WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

FSS copyบล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

แม้ SET ยังผันผวน แต่คาดจะขยับขึ้นหาเป้าหมายได้ตามคาด..

  กลยุทธ์ : แม้ SET ยังผันผวนและย้อนลบบ้าง แต่เราคาดว่ากรอบลบจำกัด และยังคาดหมายโอกาสแกว่งบวกต่อขึ้นหาระดับดัชนีเป้าหมายปีนี้ที่เราประเมินไว้แถว 1450 จุดได้ตามคาด ดังนั้นหลังจากเลือกหุ้นทยอยซื้อช่วงลบแล้ว ถัดจากนี้เน้นถือเพื่อรอหาจังหวะขายทำกำไรใกล้เป้าหมายต่อไป แต่ถ้าไล่ซื้อช่วงบวกจะมีความเสี่ยงจากการผันผวนของตลาดจึงต้องระวังไว้ด้วย
  หุ้นเด่นทางเทคนิค : JAS, TAE, HANA(buy back)
  แนวโน้ม : แม้ว่าเมื่อวานนี้ SET จะขยับบวกต่อได้เพียงไม่มาก ก่อนที่จะมีแรงขายกดดันให้ปรับตัวย้อนลบลงบ้าง แต่กรอบลบยังแคบและมีแรงซื้อกลับเข้ามาหนุนพอควร ทำให้ FSS ยังคาดหมายโอกาสขยับขึ้นต่อเนื่องได้ตามคาดเดิม ซึ่งเช้านี้ถือว่าบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศค่อนข้างสดใส หลังตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปเมื่อคืนนี้ยังขยับบวกต่อเนื่อง เพราะได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งรวมถึงน้ำมันและโลหะปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ยังเปิดเป็นบวก ซึ่งน่าจะช่วยหนุนให้ SET กลับมาขยับบวกต่อได้เช่นกัน โดยเฉพาะวานนี้ภาครัฐของไทยยังเร่งดำเนินการมาตรการต่างๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อด้วย อย่างไรก็ตามยังต้องระวังการแกว่งตัวผันผวนเป็นระยะ โดยส่วนหนึ่งคาดว่านักลงทุนยังต้องการรอติดตามตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ของสหรัฐ และตัวเลขข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ต.ค. ที่จะประกาศในช่วงท้ายสัปดาห์ด้วย ดังนั้นเราไม่แนะนำให้ซื้อไล่ราคาช่วงบวกมากนัก

  แนวรับ 1410-1408 , 1405-1400 จุด
  แนวต้าน 1416-1420 , 1424-1428 จุด
  Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$345 ล้าน ส่วนใหญ่ไหลเข้าไต้หวัน US$349 ล้าน ขณะที่ยังไหลออกจากกลุ่ม TIP รวม US$27 ล้าน ทั้งอินโดนีเซีย US$12.5 ล้าน ไทย US$8.8 ล้าน และฟิลิปปินส์ US$5.2 ล้าน กระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงก่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจาก Fed ในปลายปีนี้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
  (+) การประชุมครม.วานนี้หนุนการลงทุนในระยะยาว มีการออกแพคเก็จขยายเวลาลดหย่อนภาษี BOI เพิ่มสำหรับกิจการที่จะลงทุนภายใน 6-12 เดือนข้างหน้า มีการร่นขั้นตอนลงทุน PPP เหลือ 9 เดือนจาก 1-2 ปี และต่ออายุสิทธิประโยชน์ทางภาษีของ LTF อีก 3 ปีจากที่จะสิ้นสุดในปี 2016 ทั้งหมดนี้เป็นการส่งเสริมการลงทุนในระยะยาวแต่จะค่อยๆเห็นผลในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป
  (0) คาดกนง.คงดอกเบี้ย 1.5% ในการประชุมวันนี้ แม้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะยังติดลบ 0.77% Y-Y ในเดือน ต.ค. แต่เครื่องชี้เศรษฐกิจบางตัวเริ่มดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าเล็กน้อย และความเป็นไปได้ที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. มีสูง จึงเชื่อว่า กนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยเพื่อรอดูผลกระทบของการเคลื่อนย้ายเงินทุนที่อาจเกิดขึ้นในระยะข้างหน้าก่อน ทั้งนี้ กนง.จะประชุมครั้งสุดท้ายของปีวันที่ 16 ธ.ค. และอาจปรับประมาณการเศรษฐกิจครั้งสุดท้าย 25 ธ.ค. 2015
  (+) HMPRO การประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ภาพรวมเป็นกลาง แม้ยังไม่เห็นการฟื้นตัวของกำลังซื้อในต่างจังหวัด (เราคาดยอดขายสาขาเดิมใน 4Q15 ติดลบน้อยลงถึงทรงตัว Y-Y) แต่ Mega Home ที่ปัจจุบันมี 7 สาขาคุ้มทุนและเริ่มสร้างกำไรได้แล้ว ทั้งปีอาจมีกำไรเล็กน้อยและมี Loss carry forward ไว้ใช้หักภาษีในปีหน้า แนวโน้มกำไร 4Q15 ของ HMPRO จะสูงสุดของปีเพราะ High season และมีงาน Expo เราคาดกำไรสุทธิปีนี้โต 3.2% Y-Y และปีหน้าโต 14.4% Y-Y ยังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปีหน้า 10 บาท
  (+) CENTEL เราคาดกำไรปกติ 3Q15 +4.8% Q-Q, +53.7% Y-Y จากทั้งธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอาหารที่เติบโต แนวโน้มยังดีต่ออีก 2 ไตรมาสข้างหน้าเพราะ High season กำไรทั้งปีของปีนี้ที่เราคาดโต 48% Y-Y อาจต่ำไปเล็กน้อย แต่หลังจากนี้อัตราการเติบโตของกำไรจะลดลงสู่ระดับปกติ 12% Y-Y ต่อปีในอีก 3 ปีข้างหน้า เรายังแนะนซื้อ ราคาเป้าหมายปีหน้า 47 บาท แต่เปลี่ยน Top pick เป็น MINT
  (-) SAMART-SAMTEL-SIM ผลประกอบการของ SIM ยังอ่อแอนมาก เราคาดกำไร 3Q15 -77% Q-Q, -87% Y-Y ยังไม่น่าสนใจลงทุน ส่วน SAMTEL เราเชื่อว่าพื้นฐานยังแข็งแรง คาดกำไร 3Q15 +6% Q-Q, -11% Y-Y Backlog อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง 8,795 ล้านบาท โครงการสำคัญ Digital APCO ชนะประมูลแล้ว คาดเซ็นสัญญาปลายปีนี้และรับรู้รายได้ปีหน้า (ช้าไปจากเดิมเล็กน้อย) ส่วนคดีการติดตั้งวิทยุสื่อสารโดยไม่ได้รับอนุญาต บริษัทชี้แจงแล้ว คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้ ความเสี่ยงเรื่องเวลาที่ไม่แน่นอน เราจะแนะนำซื้อหลังคดีคลี่คลาย ส่วน SAMART ถูกฉุดจาก SIM ที่อ่อนแอและ Sentiment ลบจาก SAMTEL เราคาดกำไรปกติ 3Q15 -30% Q-Q, -37% Y-Y เราอยู่ระหว่างการปรับประมาณการกำไรทั้งกลุ่ม โดยรวมยังไม่สดใส ยังไม่แนะนำ

  (0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดบวกได้ จากแรงหนุนของหุ้นกลุ่มพลังงานและเหมืองแร่ หลังราคาน้ำมันและโลหะปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายและรอดูการประกาศผลประกอบการของบริษัทเอกชน
  (+) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดในแดนบวกได้เช่นกันจากแรงหนุนของหุ้นกลุ่มพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์
  (+) ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในแดนบวกได้เช่นกัน จากบรรยากาศการลงทุนที่สดใสมากขึ้น
  (0) ค่าเงินบาทยังคงแกว่งตัวออกด้านข้าง โดยล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 35.51-35.56 บาท/ดอลลาร์
  ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดที่ 47.90 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.76 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยตลาดได้รับแรงหนุนจากการรายงานว่า บริษัทกลั่นน้ำมันในสหรัฐได้ชะลอการผลิตลงในช่วง ก.ย.-ต.ค. และสัญญาน้ำมันดิบยังได้รับปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ว่า EIA จะเปิดเผยปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลงในสัปดาห์ก่อน
  ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดที่ 1,114.10 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 21.80 ดอลลาร์/ออนซ์ จากแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และกระแสคาดการณ์ว่า FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. ปีนี้
ปัจจัยที่ต้องติดตาม

4 พ.ย. - ไทย: กนง.ประชุม (ตลาดคาดคงดอกเบี้ยที่ 1.5%)
- สหรัฐ: การจ้างงานภาคเอกชน (ต.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ต.ค.)
5 พ.ย. - ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ต.ค.)
- อินโดนีเซีย: 3Q15 GDP
6 พ.ย. - สหรัฐ: การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราว่างงาน (ต.ค.)
10 พ.ย. - ไทย: J เริ่มเทรด (ราคา IPO 2.77 บาท)
- จีน: ยอดสินเชื่อเดือน ต.ค.
- ตลาดหุ้นมาเลเซียและสิงคโปร์ ปิดทำการ
11-12 พ.ย. - ตลาดหุ้นอินเดียปิดทำการ
11 พ.ย. - ไทย: SR เริ่มเทรด (ราคา IPO 3.50 บาท)
- จีน: ยอดค้าปลีก, Industrial Production Fixed asset (ต.ค.)
12 พ.ย. - ไทย: RP เริ่มเทรด (ราคา IPO 12 บาท)
- ฟิลิปปินส์: ธนาคารกลาง (BSP) ประชุม
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BOK) ประชุม
13 พ.ย. - รู้ผลหุ้นเข้า-ออกจากการคำนวณ MSCI Semi-annual Index Review

Contact person : Somchai Anektaweepon 
Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!