- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 06 November 2015 18:41
- Hits: 1621
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
'ซบเซา รอตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ'
Fundamental Pick -Today: WHA
Top Picks-High Div Yield : ADVANC, INTUCH, BTS, DCC, AP, QH, SPALI, SNC, MODERN, TCAP, TISCO, TMT, BTSGIF, CPNRF, SPF
Shot Sell-Prev : PTT 10% QH 9% KKP 9% AOT 8% STPI 6%
Technical View ภาพตลาดเปลี่ยนเป็นลบ แต่ค่าบวกอาจข่วยให้รีบาวน์ก่อน แล้วจึงลงต่ำได้ เน้นซื้อ "ค่าบวก" เท่านั้น หากต่ำกว่า 1410 จะไม่ดี
Support Resistance แนวตัดขาดทุน
SET ซื้อค่าบวก 1420-1430 1410
SET50 ซื้อค่าบวก 920-930 910
Top Picks-Tech Today : , TCAP, INTUCH, AMATA, FSMART, BLA, ASEFA, QTC
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : LPN (จากซื้อเป็น ถือ)
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : SET Index วันพฤหัสปิดตลาดปรับตัวลดลง -10.26 จุด มายืนที่ระดับ 1413.16 จุด มูลค่าการซื้อขายปานกลางเป็น 44 พันล้านบาท เกิดแรงเทขายหนักในช่วงบ่าย โดยเฉพาะกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่เลื่อนการประมูล e-auction รถไฟทางคู่ คลองสิบเก้า-แก่งคอย หุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันในตลาดโลกกลับมาปรับลง ปัจจัยต่างประเทศกดดันจากถ้องแถลงเฟดที่ส่งสัญญาณอาจมีการปรับเพิ่มดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า 15-16 ธ.ค.58 นักลงทุนต่างชาติและพอร์ตโบรกเกอร์เป็นผู้ซื้อสุทธิ ส่วนที่เหลือคือ สถาบัน และรายย่อยเป็นผู้ขายสุทธิ
วันนี้ปัจจัยที่เด่นคือ ราคาน้ำมันดิบที่ปรับลงต่อ รวมทั้งเฟดส่งสัญญาณอาจปรับขึ้นดอกเบี้ย ธ.ค.58 นี้ อาจนำมาซึ่งแรงขายทำกำไรได้ต่อในวันนี้ ด้านตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่เป็น Highlights คือ การจ้างงานนอกภาคาการเกษตรประกาศวันนี้ ด้านตัวเลขที่เปิดเผยคือขอสวัสดิการการว่างงานเพิ่มและประสิทธิภาพการผลิตออกมาด้อยลง
ส่วนอังกฤษคงอัตราดอกเบี้ยต่ำ หลังถูกปรับลด GDP ลง และจีน-ฮ่องกงจะมีการเชื่อมตลาดหุ้นกัน ด้านปัจจัยในประเทศ ติดตามความคืบหน้าการประมูล 4G ทางสหภาพแรงงานของทีโอทีและกสท.จะยื่นฟ้องคุ้มครองต่อศาลปกครอง นักลงทุนยังต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจทั้งสหรัฐฯและไทยต่อไปอีกรวมทั้งผลประกอบการ 3Q58 ที่จะมีเส้นตาย กลาง พ.ย.58 อาจมีการเก็งกำไรเม็ดเงิน LTF และ RMF ซึ่งเหลือแค่ 2 เดือนแล้ว ทั้งนี้ภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังชะลอตัวลงยังคอยกดดันดัชนีฯอยู่ไม่ให้ไปได้สูง กลยุทธ์จึงยังคงเป็นการเลือกซื้อหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีหรือมีข่าวดีที่สามารถเก็งกำไรในรอบสั้นๆได้ (Selective Buy) และไม่หวังอัตราผลตอบแทนที่สูงมาก คือทยอยขายทำกำไรเมื่อได้อัตราผลตอบแทนที่ตั้งไว้ ซึ่งหุ้นพื้นฐานที่น่าสนใจแนะนำวันนี้เป็น WHA
