- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 11 November 2015 17:49
- Hits: 993
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวโน้มลงทดสอบ 1380-1385
SET Index: 1400.53 ฟื้นตัวในระยะสั้นกลับขึ้นมาทดสอบแนวต้านที่ 1400 จุด แต่มูลค่ากรซื้อขายค่อนข้างเบาบาง จึงทำให้การฟื้นตัวยังอยู่ในกรอบจำกัด โดยมีแนวต้านที่ 1400 และ 1404 จุด ในขณะที่แนวโน้มหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงหลังจากไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้านสำคัญของเส้นแนวโน้มขาลงที่ 1420 จุดขึ้นไปได้ และมีแนวรับที่ 1380 จุดเป็นจังหวะในการกลับเข้าไปซื้อหุ้น และมีแนวรับสำคัญที่ 1370 จุดบริเวณแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้น
แนวต้าน : 1400 และ 1404
แนวรับ : 1395 และ 1390
JAS = 5.50 / 5.70, SR = 4.30 / 4.50, ADVANC = 232 / 235, PTT = 280 / 282, GL = 19.50 / 20.00
KCE Electronics (KCE TB; THB 63.50) - ซื้อ
แนวต้าน : 66.00 และ 67.00
แนวรับ : 63.50 และ 63.00
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังจากเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคเหนือแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐาน ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้ม RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 70
แนะนำซื้อ KCE โดยมีแนวรับที่ 63.50 และ 63.00 และมีแนวต้านที่ 66.00 และ 67.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 61.50 ลงไป
Moong Pattana Internation (MOONG TB; THB 5.80) - ซื้อ
แนวต้าน : 6.50 และ 6.80
แนวรับ : 5.80 และ 5.70
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นหลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ยืนยันการทะลุผ่านแนวโน้มขาลงขึ้นมาได้แล้ว
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ MOONG โดยมีแนวรับที่ 5.80 และ 5.70 และมีแนวต้านที่ 6.50 และ 6.80 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 5.50 ลงไป
SET50 Index Futures
S50Z15 ฟื้นตัวในระยะสั้นกลับขึ้นมาเคลื่อนเหนือระดับ 890 ซึ่งเรายังคงคาดว่า ทิศทางหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลง โดยมีแนวรับที่ 880 และ 870 ตามกรอบแนวโน้มขาขึ้น และมีแนวต้านในระยะสั้นที่ 894 ถ้าสามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีโอกาสขึ้นต่อไปทดสอบแนวต้านที่ 900-902
แนวต้าน : 894 และ 898
แนวรับ : 890 และ 888
คำแนะนำ : เราแนะนำให้เน้นการ Open Short ใน S50Z15 ที่แนวต้าน 892 และมีแนวรับที่ 890 และ 880 เป็นจังหวะขายทำกำไรสถานะ Short
STOP LOSS สถานะ Short ถ้า S50Z15 ปรับเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 894 กลับขึ้นไป
ITDZ15
ฟื้นตัวไปทดสอบแนวต้านที่ 7.80 หลังจากเคลื่อนไหวในกรอบแคบต่ำกว่าแนวรับสำคัญของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 8.10 ทำให้การฟื้นตัวในระยะสั้นยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 7.50 และ 7.30 ตามกรอบแนวโน้มขาขึ้น และมแนวต้านที่ 7.80-7.90
