- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 17 November 2015 17:48
- Hits: 1620
บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
รอบด้านตลาดหุ้น
Recovery
เมื่อวานดัชนีฯ เปิดลงไม่ลึก ตามคาด และในรายงานภาคบ่ายคาดแนวโน้มดัชนีฯจะเริ่มฟื้นตัว เราให้น้ำหนักดัชนีฯ ยังไม่หลุด 1,362 จุด วันนี้คาดขึ้นทดสอบ แนวต้าน 1,395/1,400 จุด แนะกลับมาเลือกเก็งกำไรรายตัวอีกครั้ง เน้นหุ้นรายตัวที่ Laggard
ปัจจัยหนุนตลาด เมื่อวาน GDP ไทย 3Q15 +2.9% ดีกว่าคาดที่ +2.6% และคาดดีขึ้นอีกใน 4Q15 (ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว), หุ้นโลกเชื่อมโยงน้ำมันดิบปรับขึ้น จากวิตกการโจมตีกลุ่ม IS ใกล้แหล่งน้ำมันดิบ บริเวณอิรักตอนเหนือ และ ซีเรีย กระทบอุปทาน, ปัจจัยลบ พรุ่งนี้รายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ตลาดคาดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเดือน ธค.นี้
ระยะสัปดาห์ คาดแนวรับ 1,362 จุด แนวต้าน 1,400 จุด
ระยะเดือน (พย.) แนวรับสำคัญ 1,340 จุด ต้าน 1,430 จุด กลยุทธ์เราได้แนะนำให้แบ่งพอร์ตเริ่มซื้อหุ้นคืน (เลือกลงทุนเป็นรายตัว/รายกลุ่ม) 20/30% ตั้งแต่ ปลาย สค. บริเวณ 1,300 จุด และ เราคงคำแนะนำ ใครที่ซื้อตาม พิจาณาเก็บเงินสดส่วนที่เหลือรอซื้อเพิ่มเมื่อปรับฐาน หรือ ขายเล่นสั้น แล้วซื้อเล่นใหม่
หุ้นแนะนำวันนี้ IRPC คาดราคาหุ้นจะขึ้น เพื่อปิด Valuation Gap ของหุ้นโรงกลั่นในภูมิภาค และตาม TOP ที่ขึ้นแรงกว่า 11% ภายใน 4 วันทำการ (ทั้งนี้ IRPC ให้ผลตอบแทนเงินปันผลสูงสุดในภูมิภาค ปี 2015-16 ที่ 4.9% และ 5.2% PE ถูกที่สุด 7.7 เท่า VS เฉลี่ย 11 เท่า และ PBV 1 เท่า VS ค่าเฉลี่ย 1.5 เท่า และหลังปรับปรุงโรงกลั่น ROE จะเทียบเท่ากับ TOP ที่ 14%)
BLS รายงานพื้นฐานวันนี้
(0) SIRI รายงานกำไรสุทธิ 3Q15 ที่ 1.06 พันล้านบาท +64% y-y, +38% q-q ดีกว่าคาด 17% ส่วนกำไรหลัก อยู่ที่ 812 ล้านบาท (ไม่รวมกำไรพิเศษจากการขายที่ดินราชเทวีเข้าบริษัทฯร่วม JV และ กลับรายการทางบัญชี) ดีกว่าคาด 6% เราคาดว่ากำไร 4Q15 จะชะลอลงเทียบ q-q แต่ทั้งปีน่าจะทำกำไรได้ตามคาด โดยกำไร 9 เดือน คิดเป็น 69% ของประมาณการณ์ทั้งปี เราคงคำแนะนำ Trading Buy ราคาเป้าหมาย 1.90 บาท
(+) RS รายงานกำไรสุทธิ 3Q15 ที่ 27 ล้านบาท -90% y-y, -35% q-q กำไรต่ำกว่าที่เราคาดที่ 40 ล้านบาท เราปรับคาดการณ์กำไร ปี 2015 ลง 35% เหลือ 70 ล้านบาท และ ปี 2016 ปรับลง 9% เหลือ 320 ล้านบาท แต่คาดราคาหุ้นปรับลงมาสะท้อนผลการดำเนินงานที่ต่ำคาดไปแล้ว เราคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 16 บาท
