- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 09 November 2015 18:10
- Hits: 1346
บล.โนมูระ พัฒนสิน : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
FEDอาจขึ้นดอกเบี้ยปีนี้หนุนDollarแข็ง บาทอ่อน / กระตุ้นท่องเที่ยว(AOT) ผสานกลุ่มคาดเข้าSET50 (MTLS) & Laggard (ROBINS)
Nomura : Key Factors
(+) Int Factor: ซูเปอร์บอร์ด หารือแผนฟื้นฟู 7 รัฐวิสาหกิจ วันนี้
(+) Fund Flow: ยอดสะสมของต่างชาติใน TFEXตั้งแต่ต้น ต.ค. ยังLongถึงุ6.21หมื่นสัญญา
(+) Int Factor: นายกฯ ยืนยันประมูล4G คลื่น 1800 MHz วันที่ 11 พ.ย. นี้
(+) Int Factor: คาดเม็ดเงิน LTF 2 เดือนสุดท้ายอย่างน้อยราว 2.2 – 3.2 หมื่นลบ พยุงSET
(*) Fund Flow: ต่างชาติซื้อ 3249 ลบ., Short Future 2714, ซื้อ Bond 104 ลบ.
(-) China Econ: ส่งออกและนำเข้า ต.ค. ที่ -6.9%, -18.8% ต่ำคาด / หนุนมาตรการเพิ่มเติม
(-) US Econ: การจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ 271K จาก142K ปรับขึ้นมากกว่าคาดที่ 185K
(-) US Econ: อัตราการว่างงานสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 5.0% ต่ำสุดรอบ 7 ปีครึ่ง
(-) Ex Factor: Nomura ปรับคาด FED ขึ้นดอกเบี้ยเป็น ธ.ค.15 (โอกาส75%) จาก มี.ค. 16
(-) Commo: ราคาน้ำมันดิบ WTI -1.9% สู่ $44.33/bbl / Brent -1% สู่ $47.48/bbl
(-) Ex Factor: ผลสำรวจ Bloomberg ให้โอกาสการขึ้นดอกเบี้ย เดือน ธ.ค. ขึ้นสู่ 68%
SET PER 15F: CNS 15.28x (EPS 92.5) vs Cons.15.5x (LT-Avg 14.0x)
2016 SET Target: CNS Base 1628 pts (EPS 105, PER15.5x)
Nomura Daily Top Picks: AOT, ROBINS, MTLS
Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ ย่อแล้วดีด ในกรอบแนวรับ 1403/1400 จุด และแนวต้าน 1421/1429จุด จากการรายงานดัชนีการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ เดือนตค. ที่ปรับตัวขึ้นกว่า 2.71 แสนตำแหน่ง จากเดือนก่อนที่ 1.42 แสนตำแหน่ง ซึ่งสูงกว่า consensus คาดที่ 1.85 แสนตำแหน่ง รวมถึงอัตราการว่างงานสหรัฐเดือน ตค. ที่ปรับตัวลงสู่ระดับ 5.0% จาก 5.1% ในเดือน กย. ทำจุดต่ำสุดในรอบ 7 ปีครึ่ง บ่งชี้ถึงภาคแรงงานสหรัฐสามารถฟื้นตัวขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง หนุนโอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯปีนี้มีโอกาสสูงขึ้น โดยพบว่าหลังจากการรายงานดัชนีภาคแรงงานดังกล่าวส่งผลให้โอกาสขึ้นดอกเบียเดือน ธค. ของ Bloomberg Consensus ขยับขึ้นสู่ระดับ 68% จากก่อนหน้าที่ระดับ 56% สอดคล้องกับ Nomura ที่ปรับมุมมองการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกเป็นเดือน ธค.นี้ (โอกาส 75%) จาก มีค. 2016 (โอกาส 45%)กระทบโดยตรงต่อ Dollar Index ขยับขึ้นแรง สู่ระดับ 99.2 จุด (แข็งสุดรอบ 7 เดือน) กดดันราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับฐานลง (น้ำมันดิบสหรัฐฯ -1.9%, น้ำตาล -2%, cotton -0.5%, ถ่านหิน -0.3%)
อย่างไรก็ดี คาดผลกระทบต่อไทยยังค่อนข้างจำกัด เนื่องจากแรงขายของต่างชาติในช่วงที่ผ่านมาไหลออกไปค่อนข้างมากแล้ว (ยอดถือครองหุ้นไทยของต่างชาติต่ำสุดในรอบ 5 ปี) บวกกับสถานะของต่างชาติในตลาด TFEX ตั้งแต่ ตค. ยังถือครองสถานะ Net Long สูงถึง 6.2 หมื่นสัญญา ผสานกับพัฒนาการเชิงบวกของเศรษฐกิจไทยที่คาดจะฟื้นตัวขึ้นจากแรงผลักดันของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐฯยังคงมีออกมาอย่างต่อเนื่อง (วันนี้ซูเปอร์บอร์ดหารือแผนฟื้นฟู 7 รัฐวิสาหกิจ) เป็นปัจจัยหนุน รวมถึงช่วงปลายปี (พย-ธค) จะเป็นช่วง LTF-Season ที่เม็ดเงินมักเข้าสู่ระบบในสัดส่วนสูงถึง 68% ของยอดซื้อทั้งปี หรือคิดเป็นมูลค่าเฉลี่ยกว่า 2.2 – 3.2 หมื่นล้านบาท น่าจะเข้ามาช่วยจำกัด Downside Risk ของ SET
Asset allocation : หุ้น 85% ทองคำ 2.5% ตลาดบอนด์ 5% และเงินสด 7.5%
