- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 02 November 2015 18:02
- Hits: 1001
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
คาดว่า SET ใกล้มีลุ้นทรงตัวและดีดขึ้นแล้ว ดังนั้นเน้นถือรอ...
กลยุทธ์ : คาดว่า SET ใกล้ที่จะเริ่มแกว่งทรงตัวได้ดีขึ้น และมีลุ้นแรงซื้อกลับช่วยหนุนให้มีรอบรีบาวด์ขึ้นได้เร็วๆ นี้ เพื่อแกว่งตัวบวกขึ้นหาเป้าหมายตามคาดได้เช่นเดิม ดังนั้นเรายังแนะนำเลือกหุ้นทยอยซื้อช่วงลบ แล้วเน้นถือเพื่อรอหาจังหวะขายทำกำไรช่วงบวกต่อไป
หุ้นเด่นทางเทคนิค : EPG, VGI, SAPPE(buy back)
แนวโน้ม : เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา SET พอที่จะแกว่งทรงตัวได้บ้าง หลังปรับตัวลงรุนแรงต่อเนื่องมาเกือบทั้งสัปดาห์ จากความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมครั้งหน้า(กลาง ธ.ค.) อย่างไรก็ตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐล่าสุดออกมาไม่ดีนัก โดยตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคลงไปเคลื่อนไหวที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค.ปีนี้ และผลประกอบการของเอกชนบางแห่งยังออกมาไม่ดีนัก ส่งผลให้ดัชนีตาวโจนส์ช่วงค่ำวันศุกร์ปิดปรับตัวลงพอควร แต่อาจช่วยสร้างความหวังเกี่ยวกับโอกาสในการเลื่อนการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดออกไปก่อนได้ ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ไม่ได้ปิดแย่นัก เพราะนักลงทุนยังหวังว่าการประชุม ECB เดือน ธ.ค.อาจจะมีมาตรการ QE เพิ่มเติมออกมาได้อยู่ ประกอบกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังมีจังหวะขยับบวกให้เห็น ก็น่าจะส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มพลังงานได้บ้าง ทำให้ FSS ยังคาดว่า SET มีแนวโน้มที่จะกลับมาแกว่งทรงตัวและลุ้นรีบาวด์ขึ้นได้ตามคาดในเร็วๆ นี้ ดังนั้นจึงยังสามารถเลือกหุ้นซื้อช่วงลบ และรอหาจังหวะทยอยขายทำกำไรช่วงบวกต่อไปได้ โดยเรายังคาดหมายว่า SET จะขยับขึ้นหาระดับดัชนีเป้าหมายตามพื้นฐานปีนี้ที่ 1450 จุดได้ในช่วงถัดไป
แนวรับ 1393-1390 , 1387-1382 จุด
แนวต้าน 1400-1403 , 1405-1407 จุด
Fund Flow วันศุกร์ที่ผ่านมากระแสเงินทุนไหลออก US$152 ล้าน นำโดยกลุ่ม TIP รวม US$122 ล้าน ทั้งไทยและอินโดนีเซียที่ US$63.3 ล้านและ US$59 ล้าน ตามลำดับ ขณะที่ไหลเข้าไต้หวัน US$10.6 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยง หลัง Fed ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยปลายปีนี้
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) การลงทุนเดือน พ.ย. บรรยากาศการลงทุนจะผ่อนคลายกว่าปลาย ต.ค. อย่างน้อยเดือนนี้ไม่มีการประชุม Fed มีเพียง BOJ และกนง. ซึ่งมีทิศทางผ่อนคลายนโยบายการเงิน ขณะที่ผลประกอบการ 3Q15 แม้จะแย่แต่ตลาดสนใจมุมมองปีหน้ามากกว่า ส่วนการประมูล 4G และการเร่งรัดลงทุนขนาดเล็กของภาครัฐจะช่วยเศรษฐกิจช่วงโค้งสุดท้ายของปีกระเตื้องขึ้น แต่ความเสี่ยงอยู่ที่แรงขายของต่างชาติจากความไม่ชัดเจนเรื่องดอกเบี้ยและความผันผวนของค่าเงิน เดือนนี้แนะนำ ADVANC, EPG, FSMART, SAT, SCC
(0) BH กำไรปกติ 3Q15 เริ่มเสียโมเมนตัม หดตัว 0.6% Q-Q ทั้งที่เป็น high season และโตเพียง 10% Y-Y เราคาดกำไรปกติปีนี้โต 28% Y-Y ปีหน้าโต 13% Y-Y ราคาหุ้นสะท้อนการเติบโตมากแล้ว upside เริ่มจำกัดเมื่อเทียบกับเป้าหมายปีหน้าที่ 220 บาท ปัจจุบันมี PE ถึง 40 เท่าในปีหน้า แนะนำเพียงถือ
(+) MINT เราคาดกำไรปกติ 3Q15 เริ่มเข้าที่ +52% Q-Q, +10% Y-Y จากทั้งธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอาหารที่เติบโต แนวโน้ม 4Q15 ยิ่งโดดเด่นจากการรับรู้รายได้โครงการอสังหาฯใหม่ที่ภูเก็ตราว 1.2 พันล้านบาท ยังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปีหน้า 36 บาท
(0) BANPU แม้จะฟื้นจากขาดทุนในไตรมาสก่อน แต่คาดว่ากำไรสุทธิ 3Q15 จะทำได้เพียง 65 ล้านบาท -50% Y-Y เพราะขาดทุนจาก FX และรายจ่ายภาษีเพิ่มจาก Deferred tax ส่วนกำไรปกติคาด 1.14 พันล้านบาท -10% Y-Y ถูกฉุดจากโรงไฟฟ้าหงสาที่ขาดทุนร่วม 300 ล้านบาทเพราะผลิตไม่เต็มกำลัง โรงไฟฟ้า BLCP ดีขึ้นแต่ไม่เต็มที่ ธุรกิจถ่านหินทรงตัวในระดับต่ำ เราปรับกำไรสุทธิปีนี้ลง 82% เหลือ 359 ล้านบาทและปีหน้าลง 9% เหลือ 3.18 พันล้านบาท ปรับไปใช้เป้าหมายปีหน้าที่ 26 บาท แนะนำซื้อลงทุนระยะยาว