แนวต้าน : 7.84 และ 7.88
แนวรับ : 7.70 และ 7.60
คำแนะนำ : เราแนะนำให้เน้นการ Open Short ใน ITDZ15 ต่อเนื่อง โดยมีแนวต้านที่ 7.80-7.84 และมีแนวรับที่ 7.50 และ 7.30 เป็นจังหวะขายทำกำไร
STOP LOSS สถานะ Short ถ้า ITDZ15 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 7.90 กลับขึ้นไป
JASZ15
ปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับสำคัญของกรอบแนวโน้มขาขึ้น หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 5.80 แต่เราคาดว่า การปรับตัวลดลงในระยะสั้น น่าจะมีโอกาสฟื้นตัวที่แนวรับสำคัญ 5.50 โดยมีแนวต้านที่ 5.75-5.78 ถ้าทะลุผ่านขึ้นได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 6.00 และ 6.40
แนวต้าน : 5.70 และ 5.75
แนวรับ : 5.55 และ 5.50
คำแนะนำ : เราแนะนำให้ Open Long ใน JASZ15 ที่แนวรับ 5.50-5.55 เพื่อคาดหวังการฟื้นตัวไปทดสอบแนวต้านที่ 5.80
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า JASZ15 ปรับตัวลดลงหลุด 5.38 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...ยังอยู่ในช่วงซึมๆ
ภาวะที่มีแรงกดจากความกังวลเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก คงจะยังผันผวนอีกสักพัก จนกว่าจะเห็นปัจจัยหนุนใหม่ๆเข้ามาในตลาด โดยความกังวลเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ย เรามองว่าน่าจะเป็นแค่ช่วงสั้นๆ แลัวหลังจากนั้นจะเริ่มทรงๆตัว ประเด็นที่อาจจะเป็นตัวตัดสินในการลงทุนหลังจากนี้คือ การประเมินความถูกความแพง ผ่าน P/BV กับ ROE จากรูปด้านซ้าย จะพบว่าตลาดที่ยังน่าดึงดูดใจในการลงทุนน่าจะเป็นประเทศในเอเชียเหนือ เนื่องจาก เล่นกันที่ค่า P/BV ไม่สูง ขณะที่ ROE สูง ส่วนตลาดหุ้นไทย ยังอยู่ในระดับกลางๆ ส่วนตลาดอาเซียนอื่นๆ อย่าง อินโดนีเชียและฟิลลิปปินส์ น่าจะเริ่มแพง
ตลาดที่บรรดากองทุนให้ความสนใจมากที่สุดในตอนนี้คือ ตลาดที่จะได้ประโยชน์จากการใช้นโยบาย QE อย่าง ญี่ปุ่นและกลุ่มยูโร ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐ กำลังแพง สำหรับตลาดหุ้นไทยนอกจากการประเมินความถูกความแพงซึ่งอยู่ในระดับกลางๆ ตอนนี้กำไรของตลาดแบบถ่วงน้ำหนัก EPS ยังปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยกำไรของตลาดรวมในปีนี้ อยู่ในระดับพอๆ กับปี 2012-2013 ดูจากรูปด้านขวา หากมาดูอัตราการทำกำไรหรือ EPS growth ปี 2015 เพิ่มขึ้นแค่ 6-7% เท่านั้น ส่วนในปี 2016 อยู่ที่ 12.6 % แต่หากพิจารณาจากค่า EPS growth 12 เดือนล่วงหน้า ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีกว่าอินโดนีเชีย มาเลเชียและฟิลิปปินส์ คือ ขยายตัวที่ 11.73% เทียบอินโดนีเชียที่ 8.66% มาเลเชีย 7.38% และฟิลิปปินส์ที่ 11.23%
ผลดำเนินงาน Q3/15 ของไทยที่ทยอยออกมา ยังบ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจและส่วนใหญ่ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดหรือตามที่คาด มีส่วนน้อยมากที่จะออกมาดีกว่าคาด ส่งผลให้หุ้นที่ทยอยประกาศงบไม่มีอะไรที่น่าตื่นเต้น คือพอประกาศงบออกมา ราคาหุ้นก็นิ่งหรือปรับตัวลง หลังจากนี้ตลาดคงจะกลับไปอิงกับการเคลื่อนไหวของดัชนีหลักหรือตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ จีนหรือยูโร หรือแม้แต่น้ำมัน โดยราคาน้ำมัน คาดคงยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบต่อไป
