- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 03 July 2014 18:24
- Hits: 2273
บล.เคเคเทรด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ใกล้แนวต้านสำคัญที่ 1,500 จุด ให้เริ่มทยอยขายทำกำไรหากยังไม่มีปัจจัยใหม่หนุน
SET View
ประเด็นหลัก เรามองการปรับขึ้นของ SET วานนี้เป็นการเก็งกำไรผลประกอบการงบ 2Q57 โดยมีแรงซื้อเข้ามาหนาแน่นในหุ้นกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ที่นักลงทุนในตลาดคาดหวังว่าจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวจากแรงกดดันทางการเมืองในช่วงต้นปี และยังเป็นแรงผลักดันให้ทำให้ SET มีโอกาสขึ้นไปแกว่งตัวในกรอบ 1,500 - 1,520 จุดได้ อย่างไรก็ตามภาพรวมการลงทุนที่ผ่านมายังคงเป็นรูปแบบการสลับกลุ่มการเล่นในแต่ละช่วงโดยยังไม่มีปัจจัยสำคัญมาหนุนตลาดให้ขึ้นต่อได้มากนัก เราจึงเริ่มมีมุมมองระมัดระวังต่อการปรับเพิ่มขึ้นมาของ SET ที่ระดับ 1,500 จุดว่ามีความเสี่ยงในการปรับฐานระยะสั้น หากยังไม่มีประเด็นใหม่อื่นๆมาสนับสนุน โดยล่าสุดทาง คสช.ได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือเกี่ยวกับความคืบหน้าของการร่างธรรมนูญปกครองที่ใกล้จะแล้วเสร็จ รวมถึงการกำหนดตัวบุคคลของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ไว้แล้ว ว่าไม่เป็นความจริง โดยจะยังยึดการดำเนินการไปตามขั้นตอนเดิมที่ได้ประกาศออกมาก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ยังคงต้องจับตาทิศทางข้อสรุปแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2.4 ล้านล้านบาทที่จะประกาศในโรดแมพเศรษฐกิจหน้าต่อไป
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะมีการประกาศผลการประชุมกำหนดนโยบายในวันนี้เกี่ยวกับทิศทางนโยบายอัตราดอกเบี้ย โดยที่ Consensus ได้คาดว่าจะยังคงมีการตรึงดอกเบี้ยนโยบายไว้เท่าเดิมที่ 0.15% และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากติดลบที่ -0.10 % ต่อไปอีกระยะหนึ่งหลังการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจในยูโรโซนครั้งล่าสุดแสดงให้เห็นถึงภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังคงอ่อนแอ มีประเด็นที่ต้องติดตามใกล้ชิด คือ มาตรการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเพื่อการต่อสู้กับภาวะเงินฝืด ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นโลกผ่านการเพิ่มขึ้นของสภาพคล่องในกลุ่มยูโรโซน
กลยุทธ์การลงทุน เราแนะนำให้เริ่มทยอยขายทำกำไรบางส่วนในหุ้นที่ราคาได้ปรับขึ้นมาค่อนข้างสูงในช่วงระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา โดยมีความกังวลจากแนวโน้มในการปรับฐานของตลาดหากยังไม่มีประเด็นใหม่มาสนับสนุนการขึ้นต่อ สำหรับการลงทุนระยะกลาง เรายังคงแนะนำให้เลือกหุ้นกลุ่มที่ยังคงมีปัจจัยบวกเฉพาะตัวและยังคง laggard เทียบกับการปรับขึ้นมาของตลาด ได้แก่ กลุ่มธนาคาร (BBL KBANK SCB TMB) กลุ่มพลังงาน (PTT PTTEP PTTGC TOP) และ กลุ่ม ICT (INTUCH JAS SAMART SIM)
Futures Strategy
SET 50 Futures S50U14
แนะนำ ถือ long
ถ้า > 990 ถือ long / ถ้า < 985 ปิดถือ long
Gold Futures GFQ14
แนะนำ ถือ long
ถ้า > 20250 ถือ long / ถ้า < 20250 ปิดถือ long
Silver Futures SVQ14
แนะนำ wait & see
ถ้า = 670 trading long / ถ้า < 670 ปิดถือ long
Oil Futures BRN14
แนะนำ wait & see
ถ้า > 3700 trading long / ถ้า < 3620 trading short
USD Futures USDU14
แนะนำ ถือ short
ถ้า > 32.65 ปิดถือ short / ถ้า < 32.60 ถือ short
Stock Futures TMB
แนะนำ ซื้อขายในกรอบแนวรับแนวต้าน 2.44-2.60 บาท
ถ้า > 2.44 ซื้อ / ถ้า < 2.40 ขาย
Stock Picks
SAMART (+) เรามองว่าการเข้าไปถือหุ้น SIM เพิ่มเป็น 74% มีผลตั้งแต่ 3Q57 เป็นต้นไป จะช่วยลดผลกระทบจากการขาดงานโครงการ IT ใหม่ๆของ SAMTEL เราคาดว่ากำไรสุทธิปี 2557-2558 ของ SAMART จะเติบโตเฉลี่ย 20% เด่นสุดในกลุ่มสื่อสารขนาดใหญ่ที่ศึกษา ขณะที่ราคาหุ้น SAMART ถือว่ายังถูกเมื่อเทียบกับกลุ่ม โดยซื้อขายที่ระดับ PE ปี 2557 ที่ 11.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยหุ้นสื่อสารขนาดใหญ่ที่เราศึกษาที่ 18 เท่า แนะนำ “ซื้อ” มูลค่าเหมาะสม 26.90 บาท
SIM (+) ยอดขายเครื่องโทรศัพท์ของ SIM มีแนวโน้มฟื้นตัว 50% จากไตรมาสแรกมาอยู่ที่ระดับ 6 แสนเครื่องต่อเดือนในช่วง 2 เดือนแรกของ 2Q57 หลังจากที่ คสช. ทยอยจ่ายเงินให้เกษตกรในโครงการจำนำข้าวจะช่วยฟื้นกำลังซื้อผู้บริโภคในต่างจังหวัด ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อ SIM ที่เป็นผู้จำหน่ายโทรศัพท์ Smart phone ราคาประหยัด ทำให้ผลประกอบการ 2Q57 ที่คาดไว้ในเบื้องต้นจะมีกำไรสุทธิ 2Q57 ราว 262 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% QoQ และ 2% YoY ถือเป็นสถิติสูงสุดใหม่ของบริษัท แนะนำ “ซื้อ” มูลค่าเหมาะสม 4.20 บาท