับตัวลงของ SET เมื่อวานนี้ถือเป็นการปรับฐานไปแล้ว โดยวันนี้แนวต้านอยู่ที่ 1385-1390 จุด ส่วนแนวรับที่ 1372-1368 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร ANAN CPALL CPF TASCO BA TOP และ ROBINS
Themes play :
ซื้อเก็งกำไรกลุ่มอิเล็คโทรนิคส์ : เราแนะนำ ซื้อเก็งกำไรหุ้นกลุ่มอิเล็คโทรนิคส์ อย่าง DELTA KCE SVI โดยมีราคาเป้าหมาย 101 บาท (upside 22%), 75 บาท (upside 18%) และ 6.29 บาท (upside 23%) หลังทั้ง KCE และ SVI รายงานผลกำไรปกติจากการดำเนินงานไตรมาส 3/58 ออกมาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่ราคาหุ้นยังไม่ได้ทำจุดสูงสุดใหม่ตามผลกำไร นอกจากนั้นการที่เงินบาทเริ่มกลับมาอ่อนค่าลงใกล้ระดับ 36 บาท/ดอลลาร์อีกครั้ง (หลังคาดการณ์ว่าเฟดจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.) ก็เป็นอีกปัจจัยหนุนผลกำไรของกลุ่มนี้อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ก็ปรับตัวขึ้นถ้วนหน้า นำโดยหุ้นแอปเปิล +3.17% หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นแอปเปิล ส่วนหุ้นแฟร์ไชล์ด เซมิคอนดัคเตอร์ และหุ้นพีเอ็มซี-เซียร์รา ปรับตัวขึ้นราว 1.9% ก็น่าจะช่วยหนุนแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นกลุ่มอิเล็คโทรนิคส์ในวันนี้
ประเด็นในสัปดาห์
19 พ.ย. : สหรัฐประกาศตัวเลข Leading Index เดือนต.ค. โดยตลาดคาด +0.5% จากเดือนก่อนหน้าที่ -0.2%
23 พ.ย. : สหรัฐประกาศตัวเลข Markit U.S. Manufacturing PMI เดือนพ.ย. โดยตลาดคาด 54.0 จากเดือนก่อนหน้าที่ 54.1
23 พ.ย. : สหรัฐประกาศตัวเลข Existing Home Sales เดือนต.ค. โดยตลาดคาด 5.41 ล้านยูนิต จากเดือนก่อนหน้าที่ 5.55 ล้านยูนิต
24 พ.ย. : สหรัฐประกาศตัวเลข GDP Annualized QoQ ไตรมาส 3/58 โดยตลาดคาด +2.0% จากไตรมาสก่อนหน้าที่ 1.5%
Opportunity Day
19 พ.ย. : PF AAV GPSC PTTGC
20 พ.ย. : SPCG PTT PTTEP TOP BCP
23 พ.ย. : ROBINS TICON TGROWTH EPG ASP AS S BTS
24 พ.ย. : FSMART LIT JUBILE SMART ECF BKD
26 พ.ย. : ASEFA AMATA IEC PLAT QH STPI SCN
Technical Pick :
กลยุทธ์ : SET Index มีแนวต้าน 1390-1400 จุด แนวรับ 1370 จุด
Thai Oil (TOP TB; THB 61.75) - ซื้อ
Sherwood Chemicals (SWC TB; THB 9.80) - ซื้อ
SET Index : แนวต้าน 1390-1400
Retail Research Team