ประเด็นภายในประเทศ ที่คาดกันว่าจะช่วยหนุนตลาด อย่างการเร่งรัดให้เกิดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานให้เร็วขึ้น ก็ยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ขณะที่มาตรการกระตุ้นแรงซื้อของคนมีรายได้น้อยและอสังหาริมทรัพย์ ยังคงต้องใช้เวลา ซึ่งน่าจะเริ่มหนุนเศรษฐกิจได้ใน Q1/16 ดังนั้นช่วงนี้ถึงปลายเดือน พ.ย. ภาวะการลงทุนน่าจะกลับมาเงียบเหงา หรือซึมๆ อย่างไรก็ตามปัจจัยที่จะทำให้ตลาดลงแรงๆ ก็มองไม่เห็น เช่นกัน หากจะมีก็แค่แรงขายทำกำไรหุ้นในสหรัฐ
วันนี้คาดดัชนี SET ยังอยู่ในภาวะซึมตัวหรือแกว่งกรอบแคบ หลังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ๆ ประกอบวันนี้ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการ หากจะมีคึกคักบ้างก็เป็นกลุ่มสื่อสารที่รอลุ้นผลการประมูลคลื่น 1800 MHz ในวันนี้ (ADVANC เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มนี้) แนวต้านวันนี้อยู่ที่ 1402-1406 จุด ส่วนแนวรับที่ 1394-1390 จุด แนะนำ ซื้อเก็งกำไร LPN และ AAV
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary...
SET ปิดช่วงเช้าที่ระดับ 1,400.53 จุด เพิ่มขึ้น 2.15 จุด(+0.15%) มูลค่าการซื้อขาย 18,761.94 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบ รอปัจจัยใหม่หนุน การซื้อขายมีการเล่นเก็งกำไรรายตัวโดยเฉพาะในกลุ่มสื่อสาร จากการประมูล 4G และหุ้นที่คาดว่าผลประกอบการ Q3/58 จะออกมาดี
Afternoon Perspective...
แนวโน้มตลาดบ่าย แกว่งแคบ ภาพรวมตลาดยังเน้นไปที่ปัจจัยรายตัว โดยเฉพาะกลุ่มหุ้นที่ผลประกอบการณ์ Q3 ออกมาดี ในขณะที่เรามองว่าประเด็นเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดจะยังไม่มีผลให้ตลาดปรับตัวลงแรง เนื่องจากนักลงทุนมีการรับรู้ปัจจัยดังกล่าวมาพอสมควรแล้วก่อนหน้านี้ และค่าเงินบาทที่เริ่มนิ่งๆ ก็เป็นการยืนยันว่าตลาดเริ่มซึมซับปัจจัยดังกล่าวไปแล้ว ในทางกลับกัน เรามองว่าตลาดยังมีเม็ดเงิน LTF เข้ามาซื้อต่อเนื่อง ทำให้มองว่าทิศทางตลาดยังแกว่งตัวในกรอบ ประมาณ 1390-1420 จุด ในช่วงนี้ สำหรับประเด็นในช่วงบ่ายจะมี 1) ผลการประมูล 4G ออกมา เราเลือก ADVANC เป็น TOP pick 2) มัลดีฟส์ยกเลิก State of Emergency จะเป็นปัจจัยหนุนเชิงบวกต่อ CENTEL, MINT 3) คาดผลการดำเนินงานออกมาดี เราชอบ EPG, GIFT, BJCHI
Fundamental Picks & Technic (PM) ...
KCE Electronics (KCE TB; THB 63.50) - ซื้อ
Moong Pattana Internation (MOONG TB; THB 5.80) - ซื้อ
Turnover List preview (Cash Balance) : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance สัปดาห์หน้า : FER*, TAPAC*, TPA* (* ดูรายละเอียดของเงื่อนไขในบทวิเคราะห์ และกรณีหุ้นแม่ติด ฯ Warrant ทุกตัวของหุ้นนั้นจะติดตามด้วย)
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]