- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 13 November 2015 17:19
- Hits: 976
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
คาด SET ยังมีสิทธิแกว่งทรงและรีบาวด์ขึ้น ดังนั้นเน้นถือรอต่อ!
กลยุทธ์ : SET ไหลลงตามแรงขายในหุ้นกลุ่ม ICT แต่หลังการประมูลเสร็จสิ้นไปแล้วเมื่อคืนนี้ คาดว่าแรงกดดันจะน้อยลง รวมทั้ง SET ปรับตัวลงมารับข่าวการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐไปมากพอควรแล้วด้วย ทำให้ FSS ยังคาดว่า SET จะเริ่มทรงตัวได้และมีลุ้นโอกาสรีบาวด์ขึ้นหาเป้าหมายได้ ดังนั้นยังเน้นถือรอบวก
หุ้นเด่นทางเทคนิค : FORTH, BWG, SF(buy back)
แนวโน้ม : วานนี้ SET ยังปรับตัวลงแรงต่อเนื่องตามแรงขายหุ้นกลุ่ม ICT หลังการประมูล 4G ยังยืดเยื้อทำให้ราคาประมูลเริ่มสูงมากจนนักลงทุนกังวล แต่ก็ยังมีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มแบงก์เข้ามาช่วยหนุน ส่งผลให้ SET ยังมีลักษณะแกว่งทรงตัวได้บ้าง ขณะที่เช้านี้ตลาดยังได้รับแรงกดดันต่อเนื่องอีกจากการปรับตัวลงแรงของตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปเมื่อคืนนี้ ที่แม้ว่าประธานเฟดจะไม่ได้กล่าวถึงแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐในระยะใกล้ๆ นี้ แต่ความเห็นของประธานเฟดสาขาที่ระบุว่าเฟดควรขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้แล้วหลังนโยบายส่วนใหญ่บรรลุผลตามที่ต้องการ ทำให้นักลงทุนยังวิตกเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐในเดือนหน้า ซึ่งกดดันให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ยังเปิดเป็นลบ ทำให้ SET ยังมีโอกาสแกว่งตัวด้านลบได้อีก อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นเอเชียหลายแห่งไม่ได้ปรับตัวลงรุนแรงนัก ในขณะที่ SET ปรับตัวลงมาค่อนข้างแรงมากแล้วในช่วงนี้ ทำให้ FSS ยังคาดว่า SET จะมีกรอบลบจำกัดมากขึ้น และยังลุ้นโอกาสพลิกกลับไปรีบาวด์ขึ้นหาระดับดัชนีเป้าหมายตามพื้นฐานของปีนี้ที่เราประเมินไว้แถว 1450 จุดหรือใกล้เคียงได้ในช่วงถัดไป ดังนั้นเรายังแนะนำถือต่อเพื่อรอขายสูง
แนวรับ 1381-1379 , 1376-1372 จุด
แนวต้าน 1387-1390 , 1394-1400 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$488 ล้าน โดยไหลออกทุกประเทศนำโดยไต้หวัน US$184.5 ล้าน เกาหลีใต้ US$158.4 ล้าน และไทย US$98.5ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนในภูมิภาคมีทิศทางไหลออก ตลาดมีความวิตกเพิ่มขึ้นหลังคำกล่าวของประธาน Fed สาขาเซนต์หลุยส์ระบุว่า Fed ควรออกจากนโยบายที่กำหนดให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ใกล้ 0% เนื่องจากตัวเลขทางเศรษฐกิจต่างๆได้บรรลุแล้ว
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) ADVANC และ TRUE ได้คลื่น 1800 MHz ตามนัด ราคาสุดท้ายสูงกว่าราคาตั้งต้นกว่า 150% แต่เชื่อว่าไม่แพงเกินไปสำหรับ ADVANC หากเทียบกับความสามารถในการแข่งขันที่สูญเสียระยะยาวถ้าประมูลไม่ได้ ขณะที่ TRUE จะมีภาระต้นทุนที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคาประมูลสูงกว่าที่เราคาด จึงกระทบกำไรปี 2016 ของ ADVANC 15% และราคาเป้าหมายปีหน้าลดลงเหลือ 270 บาท แต่ยังมี Upside กว่า 20% ไม่รวม Dividend Yield 6-7% ต่อปี ยังคงแนะนำซื้อ
(0) BEAUTY กำไรสวยตามคาด +9% Q-Q, +25% Y-Y เป็น 102 ล้านบาท ถือว่าดีมากเพราะไม่ใช่ High season และยังถูกกระทบจากเหตุระเบิดที่ราชประสงค์ เนื่องจากรายได้ที่เพิ่มสูงต่อเนื่อง แต่อัตรากำไรขั้นต้นชะลอเล็กน้อยจากค่าใช้จ่ายทำโปรโมชั่น เราคงประมาณการกำไรปี 2015-16 คงราคาเป้าหมายปีหน้า 5.30 บาท แต่ราคาหุ้นปรับขึ้นต่อเนื่องจน upside แคบ ลดคำแนะนำจากซื้อ เป็นถือ
(+) EPG กำไรดีกว่าเราและตลาดคาดมาก กำไรสุทธิ +47% Q-Q, +199% Y-Y หากตัดกำไรจาก FX กำไรปกติจะเป็น 366 ล้านบาท +52% Q-Q, +117% Y-Y ยังคงดีกว่าเราคาด เรากำลังทบทวนประมาณการ เบื้องต้นคาดว่าจะปรับกำไรปีนี้ขึ้นจาก 1.2 พันล้านบาทเป็น 1.4-1.5 ล้านบาท เป้าหมายปีหน้า 13 บาทกำลังปรับ ยังคงแนะนำซื้อ