(+) UNIQ รายงานกำไร 3Q15 ที่ 175 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 5%YoY และ 12%QoQ) ซึ่งเป็นไปตามที่เราคาด แต่ต่ำกว่าตลาดคาดเล็กน้อยราว 7% เรายังคงเชื่อว่าบริษัทจะเป็นหุ้นในกลุ่มรับเหมาที่เติบโตได้ดีที่สุดโดยเราคาดกำไรจะเติบโตราว 57% ในปี 2016 หลังจากที่ปีนี้น่าจะโตราว 32% โดยปัจจัยหนุนหลักมาปริมาณงานใน backlog ที่ยังอยู่ในระดับสูงราว 27,600 ล้านบาท และจะมีการรับรู้รายได้ในปีหน้าเป็นหลัก แม้การปรับประมาณการของเราจะทำให้ราคาหุ้นปัจจุบันดูแพงที่ P/E 35 เท่า ในปีนี้ แต่ด้วยการเติบโตที่สูงในปีหน้า P/E จะลดเหลือเพียง 22 เท่า ซึ่งยังมีส่วนลดเทียบจากค่าเฉลี่ยรับเหมาตัวใหญ่ที่ราว 35-40 เท่า
(+) กลุ่มพลังงานทดแทน สรุป บจ.ที่ยื่นขอ PPA โซล่าร์ฟาร์มหน่วยงานราขการและสหกรณ์ รอบนี้ BCP ยื่น 50MW ภาคกลางและ ตะวันออก, CKP ยื่น 10MW ภาคกลาง, GLOW ยื่น 5MW ภาคตะวันตก, IFEC ยื่น 200MW โอกาสได้ในส่วนกองทัพเรือสูง, RATCH ยื่น 35MW, TSE ยื่น 60 MW พื้นที่ภาคกลาง และ ตะวันออก, SAMART ถอนตัว
หุ้นมีข่าว
(+) งาน SET in the CITY เริ่มวันพฤหัสที่ 19 พย.นี้ คาดหนุนแรงซื้อหุ้น จากกองทุนรวมลดหย่อนภาษีช่วงปลายปี และ มุมมองเชิงบวกจาก ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนต่อทิศทางการดำเนินธุรกิจในภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน กลุ่มอุตสาหกรรมเด่นในปีหน้าที่ ตลาดเชิญผู้บริหารเข้าร่วมสัมนา ได้แก่ กลุ่มพลังงานทดแทน, กลุ่มโรงพยาบาล, กลุ่มโฆษณา, กลุ่มอสังหา และ สื่อสารฯ
(+) TSR แจ้งตลาดแจก วอแรนต์ฟรี 2:1 ราคาใช้สิทธิ 2 บาท XR วันที่ 11 ธค. 2015 และประกาศกำไรโตดีกว่าตลาดคาด / กลยุทธ์ คาดว่าระยะสั้นราคาหุ้นมีโอกาสขึ้นไปถึง บริเวณ 9-10 บาท แนวต้าน สะท้อนข่าวแจกวอแรนต์
(+) IFEC แจ้งตลาด ซื้อกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ที่เกาะเต่า (KTW) ทั้ง 100% โดยเป็นโครงการที่มี PPA แล้ว 4.8 MW adder 3.50 บาท 10 ปี จะขายไฟฟ้า COD ปี 2016
(+) SRICHA ประกาศเซ็นสัญญา MOU ร่วมเป็นพันธมิตรธุรกิจเพื่อรับงานรับเหมา สร้างงานเหล็กโครงสร้าง Off shore ขนาดใหญ่ ร่วมกัน กับ AMEC Foster Wheeler (บริษัทฯก่อสร้างยักษ์ใหญ่สัญชาติอังกฤษ) (ที่มา ASPEN)
(*) CEI เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น ACC (ที่มา ตลท.)