Short-Term Strategy : เน้นหุ้นที่มีปัจจัยเด่นเฉพาะตัว เช่น กลุ่มที่เก็งเข้าคำนวนรอบใหม่ โดยแนะสะสม SET50 Play เลือก STEC, MTLS, S, GPSC ส่วน SET100 Play เลือก EPG, VNG, PLANB, WORK, SAMTEL เด่น ผสานหุ้นกลุ่ม Mid-Small Caps ที่มี Momentum เด่น และปัจจัยระยะสั้นหนุน เช่น CI, COM7, TPCH, SPA, PLANB, KAMART นอกจากนี้กลุ่มท่องเที่ยว คาดยังฟื้นต่อเนื่องจากการเข้าสู่ช่วง High Season (AOT, ERW, MINT, CENTEL) และใช้โอกาสย่อสะสมหุ้นที่คาดจะรายงานกำไร 3Q15F โดดเด่น (SPA, QTC, MTLS, SAWAD, GUNKUL) สำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว แนะนำสะสมหุ้นNOV2015 Top Picks : MINT, AOT, DCC , CI, TVT, KAMART สำหรับวันนี้แนะนำ*Daily Top Picks: AOT, ROBINS, MTLS*
***3Q15 Earning Results: กำไรดีกว่า cons คาด: MAJOR +27.6%
Mid-Long Term Strategy : คาด SET จะแกว่งบวก สู่ต้าน 1454/1480จุด รับ 1375/1350จุด กรณี SET ขึ้นทดสอบ 1450จุด+/- ให้ลดน้ำหนักหุ้นลงราว 10-15% จากเดิม 85% โดยคาดกลุ่มนำตลาดในเดือนนี้ ได้แก่ กลุ่มได้ประโยชน์จากฤดูกาล(AOT, MINT, KAMART, HMPRO Laggard ERW) กลุ่มรับเหมาฯ(DCC, CK, ITD) ผสานกลุ่ม ICT(ADVANC, INTUCH) และ Mid-small Cap ที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว TVT, CI, PLANB, AMATA ส่วนหุ้นที่คาดว่าจะ Underperform ในเดือนนี้ COAL(BANPU), MEDIA(BEC), Airline(THAI), ICT(DTAC, TRUE) โดย Portfolio Top picks NOV 15 MINT, AOT, DCC , CI, TVT, KAMART / Dark Horse PLANB, HMPRO, GUNKUL, AMATA, ITD
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
AOT (TP340*): Support 304/300 Resistant 314/322
Theme : Government infrastructure spending
Earning outlook: คาดกำไรสุทธิปี 15F แตะระดับ 15.7 พันลบ. โต +28% y-y และเติบโตต่อเนื่องในปี 16F ที่ 14% ที่ระดับ 17.9 พันลบ. (Consensus)
Valuation : มูลค่าเหมาะสมปี 2016F ที่ 340 บาท (Upside 10.4%) อิง P/E 16F ที่ 28 เท่า (Consensus)
Catalyst : คาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในปี 2558 ราว 29.5 ล้านคน สูงกว่าคาดถึง 7 แสนคน สร้างสถิติใหม่ในรอบ 8 ปีที่ผ่านมา รวมถึงเปิดสนามบินดอนเมือง 2 ปลายเดือนพ.ย. หนุนรายได้รวมเติบโตต่อเนื่อง
ROBINS (TP57*): Support 40.0/38.5 Resistant 42.5/44.0
Theme : The Laggard
Earning outlook : คาดกำไร 3Q15 ทรงตัว q-q แต่เติบโต 24% y-y ที่ 438 ลบ. จากรายได้ค่าเช่าที่โตกระโดด +43% y-y, flat q-q
Valuation : น่าสนใจจาก Valuation ที่ยังถูก โดยซื้อขายที่ระดับ PER16F ต่ำเพียง 17.5x ต่ำกว่ากลุ่มฯที่ 24.8x
Catalyst : ราคาหุ้น Laggard กลุ่มฯอยู่มากขณะที่แนวโน้มกำไรเติบโตต่อเนื่องในปี 16-17F เฉลี่ย 17% ต่อปี จากการเพิ่มสัดส่วนยอดขาย House brand
MTLS (TP23.7*): Support 19.0/18.6 Resistant 20.0/20.7
Theme : Earnings Momentum / SET50 Rebalance
Earning outlook : แนวโน้มกำไร 3Q15 ทำสถิติใหม่ที่ 210 ลบ. (+51%y-y , +15% q-q) จากการเติบโตของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิตามยอดสินเชื่อคงค้างที่คาดว่าจะโตถึง 51% y-y และ NIM ที่คาดว่าจะดีขึนจากต้นทุนที่ลดลง ต่อเนื่องไปจนถึง 4Q15 และ FY16F
Valuation : ราคาเป้าหมาย 23.7 บาท อิง PER ที่ระดับ 27.7x ปัจจัยหนุนจากกำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ย 41% ในช่วง 3 ปีข้างหน้า
Catalyst : คาด MTLS จะเข้าคำนวณดัชนีใน SET50 ปัจจัยบวกผลักดันราคาหุ้นปรับตัวขึ้น และแรงหนุนเก็งกำไรต่องบ 3Q15 ที่คาดว่าจะทำ New High สู่ระดับ 210 ลบ.
Strategist Team
Koraphat Vorachet : Analyst Registration No. 043100
[email protected] : 0-2287-6771, 0-2638-5771
Wijit Arayapisit : Analyst Registration No. 044799
[email protected] : 0-2287-6871, 0-2638-5871
Chavaratt Changpakorn : Assistant Strategist
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS,Nomura)