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดมีสัญญาณ Candlestick & Indicators วกกลับมาเป็นลบอีกครั้ง จึงมีลักษณะแกว่งแบบให้น้ำหนักการลงมากกว่า แต่ค่าบวกมีโอกาสช่วยให้รีบาวน์ในระยะสั้นก่อนได้ แล้วจึงลงต่ำตามมาได้ การซื้อใหม่ก็แนะนำให้ตามด้วยค่าบวกเท่านั้น เพื่อความปลอดภัย แนวต้านระยะสั้น 1420-1430 จุด แนวตัดขาดทุนเป็น 1410 สำหรับหุ้นที่ทำการ SCAN มาพบว่าหุ้นที่มีโอกาสทำ New High และน่าสนใจคือ BLA, MTLS, WHAและ ASEFA ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน LIST ได้แก่ DCC, QTC, GUNKUL, TRC, S, KKC, SST และ APCS ส่วนหุ้นที่หลุด LIST ควรหาจังหวะขายทำกำไรคือ BCP และ SCN
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
-/+ สหรัฐ: ตัวเลขเศรษฐกิจไม่สดใส กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 16,000 ราย สู่ระดับ 276,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 260,000 ราย ส่วนประสิทธิภาพการผลิตของแรงงานนอกภาคเกษตร เพิ่มขึ้น 1.6% ในไตรมาส 3 เมื่อเทียบรายไตรมาส แต่ชะลอตัวจากที่ปรับตัวขึ้น 3.5% ในไตรมาส 2 เราเห็นว่าเป็นปัจจัยลบที่เศรษฐกิจสหรัฐฯยังไม่ดี แต่มีข้อดีคือ ช่วยลดความกังวลเรื่องเฟดขึ้นดอกเบี้ย
สหรัฐ: เน้นตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร ประกาศคืนนี้ สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค. ซึ่งคาดว่าจะเป็น Highlights ที่เฟดใช้ตัวเลขนี้มากในการพิจารณาขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่ผลการสำรวจของนักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค.จะเพิ่มขึ้น 183,000 ตำแหน่ง จากระดับ 142,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 5.0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 7 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2008
+/- อังกฤษคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำ ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.5% ในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ หลังคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ประกาศปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจอังกฤษในปีนี้ โดยคาดว่าจะมีการขยายตัว 2.5% ขณะที่คาดการณ์ในเดือนพ.ค.ที่ 2.6% อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจอังกฤษยังคงมีการเติบโตสูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในกลุ่มอุตสาหกรรมชั้นนำทั้ง 7 หรือจี-7
+/ จีน& ฮ่องกง: ติดตามข่าวเชื่อมโยงตลาดหุ้นทั้งสองประเทศ นายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน เปิดเผยในบทความที่เผยแพร่ทางเว็บไซต์ของธนาคารว่า การเชื่อมโยงการซื้อขายระหว่างตลาดหุ้นเสิ่นเจิ้นและตลาดหุ้นฮ่องกงจะมีขึ้นภายในสิ้นปีนี้ แม้ว่าฮ่องกง เอ็กซ์เชนจ์ แอนด์ เคลียริ่ง ลิมิเต็ด (HKEx) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการตลาดหุ้นฮ่องกง เปิดเผยวานนี้ว่า ยังไม่มีการทำข้อตกลงใดๆในการเชื่อมโยงการซื้อขายระหว่างตลาดหุ้นเสิ่นเจิ้นและฮ่องกง
- ดาวโจนส์ปรับลดลง เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนต.ค.ในช่วงค่ำวันนี้ตามเวลาไทย เพื่อจับสัญญาณแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ดาวโจนส์ปิดที่ 17,863.43 จุด ลดลง 4.15 จุด หรือ -0.02% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,127.74 จุด ลดลง 14.74 จุด หรือ -0.29% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,099.93 จุด ลดลง 2.38 จุด หรือ -0.11%
- น้ำมันดิบในตลาดโลกร่วง เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 1.12 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 45.20 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 60 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 47.98 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ทองคำปรับลงต่อเนื่อง ยังคงได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และการส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 2 ดอลลาร์ หรือ 0.18% ปิดที่ระดับ 1,104.20 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ & ข่าวเด่น
-/ หุ้นรับเหมาก่อสร้างร่วงหลังเลื่อน e-auction รถไฟทางคู่ สำหรับโครงการแรกคือ ฉะเชิงเทรา-คลอง 19-แก่งคอย มูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท โดยเลื่อนประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติจาก 27 ต.ค.58 มาเป็น 9 พ.ย.58 และเลื่อนการประมูลแบบ e-auction จากวันนี้มาเป็น 19 หรือ 20 พ.ย.58 ส่วนวันนี้มีผู้รับเหมามายื่นโครงการสองคือ ถนนจิระ-ขอนแก่น มูลค่า 2.36 พันล้านบาท 4 รายคือ ITD, UNIQ, STEC และ CK ในนามบริษัทร่วมทุน ซีเคซีเอช (ร่วมกับ ช.ทวีก่อสร้าง) ใช้เวลา 30 วันประกาศคุณสมบัติ และ e-auction ภายใน ธ.ค.58 แต่เราเห็นว่าไม่ถึงกับแย่ เพียงแต่ล่าช้าออกไป
+ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ต.ค.ดีขึ้นในรอบ 10 เดือน มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.58 อยู่ที่ 73.4 โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือน สำหรับปัจจัยบวกมาจาก ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น 3 มาตรการ, ดัชนี SET เดือนต.ค.+ 45.94 จุด, ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศปรับตัวลดลง ทั้งนี้ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจประเมินว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดเดือนต.ค.ที่ผ่านมา และกำลังค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้น แต่ยังเปราะบาง จากปัจจัยลบเศรษฐกิจโลกและราคาสินค้าเกษตรที่ทรงตัวระดับต่ำ
/- สหภาพแรงงาน ทีโอทีและกสท.จะยื่นฟ้องศาลฯประมูล 4G สำหรับคลื่น 900 MHz ซึ่งประเด็นนี้ต้องติดตามว่าจะเป็นอุปสรรคต่อการเปิดประมูลในวันที่ 15 ธ.ค.58 นี้หรือไม่ เพราะจะมีผลกับหลักทรัพย์ที่จะเข้าร่วมประมูล โดยเฉพาะ ADVANC ที่ต้องการคลื่นไปให้บริการ 3G และ 4G ก็ขึ้นกับศาลปกครองว่าจะมีคำสั่งให้มีการคุ้มครองหรือไม่ แต่ในปัจจุบันถือว่า กสทช.มีอำนาจในการเปิดประมูล จึงมีแนวโน้มว่าการเปิดประมูลจะยังคงดำเนินต่อไปได้
ติตตามผลประกอบการ 3Q58 ที่ทยอยประกาศ จากก่อนหน้าที่ถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ในเรื่องการตั้งสำรองหนี้ที่มาก ตามคุณภาพสินทรัพย์ที่ด้อยลงและกลุ่มพลังงานที่โดนกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ทำให้มีการตั้งสำรองการด้อยค่าของสินทรัพย์เช่นกัน แต่ตลาดฯก็รับรู้ไประดับหนึ่งแล้ว อีกทั้ง 4Q58 ก็จะตั้งสำรองไม่รุนแรงแล้ว รวมทั้งเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่เงินสด ช่วงนี้จะเป็นกลุ่มวัสดุก่อสร้างและพลังงานที่ทยอยประกาศออกมา
-/GL มีหุ้นต้นทุนต่ำเข้าซื้อขายวันนี้ อาจมีแรงขายทำกำไร (Selling Pressure) ออกมา นั่นคือ หุ้นที่เกิดจากการแปลง GL-W3 เมื่อปลายต.ค.58 เข้าซื้อขายจำนวน 23 ล้านหุ้น ในวันนี้คิดเป็น 1.7% จากหุ้นทั้งหมด ทั้งนี้ต้นทุนวอร์แรนท์จะตกอยู่ประมาณ 3.10-4.00 บาท เมื่อรวมกับราคาใช้สิทธิ์ที่ 10.00 บาท เป็น 13.10-14.00 บาท ซึ่งยังต่ำกว่าราคหุ้น GL ที่ 16.90 บาท อย่างไรเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐาน หากราคาหุ้นปรับลงแนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐาน 21.00 บาท
+ อมตะ วีเอ็น เตรียมเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทย ชูแผนขยายลงทุน "โครงการสวนอุตสาหกรรมไฮเทค อมตะซิตี้ลองถั่น" เวียดนาม เฟสแรก 2,562.5 ไร่ หลังรัฐบาลเวียดนามเชื่อมั่นไฟเขียวให้เข้าลงทุนเมื่อกลางปี เราคาดว่าจะเป็นผลดีกับ AMATA เพราะจะเป็น unlock value คงคำแนะนำ ซื้อ AMATA ราคาพื้นฐาน 21.80 บาท ระยะสั้นมี catalyst คือ จัดสรรหุ้น อมตะ วีเอ็นให้ผู้ถือหุ้น AMATA ในสัดส่วน 25 หุ้น AMATA: 1หุ้น IPO จะมีการปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 17 พ.ย.58
+BECL: กำหนดวันประชุมผู้ถือหุ้นร่วม BECL & BMCL วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นเพื่อสิทธิในการได้รับการจัดสรรหุ้นของบริษัทใหม่คือ 28 ธ.ค.58 และวันขอพักการซื้อขายหุ้น แสดงว่าขั้นตอนการควบรวมของสองกิจการเป็น BEM มีความคืบหน้ามากแล้ว ยังคงมองบวกสำหรับดีลการควบรวมครั้งนี้
นักวิเคราะห์ & กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา
[email protected]
ข่าวอุตสาหกรรมและหุ้นเด่น
# Fundamental Pick Today: WHA (ราคาปิด 3.42 บาท, ราคาพื้นฐาน 4.08 บาท) (Upside 19%)
เตรียมได้เงินก้อนใหญ่ไปคืนหนี้และเทนเดอร์ฯ HEMRAJ จากการแปลง WHA-W2 ครั้งเดียวและเป็นครั้งสุดท้าย
บริษัทฯได้แจ้งตลาดฯว่าจะมีการซื้อขาย WHA-W2 วันสุดท้ายประมาณ 17 พ.ย.58 ก่อนจะขึ้น SP หยุดการซื้อขายตั้งแต่ 18 พ.ย.-14 ธ.ค.58 เราคาดว่ามูลค่าวอร์แรนท์จะไม่เป็นศูนย์ เพราะราคาใช้สิทธิอยู่ในภาวะมีกำไรเป็นเพียง 2.70 บาท หากใช้ราคาปิดตัวแม่ที่ 3.42 บาท มูลค่าเหมาะสม W2 เป็น 0.72 บาท ยังสูงกว่าราคาวอร์แรนท์ปัจจุบัน 11% จึงอาจมีการเก็งกำไรได้ก่อนวอร์แรนท์ถูกให้หยุดการซื้อขาย
หากมีการใช้สิทธิ์วอร์แรนท์ครบ 100% ก็สามารถนำไปเทนเดอร์ฯ HEMRAJ (Delisting) ได้ คือจะได้รับเงินอีก 3.5 พันล้านบาท ซึ่งหากได้รับหุ้น HEMRAJ สะสมเพิ่มเป็น 95% ก็ถือว่าสำเร็จแล้ว ข้อดีคือถือว่าเป็นบริษัทในกลุ่ม จะทำให้การบริหารจัดการทำได้ง่ายขึ้น ส่วนเงินที่ใช้ทำเทนเดอร์ฯ HEMRAJ คาดว่าเป็น 3 พันล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 500 ล้านบาท ก็สามารถนำไปคืนหนี้เงินกู้ ช่วยลดดอกเบี้ยได้
หลังกำไรสุทธิ 1H58 เป็น 222 ล้านบาทซึ่งเป็นสัดส่วนเพียง 8% เทียบกับประมาณการทั้งปี แสดงว่ากำไรสุทธิในส่วนที่เหลือของปีจะสูงมาก เพราะได้รับประโยชน์จากธุรกิจของ HEMRAJ ที่ซื้อเข้ามา ผนวกกับจะมีการขายสินทรัพย์เข้าสู่กอง REIT อีกหลายรายการ
แนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐานใช้ P/E ปี 58 20 เท่า คาดว่ากำไรหลักต่อหุ้นที่โตสูงมาก ปีนี้โต 94% และปีหน้าโต 46% เทียบ y-o-y ทำให้ PEG ปีนี้-ปีหน้าเป็นเพียง 0.2-0.3 เท่า ตามลำดับ
นักวิเคราะห์ & กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา
[email protected]
#Turnover List Watch: คาด AJD, LPH และ SAWAD-W1 เข้าเกณฑ์ใช้ Cash balance สัปดาห์หน้า ส่วน WAVE ติด Trading Alert
ตลาดฯให้ WAVE ติด Trading Alert ใช้ Cash Balance ระดับที่ 1 ตั้งแต่ 6-26 พ.ย.58 โดยบริษัทชี้แจงว่ายังไม่มีพัฒนาการใดๆที่สำคัญ
จากการประเมิน เราคาดว่า AJD, LPH และ SAWAD-W1 เข้าเกณฑ์การใช้ Cash Balance สัปดาห์หน้าแล้ว ซึ่งมีอายุการใช้เป็นเวลาถึง 6 สัปดาห์
ส่วนหลักทรัพย์ที่หมดเวลาการใช้ Cash Balance และกลับมาใช้มาร์จิ้นได้ในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตามแล้วแต่ตลาดฯว่าจะกลับมาขยายเวลาให้ใช้ Cash Balance หรือไม่ได้แก่ AJ, FER, FER-W1, GENCO, GENCO-W1,TAKUNI, THE, TTA-W5 ซึ่งอยู่ในระดับที่ 1 ทั้งหมด
นักวิเคราะห์ & กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา
[email protected]
#CTW (ราคาปิด 9.75 บาท, คำแนะนำ: Not Rated)
แนวโน้มปีหน้าดี...ราคาหุ้นยังไม่ขึ้นตอบสนองมากนัก ทั้งจากการลงทุนระบบสายส่งของ กฟผ. ในแผนลงทุน 5 ปี 2.841 แสนล้านบาท และแผนของ กฟน. 1.43 แสนล้าน เพื่อนำสายไฟฟ้ากรุงเทพลงใต้ดิน ใน 6 ปีข้างหน้า 2 ประเด็นถือว่าเป็นปัจจัยบวกต่อบริษัทโดยตรง โดยบริษัทที่ขายสายไฟฟ้าเจ้าใหญ่มีเพียง 5 ราย ซึ่ง CTW เป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งในเบื้องต้นบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดสายไฟฟ้าตัวนำอลูมิเนียม 25% ส่วนแบ่งตลาดสายไฟฟ้าตัวนำทองแดงประมาณ 15% และส่วนแบ่งตลาดสายแรงดันสูงประมาณ 25%
หุ้นซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 1 เท่า P/BV แม้ว่าผลประกอบการปีนี้คาดว่าจะยังไม่โดดเด่น แต่ในช่วงที่บริษัททำกำไรได้ บริษัทจ่ายเงินปันผลในระดับที่ค่อนข้างดี อัตราเงินปันผลตอบแทนอยู่ที่ 4%-6% ซึ่งคาดว่าการลงทุนสายส่งของทางราชการจะเป็นปัจจัยหนุนบริษัทได้ในปีหน้า ทางเทคนิคเป็นการแกว่งตัวออกด้านข้างหากยังไม่หลุดต่ำกว่า 9.20 มีโอกาสเป็นการแกว่งตัวเพื่อขึ้น มีแนวต้านอยู่ที่บริเวณ 10.30 หากผ่านได้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการขึ้นรอบใหม่
นักวิเคราะห์ : พงศ์ภัทร สิริพิพัฒน์ : Tel 7825 [email protected]