(-) ORI ยกเลิกแผนแตกพาร์ หลังตลาดเรียกชี้แจง (ที่มา ตลท.)
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(+/-) วิตกเหตุก่อการร้ายในปารีสเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิต 132 ราย แต่คาดผลกระทบต่อหุ้นไทย น่าจะจำกัด พิจารณาจาก ลำดับเหตุการณ์ก่อการร้ายหลังเหตุการณ์เวิลด์เทรดสหรัฐฯ 911 เป็นต้นมา หุ้นไทยรองรับแรงกระแทกได้ดีขึ้นเรื่อยๆ กรณีระเบิดสถานีรถไฟสเปน วันที่ 11 มีค. 2004 เสียชีวิต 199 ราย ตลาดหุ้นสเปน -2.18% หุ้นไทย -1.81% ใช้เวลา ลงนานเป็นสัปดาห์ กรณีระเบิดระบบขนส่งมวลชนอังกฤษ 7 กค. 2005 ผู้เสียชีวิต 56 ราย ตลาดหุ้นอังกฤษตก -1.36% ลงแค่วันเดียวแล้วกลับมาที่เดิม เช่นเดียวกับหุ้นไทย ลงแรง 3% วันเดียว แล้วกลับมาที่เดิม รวมถึงระเบิดที่บาหลีเมื่อ 12 ตค. 2002 และ ช่วงระเบิดที่ราชประสงค์เมื่อเร็วๆนี้หุ้นไทยใช้เวลารับข่าวไม่นาน แต่หลังจาก เหตุการณ์ก่อการร้ายในยุโรป และ บาหลี เรา พบว่าราคาหุ้นกลุ่มโรงแรมท่องเที่ยว เช่น MINT CENTEL ERW ปรับขึ้นเฉลี่ย +2.69% ใน 1 สัปดาห์ และ +3.33% ใน 2 เดือน หลังเกิดเหตุ โดย MINT ขึ้นแรงสุด เฉลี่ยจาก 3 เหตุการณ์ +8% คาดเป็นผลจากปริมาณนักท่องเที่ยวที่ไหลทะลักเข้าไทยและภูมิภาคนี้แทนยุโรป ขณะที่ บจ.ไทย ไม่มีบริษัทฯใด ที่ได้รับผลกระทบจากการท่องเที่ยวยุโรป อย่างมีนัยยะ (MINT อยู่ระหว่างซื้อกิจการโรงแรมในโปรตุเกส ดังนั้นยังไม่กระทบโดยตรง, CENTEL ไม่มีการลงทุนโดยตรง ส่วนห้างในอิตาลีเป็นของ Central retail ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงบของ CPN)
(+/-) รายงานการประชุมธนาคารกลาง สหรัฐฯ วันพุธนี้ ตลาดคาดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม เดือน ธค.
(+) สัปดาห์นี้ ECB จะมีถ้อยแถลงตลอดทั้งสัปดาห์ และ ตลาดคาด รมว.คลังยุโรป จะเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระลอกใหม่ หลังเกิดเหตุก่อการร้ายในปารีส กระทบการบริโภค และ อุตสาหกรรมท่องเที่ยว
(+) ญี่ปุ่น ประชุมธนาคารกลาง วันพุธ คาดไม่มีมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มเติม
(+) เมื่อวานสภาพัฒน์รายงาน GDP 3Q15 +2.9% ดีกว่าคาดที่ +2.6% จาก 2.8%
(+) วันนี้ คาด ธนาคารกลางอินโดนีเซียคงดอกเบี้ย 7.5%
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel . (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุนและปัจจัยทางเทคนิค