WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CIMBบล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)

 

SET Index: แนวรับ 1380 แนวต้าน 1400
  SET Index: 1398.61 ฟื้นตัวในระยะสั้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1400 จุด แต่มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างเบาบางเพียง 13,000 ล้านบาท หลังจากปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคที่บริเวณแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลงที่ 1430 จุด ทำให้แนวโน้มของ SET Index ยังคงมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลง โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 1430 จุด และมีแนวรับที่ 1380 และ 1360 จุดเป็นแนวรับสำคัญ ส่วนทิศทางในระยะสั้นมีแนวต้านที่ 1400 จุด และมีแนวรับที่ 1380 จุด
  แนวต้าน : 1400 และ 1404
  แนวรับ : 1395 และ 1390

JAS = 5.50 / 5.60, KBANK = 174 / 176, SCI = 9.70 / 10.00, ADVANC = 230 / 234, PTT = 270 / 274

Thai Luxe Enterprises (TLUXE TB; THB 7.42) - ซื้อ
  แนวต้าน : 7.80 และ 8.00
  แนวรับ : 7.40 และ 7.30
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้นไปเคลื่อนไหวต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
  MACD เคลื่อนไหวออกด้านข้างที่ระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60
  แนะนำซื้อ TLUXE โดยมีแนวรับที่ 7.40 และ 7.30 และมีแนวต้านที่ 7.80 และ 8.00 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 6.90 ลงไป

Wice Logistics (WICE TB; THB 2.96) - ซื้อ
  แนวต้าน : 3.20 และ 3.30
  แนวรับ : 2.96 และ 2.92
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างเหนือจุดต่ำสุดเดิม ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยที่ระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
  แนะนำซื้อ WICE โดยมีแนวรับที่ 2.96 และ 2.92 และมีแนวต้านที่ 3.20 และ 3.30 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 2.84 ลงไป

Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)

SET...ยังอยู่ในช่วงของการปรับฐาน
  ประเด็นภายในที่จะส่งผลต่อดัชนี SET ในเดือนนี้ คือ ผลการดำเนินงาน Q3 ที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน การประชุม กนง. (คาดจะคงดอกเบี้ย) และการประมูล 4G ส่วนประเด็นภายนอก คือ ผลดำเนินงาน Q3/15 ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐและจีน และราคาน้ำมัน
  การเคลื่อนไหวของดัชนี SET ยังขึ้นอยู่กับตลาดหุ้นสหรัฐ (ค่าสหสัมพันธ์รอบ 1 ปีอยู่ที่ 0.674) ซึ่งเรามองว่าจะกลับมาความผันผวนอีกแต่ไม่แรง หลัง FED ส่งสัญญาณว่าจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. โดยตลาดหุ้นสหรัฐ เรามองว่าจะกลับมาผันผวนได้อีกในช่วงกลาง พ.ย. หลังคาดการณ์ว่าผลการดำเนินงาน Q3/15 และ Q4/15 ยังมีแนวโน้มชะลอตัวลงและแรงกดจากแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่ดัชนีขึ้นมาจากจุดต่ำสุดในรอบนี้ถึงเป้าหมายเฉลี่ยที่นักวิเคราะห์คาดเอาไว้
  ราคาน้ำมันดิบคาดจะผันผวนน้อยลง แต่มีสิทธิที่จะอ่อนตัวลงรอบใหม่ แม้จำนวนหัวขุดเจาะสหรัฐจะลดลง รวมทั้งการคาดการณ์ของ OPEC ว่าราคาน้ำมันปีหน้าจะสูงกว่าปัจจุบัน ประเด็นใหม่ที่คาดว่าจะเข้ามากดดันคือ แนวโน้มที่ทางอิหร่านจะกลับมาส่งออกน้ำมันและปริมาณสต๊อกน้ำมันสหรัฐเพิ่มขึ้น เรามองว่าโอกาสที่ราคาน้ำมันจะสร้างจุดต่ำสุดรอบใหม่น่าจะเกิดในช่วงปลาย Q4/15 หรือ Q1/16
  ดัชนี SET ในช่วงต้น-กลาง พ.ย. คาดจะอ่อนตัวลงต่ำกว่า 1400 จุด จากการขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ โดยปัจจัยกดดัน คือ 1. ผลการดำเนินงาน Q3 ที่คาดยังชะลอตัว โดยตอนนี้กำไรของตลาดในปีนี้ลดลงเหลือ 7.33% จาก 8.61% (MSCI Thailand 29 บริษัท) โดยอัตราการทำกำไรของหุ้นธนาคารใหญ่ 5 ธนาคารในปีนี้ติดลบ 9.01% จากเดือนก่อนที่ติดลบ 7.28% 2. ความผันผวนของตลาดในภูมิภาคหลัง FED ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยและ 3. ความล่าช้าของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน
  ปัจจัยหนุนตลาด คือ 1. ตลาดหุ้นทั่วโลกน่าผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว 2. ราคาน้ำมันยังมีแนวโน้มประคับประคองหรือซึมลงหลังไม่เห็นสัญญาณการผันผวนของตัวเลขเศรษฐกิจในสหรัฐและจีน 3.แรงหนุนจากมาตรการเพิ่มแรงซื้อผู้มีรายได้น้อย เริ่มเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจและมาตรการใหม่กระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ส่วนแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจภายในคาดจะเริ่มส่งผลต่อดัชนีไม่มาก
  กลุ่มที่คาดว่าจะยืนๆ คือหุ้นในกลุ่ม โรงพยาบาล สื่อสาร รับเหมา กลุ่มที่คาดว่ายังมีแรงกด คือ อาหารทะเลแช่แข็ง ชิ้นส่วนรถยนต์ สินค้าเกษตร ธนาคารและพลังงาน ส่วนกลุ่มที่ยังพอมีปัจจัยหนุนและค่อยๆฟื้นตัว คือ กลุ่มโยงการท่องเที่ยว ปิโตรเคมี อสังหาริมทรัพย์สร้างบ้านและชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกค์
  ทิศทางดัชนี SET คาดจะค่อยๆ ซึมลงยืนต่ำกว่า 1400 จุดในช่วงครึ่งแรกของเดือน จากแรงกดของผลการดำเนินงาน Q3/15 ตัวเลขเศรษฐกิจ และความผันผวนที่จะเกิดจากตลาดหุ้นสหรัฐ ความผันผวนที่เกิดขึ้นจะทำให้ดัชนี SET อ่อนตัวลงมาที่กรอบ 1370-1360 จุด ส่วนกรอบสูงสุดมองที่ 1420-1430 จุด ซึ่งน่าจะเกิดในช่วงปลายเดือนหลังดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐกลับมายืนได้รวมทั้งแรงซื้อของ LTF/RMF กลยุทธ์การลงทุน คือ หากดัชนีขึ้นมาในกรอบ 1420-1430 จุดให้ทยอยขาย ส่วนจุดซื้อมองที่กรอบ 1370+/- จุด
  หุ้นที่แนะนำเล่นเก็งกำไรในช่วงสั้นคือ ธนาคารพาณิชย์ (BAY TISCO) วัสดุก่อสร้าง (SCC) สื่อสาร (ADVANC) เกษตร (GFPT) โยงท่องเที่ยว (MINT CENTEL) พลังงาน (TOP) อสังหาฯ สร้างบ้าน (QH SPALI) ค้าปลีก (HMPRO) ส่วนหุ้นเด่นในเดือนนี้คือ STEC TMB DELTA PS
  สำหรับทิศทางตลาดในสัปดาห์นี้คาดว่าจะยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ 1380-1410 จุด โดยมีประเด็นที่ต้องติดตามอย่าง การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 4 พ.ย., ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/58 ของบริษัทจดทะเบียนที่จะทยอยประกาศออกมาและประเด็นทีโอที จะมีการยื่นฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กรณีคลื่น 900 MHz ต่อศาลปกครองหรือไม่ (หากทีโอทีไม่ฟ้อง ทางสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจก็จะยื่นฟ้องเอง) โดยการประชุมกนง. คาดว่าจะมีการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% ตามที่ตลาดคาด (เนื่องจากการประชุมเฟดในสัปดาห์ก่อนมีการให้ข้อมูลในเชิงว่ามีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนธ.ค.) ซึ่งเราประเมินว่านักลงทุนจะทยอยขายทำกำไรหุ้น high beta และกลับมาถือหุ้นปันผลสูงที่มีความปลอดภัยของกระแสเงินสดสูงอย่าง ADVANC BTS BTSGIF DIF JASIF INTUCH ในระยะสั้น ในขณะที่ประเด็นการฟ้องศาลฯ เพื่อคุ้มครองชั่วคราวระงับการประมูลคลื่น 900 MHz เราคาดว่าอาจมีการฟ้องแต่ศาลฯ น่าจะมีคำวินิจฉัยไม่ระงับการประมูล 4G ในวันที่ 11-12 พ.ย. หรือหากศาลฯ ไม่รับฟ้องก็จะยิ่งเป็นบวกกับ ADVANC INTUCH วันนี้เราคาดว่าตลาดจะมีแนวโน้ม sideway รอดูปัจจัยต่างๆที่กล่าวมาข้างต้น โดยกลยุทธ์การลงทุนระยะสั้นเราแนะนำ ทยอยขายทำกำไรหากดัชนีมีการรีบาวน์ไปที่ระดับ 1400 จุดและรอการกลับเข้าซื้อที่ระดับดัชนี 1370+/- จุด วันนี้เราให้แนวรับที่ 1385-1390 และแนวต้านที่ 1400-1410 จุด

Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)

Morning Market Summary...
  SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,398.61 จุด เพิ่มขึ้น 3.67 จุด(+0.26%)มูลค่าการซื้อขาย 13,028 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้น หลังราคาน้ำมันปรับขึ้น ส่งผลให้มีแรงซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงาน ติดตามครม.เตรียมหารือ Mega project 20 โครงการในสัปดาห์นี้ ด้านตลาดภูมิภาคแกว่งบวก-ลบ หลังดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนต.ค.ทรงตัว สะท้อนความต้องการในภาคการผลิตยังอ่อนแอ ขณะที่นักลงทุนยังกังวลว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.นี้

Afternoon Perspective...
  แนวโน้มตลาดบ่าย ยังแกว่งตัวขึ้นต่อได้ ภาพระยะสั้นตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆมาหนุนที่ชัดเจน ทำให้ SET ยังมีแนวโน้มเป็น Sideway ออกข้าง โดยมีแนวรับแถว 1394 จุด แนวต้านจะอยู่ 1404 จุด รอบ สำหรับประเด็นที่ต้องจับตาคือการเลื่อนประมูล 4G คลื่น 900MHz ออกไปเป็นวันที่ 15 ธ.ค. รวมถึงติดตามมติบอร์ต TOT ในการจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง กสทช. ที่นำคลื่น 900MHz มาประมูล โดยเรามองว่าหากราคาหุ้นกลุ่มสื่อสารลงด้วยปัจจัยดังกล่าว จะเป็นจังหวะในการเข้าซื้อ โดยนักวิเคราะห์ของเรายังเชื่อว่าการประมูล 4G จะยังเกิดขึ้นทั้ง 2 คลื่อนความถี่ โดย ADVANC เป็น Top pick ในกลุ่มนี้

Fundamental Picks & Technic (PM) ...
  Thai Luxe Enterprises (TLUXE TB; THB 7.42) - ซื้อ
  Wice Logistics (WICE TB; THB 2.96) - ซื้อ

Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!