(+) AAV หากไม่รวมขาดทุน FX จะมีกำไรปกติ 323 ล้านบาท +12% Q-Q ดีกว่าคาด เพราะค่าโดยสารเฉลี่ยที่โดดเด่น +5% Q-Q, +7% Y-Y เป็น 1,710 บาทต่อหัว แนวโน้มกำไร 4Q15 ดีต่อเพราะ High season แม้ ICAO จะยังขึ้นธงแดงกรมการบินพลเรือนของไทย แต่ชดเชยด้วยไทยแอร์เอเชียเปิดเส้นทางบินใหม่เพิ่มอีก 5 เส้นทาง เราปรับกำไรปี 2016 ลง 13% เพราะเริ่มเห็นผลกระทบจากนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงหลังเหตุระเบิดที่ราชประสงค์แต่กำไรยังโต 35% Y-Y ปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปีหน้าที่ 6 บาท ยังแนะนำซื้อ
(-) BEC กำไรดีกว่าคาดมาก +9% Q-Q, -25% Y-Y เป็น 816 ล้านบาท มาจากการคุมรายจ่ายและอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจจัด Event ที่สูงเป็นพิเศษ แต่รายได้โฆษณาโทรทัศน์ ยังลดลง 4% Q-Q และ 10% Y-Y เราปรับกำไรปีนี้ขึ้นเล็กน้อย 7% เป็นหดตัว 32% Y-Y และปรับปี 2016 ขึ้น 5% เป็นเติบโตเพียง 5% Y-Y เป้าหมายปีหน้าปรับขึ้นเป็น 31 บาทจาก 30 บาท ยังคงแนะนำขาย
(+) PT กำไรเริ่มฟื้นตัว +70% Q-Q แต่ยังลดลง 18% Y-Y กำไรที่ฟื้น Q-Q มาจากงานบริการที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นไปตามแนวทางของบริษัทที่ต้องการเพิ่มรายได้ประจำเพื่อลดความผันผวนของรายได้ แนวโน้ม 4Q15 จะดีขึ้นเพราะ High season และมีลุ้นกับการได้งานโครงการเพิ่ม ราคาปัจจุบันไม่แพง คิดเป็น PE ปีหน้าที่ 9 เท่า แนะนำซื้อ เป้าหมายปีหน้า 15 บาท
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาร่วงกว่า 1% โดยได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ร่วงแรง รวมถึงจับตาดูหลายๆค้อยคำแถลงการณ์ของเจ้าหน้าที่ FED
(-) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดลบแรงจากแรงกดดันของราคาน้ำมันที่ร่วงลงเช่นกัน
(-) ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในแดนลบลบเช่นกันจากบรรยากาศการลงทุนที่ไม่สดใสจากการร่วงลงของราคาสินค้า Commodity
(0) ค่าเงินบาทแกว่งทรงตัวออกข้าง โดยล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 35.78-35.90 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดที่ 41.75 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.18 ดอลลาร์/บาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 2 เดือนครึ่งหลัง EIA เปิดเผยว่าสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯปรับตัวพุ่งขึ้นเกินคาดในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดที่ 1,081.00 ดอลลาร์/ออนซ์ ขยับลง 3.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ต่ำสุดในรอบเกือบ 6 ปีโดยยังคงถูกกดดันจากคาดการณ์เรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ในเดือนหน้า ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบเกือบทศวรรษ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
13-พ.ย. - MSCI Semi-annual Index Review
- ฮ่องกง: 3Q15 GDP
- ยูโรโซน: 3Q15 GDP
16 พ.ย. - ไทย: 3Q15 GDP, WHABT เริ่มเทรด (ราคา IPO 10 บาท), ครบกำหนดส่งงบการเงิน 3Q15 ของบริษัทจดทะเบียนเช้าวันนี้
- ญี่ปุ่น: 3Q15 GDP
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (ต.ค.)
17-พ.ย. - อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI) ประชุม
18-19 พ.ย. - ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดทำการ
18-พ.ย. - ไทย: TNP เริ่มเทรด (ราคา IPO 1.75 บาท)
- สงิคโปร์: 3Q15 GDP
- สหรัฐ: Housing starts, Building permits (ต.ค.)
19-พ.ย. - ญี่ปุ่น: BOJ ประชุม
- สหรัฐ: Fed Minutes from 27-28 FOMC meeting
20 พ.ย. - ไทย: ยอดขายรถ (ต.ค.)
23-พ.ย. - ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (พ.ย.)
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch