- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 02 July 2014 21:15
- Hits: 2257
บล.เอเซียพลัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์การลงทุน
เชื่อว่าดัชนีที่ปัจจุบันมีค่า Expected P/E 15 เท่า (อิง EPS 98.14 บาท) ยังเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการปรับฐาน แต่การเข้าสู่ช่วง Preview Earnings งวด 2Q57 จะหนุนหุ้นรายตัว จึงแนะนำหุ้น PTTEP(FV@B195) และ ANAN([email protected]) และเลือกเป็น Top picks
BIS โลกเตือน ให้หยุดใช้ดอกเบี้ยต่ำ หลังเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว
เงินเฟ้อไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในครึ่งหลังของปีนี้ (2H57) วานนี้ กระทรวงพาณิชย์รายงานเงินเฟ้อ เดือน มิ.ย. 2557 อยู่ที่ 2.35% ลดลงเล็กน้อยจาก 2.62% เดือนก่อนหน้า (ลดลง 0.1%mom) ถือเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 10 เดือน ทั้งนี้ส่วนหนึ่งน่าจะเกิดจากการตรึงราคาก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือนที่ 22.63 บาท/กก (หลังจากรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ต้องการยกเลิกการอุดหนุนก๊าซ LPG จึงได้ปล่อยให้มีการขึ้นราคาก๊าซขยับขึ้นเดือนละ 0.5 บาท/กก เป็นเวลา 9 ครั้งนับตั้งแต่ 1 ก.ย. 2556 มาถึง 1 พ.ค. 2557) ขณะที่ยังอุดหนุนเชื้อเพลิงอื่นๆ ต่อไปคือ น้ำมันดีเซล เป็นต้น และเป็นผลจากราคาสินค้าในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ลดลง 0.31% เช่นกัน แต่อย่าไงก็ตามในช่วง 1H57 เงินเฟ้ออยู่ที่ระดับ 2.23%yoy (แต่อยู่ที่ระดับ 1.7% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2556) ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ ได้คาดเงินเฟ้อช่วง 2H57 จะอยู่ที่ 2.53% เพิ่มขึ้นจากช่วง 1H57 (โดยคาดว่า 3Q57 จะอยู่ที่ 2.5% และ 4Q57 จะอยู่ที่ 2.56%) ซึ่งสาเหตุหลักมาจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มสูงขึ้น จะทำให้อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปีจะอยู่ที่ 2.40% (เป็นไปตามกรอบที่วางไว้ 2-2.8%) แต่อย่างไรก็ตามหากเปรียบกับดอกเบี้ยนโยบายที่ 2% ถือว่าผลตอบแทนสุทธิยังเป็นลบ และ น่าจะหนุนให้ กนง. ยืนดอกเบี้ยนโยบายที่เดิมตลอดช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้
ยุโรปคาดหวังว่าจะมีการใช้ QE ภายในสิ้นปีนี้ หลังมีการรายงาน อัตราการว่างงานของกลุ่มยูโรโซน เดือน พ.ค. ยังคงสูง 11.6% (คงที่ต่อเนื่องกัน 3 เดือน) และคาดว่าจะสูงที่ 11.7% ในปีนี้ และดัชนี PMI ภาคการผลิต เดือน มิ.ย. อยู่ที่ระดับ 51.8 (ต่ำสุดในรอบ 7 เดือน และต่ำกว่าที่ตลาดคาด) ทำให้ผลการสำรวจของนักเศรษฐศาสตร์ จากบลูมเบิร์ก และผู้จัดการกองทุน ต่างคาดหมาย ECB น่าจะมีการใช้ QE ภายในปีนี้ (ผ่านการซื้อตราสารหนี้ ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน หรือ ABS) โดยมีวงเงินที่สูงถึง 2 เท่าตัวของที่สหรัฐเคยใช้ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งแนวคิดดังกล่าวอาจจะนำไปสู่ความคาดหวังเชิงบวกต่อตลาดหุ้น แต่อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจจะขึ้นกับ ECB แต่ในการประชุมรอบนี้คือ 3 ก.ค. 2557 คาดว่า ECB จะยังคงใช้ดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.15% เช่นเดิม และน่าจะต่ำต่อเนื่องไปถึงปี 2559 โดยยังไม่มีประเด็น QE
นอกจากนี้ ข้อเสนอแนะของธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) ได้ออกมาเตือนให้รัฐบาลชาติต่าง ๆ ยกเลิกนโยบายลดดอกเบี้ยต่ำ (ใกล้ 0%) และควรค่อย ๆ ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย (แหล่งข่าวจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลังเมื่อวานนี้) แม้จะไม่กลับไปสู่ที่เดิมก็ตาม เนื่องจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวแล้ว หากยังปล่อยให้ดอกเบี้ยต่ำนานเกินไปอาจให้ผลลัพธ์ในทางตรงกันข้าม ซึ่งแนวความคิดนี้น่าจะถือว่าเป็นผลลบต่อตลาดหุ้น และถือว่าตรงข้ามกับเหตุการณ์ที่เกิดในช่วงปี 2551-2556 ที่ธนาคารกลางสำคัญ ๆ ของโลก ทั้งสหรัฐ อังกฤษ และ ญี่ปุ่น ต่างอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเป็นวงเงินรวมกันราว 5.7 ล้านล้านเหรียญฯ หรือราว 187 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 16 เท่าของ GDP ของไทย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ตลาดหุ้นเกิดใหม่ ให้ผลตอบแทนในระดับสูงกว่า 200% ในรอบ 5 ปี สถานการณ์โลกที่กำลังเปลี่ยนไปในทางตรงกันข้าม จึงถือเป็นความเสี่ยงต่อตลาดหุ้นในระยะกลาง
เศรษฐกิจโลกฟื้นยังหนุนหุ้นปิโตรเลี่ยม
ราคาน้ำมันดิบโลกเริ่มย่อตัวเล็กน้อยหลังจากที่ได้ดีดตัวสูงขึ้นในรอบกว่า 9 เดือน ส่วนหนึ่งคาดว่าตลาดคลายความกังวล หลังจากที่ อิรัก เปิดเผยถึงปริมาณส่งออกน้ำมันยังเป็นไปตามปกติ และ ได้รับผลกระทบจากสงครามกลางเมืองน้อย อย่างไรก็ตามเชื่อว่าปัญหาการสู้รบที่ยังมีอยู่จะยังคงเป็นปัญหาในระยะกลางที่จะกดดันราคาน้ำมันต่อไป (สถานการณ์ล่าสุด กลุ่ม ISIL สถาปนาขึ้นเป็นรัฐอิสลามและยึดเมืองทางตะวันออกของซีเรียที่ติดกับพรมแดนของอิรักได้แล้ว) และสถานการณ์ในยูเครนได้กลับมาตึงเครียดอีกครั้งหลังจากกองทัพยูเครนกลับมาใช้ทหารปราบกลุ่มกบฎ ภายหลังจากข้อตกลงหยุดยิง 10 วันได้สิ้นสุดลง นอกจากนี้ทางด้านฝั่ง demand เชื่อว่ายังมีแนวโน้มฟื้นตัวจากที่เข้าสู่ช่วงฤดูกาลขับขี่ของสหรัฐ (ปลายเดือน พ.ค. ถึง ต้นเดือน ก.ย.) และการเร่งสต็อกน้ำมันก่อนเทศกาลรอมฎอน ปัจจัยเหล่านี้น่าจะหนุนราคาน้ำมันโลกให้ปรับขึ้นต่อในระยะถัดไป
ด้วยปัจจัยเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวคาดว่าจะหนุนหุ้นปิโตรเลี่ยม แม้ว่างวด 2Q57 ผลกำไรจะทรงตัวจากงวด 1Q57 แต่คาดว่าจะโดดเด่นงวด 2H57 ซึ่งนำโดย PTTEP ที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่อยู่ในทิศทางขาขึ้น พร้อมกับที่สามารถขายในปริมาณ ที่ปรับตัวสูงขึ้น ตามมาด้วย PTT (ถือหุ้น PTTEP 65%) ที่ได้อานิสงส์ในลักษณะเดียวกัน ทั้งนี้เป็นที่สังเกตว่าราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยจากต้นปีจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 105.8 เหรียญฯต่อบาร์เรล ซึ่งสูงกว่าสมมติฐานของ ASP ที่ราว 100 เหรียญฯ ซึ่งหากราคาน้ำมันดิบยังทรงตัวในระดับสูงเกิน 110 เหรียญฯ ต่อไปอีกระยะส่งผลให้นักวิเคราะห์กลุ่มพลังงานมีการปรับเพิ่มประมาณการราคาน้ำมันดิบขึ้นอีก 10 เหรียญฯ ซึ่งจะมีผลทำให้ประมาณการกำไรและ Fair Value ปี 2557 มีโอกาสขยับสูงขึ้นจากปัจจุบัน จึงยังคงคำแนะนำซื้อหุ้น PTT (FV@B 360) และ PTTEP (FV@B 195)
ต่างชาติเข้าซื้อหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 และซื้อตราสารหนี้อย่างมาก
แม้วานนี้ตลาดหุ้นไทยจะปิดทำการ แต่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคยังเปิดทำการตามปกติ โดยที่นักลงทุนต่างชาติยังคงเข้าซื้อสุทธิหุ้นในภูมิภาคเป็นวันที่ 7 ติดต่อกัน ราว 398 ล้านเหรียญฯ แต่ลดลง 32.9% จากวันก่อนหน้า และเป็นการซื้อสุทธิในทุกประเทศต่อเนื่อง กล่าวคือ ในไต้หวันซื้อสุทธิเป็นวันที่ 7 ราว 203 ล้านเหรียญฯ (ลดลง 16%) ตามมาด้วยเกาหลีใต้ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 4 ราว 123 ล้านเหรียญฯ (ลดลง 42%) ส่วนอินโดนีเซียซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ราว 45 ล้านเหรียญฯ (เพิ่มขึ้น 5%) และสุดท้ายคือฟิลิปปินส์ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 6 ราว 27 ล้านเหรียญฯ (เพิ่มขึ้น 18% จากวันก่อนหน้า)
แต่ในวันจันทร์ นักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 ราว 2.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 25% ตรงข้ามกับ นักลงทุนกลุ่มสถาบันและพอร์ตโบรกเกอร์ ที่กลับขายสุทธิออกมาเล็กน้อย และ ในทิศทางเดียวกับตลาดตราสารหนี้ ที่ต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ด้วยปริมาณสูงถึง 2.1 หมื่นล้านบาท (สูงสุดในรอบกว่า 8 เดือน) มีส่วนทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 32.39 บาทต่อเหรียญฯ ขณะที่แรงขายจากต่างชาติในตลาดหุ้นที่มีอย่างจำกัดหลังจากที่ขายสุทธิอย่างต่อเนื่องในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราว 3.8 หมื่นล้านบาท ทำให้เชื่อว่าในระยะสั้นนักลงทุนกลุ่มนี้ไม่น่าเทขายออกมาอย่างหนักอีกครั้ง และจะเป็นการเข้าซื้อสลับขายรายวันตามสถานการณ์ต่อไป
ภรณี ทองเย็น, CISA เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004146
เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004132
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
พบชัย ภัทราวิชญ์
กษิดิ์เดช รัตนสมบูรณ์
มาราพร กี้วิริยะกุล