(-) TFG เราคาด 3Q15 ขาดทุนติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 3 เพราะปัญหา Oversupply กดดันราคาไก่ในประเทศ แนวโน้มจะขาดทุนต่ออีก 2 ไตรมาสและเริ่มกำไรตั้งแต่ 2Q16 จากราคาไก่ที่ค่อยๆฟื้นและปริมาณส่งออกที่เพิ่มขึ้นเท่าตัวปีหน้า เราปรับผลประกอบการปีนี้เป็นขาดทุนเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 พันล้านบาท และคาดมีกำไร 817 ล้านบาทปีหน้า ปรับลดราคาเป้าหมายปีหน้าเป็น 2.10 บาท จากเดิม 2.80 บาท (PE 13x) แนะนำถือ
(0) TTA เราคาดกำไรสุทธิ 3Q15 +153% Q-Q เป็น 342 ล้านบาทเพราะกำไร FX ส่วนกำไรปกติคาด +117% Q-Q เพราะค่าระวางเพิ่มตามฤดูกาลและจำนวนวันเดินเรือมากขึ้น แต่ธุรกิจเรือ MTR-2 ยังว่างงานและธุรกิจปุ๋ยเป็นตัวฉุด เราปรับลดกำไรสุทธิเฉลี่ย 28% ในปี 2015-16 จากธุรกิจเรือที่ฟื้นช้า ราคาน้ำมันตกต่ำทำให้เรือสำรวจยังว่างงาน ธุรกิจปุ๋ยมีแข่งขันด้านราคาสูง ปรับใช้เป้าหมายปีหน้าที่ 11.20 บาท (PBV 0.5x) แนะนำเพียงถือ
(+) LPN แนวโน้มกำไร 3Q15 จะเป็นจุดสูงสุดของปีนี้ เพราะมีคอนโดที่สร้างเสร็จพร้อมโอนคือลุมพินีปาร์ครัตนาธิเบศร์-งามวงศ์วาน และคอนโดที่โอนต่อเนื่อง เราคาดกำไร 900 ล้านบาท +9% Q-Q, +60% Y-Y ทำให้กำไรงวด 9 เดือนเป็น 2 พันล้านบาท แต่กำไรที่เราคาดทั้งปี 2.9 พันล้านบาทน่าจะสูงเกินไป เราปรับกำไรปี 2015-16 ลง 3% และ 6% เป้าปีนี้ปรับลงเหลือ 21 บาทจาก 23.50 บาท ยังแนะนำซื้อและอยู่ระหว่างปรับเป้าปีหน้า
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดในแดนลบ หลังตัวเลขเศรษฐกิจออกมาซลเซา รวมถึงแรงกดดันจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่
(0) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดทรงตัวจากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่กดดัน รวมถึงข้อมูลจาก Eurostat ที่รายงานว่าแนวโน้มเงินเฟ้อของยูโรโซนยังอยู่ในระดับต่ำ
(0) ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในกรอบแคบยกเว้นตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ร่วงแรง โดยจับตาดูตัวเลข PMI เดือน ต.ค. จีนเช้านี้
(0) ค่าเงินบาทยังคงแกว่งตัวออกด้านข้าง โดยล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 35.50-35.60 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดที่ 46.59 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.53 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง Baker Hughes รายงานว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐฯปรับตัวลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 9
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดที่ 1,141.40 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 5.90 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยยังถูกกดดันจากความเป็นไปได้ที่ FED จะขึ้นดอกเบี้ยสิ้นปีนี้หลังส่งสัญญาณในการประชุมครั้งล่าสุด
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
2-พ.ย. - ไทย: อัตราเงินเฟ้อ (ต.ค.)
- สหรัฐ: ISM Manufacturing (ต.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Manufacturing PMI (ต.ค.)
3-พ.ย. - ออสเตรเลีย: ธนาคารกลาง (RBA) ประชุม
4-พ.ย. - ไทย: กนง.ประชุม (ตลาดคาดคงดอกเบี้ยที่ 1.5%)
- สหรัฐ: การจ้างงานภาคเอกชน (ต.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ต.ค.)
5-พ.ย. - ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ต.ค.)
- อินโดนีเซีย: 3Q15 GDP
6 พ.ย. - สหรัฐ: การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราว่างงาน (ต.ค.)
10-พ.ย. - ไทย: J เริ่มเทรด (ราคา IPO 2.77 บาท)
- จีน: ยอดสินเชื่อเดือน ต.ค.
- ตลาดหุ้นมาเลเซียและสิงคโปร์ ปิดทำการ
11-12 พ.ย. - ตลาดหุ้นอินเดียปิดทำการ
11-พ.ย. - ไทย: SR เริ่มเทรด (ราคา IPO - บาท)
- จีน: ยอดค้าปลีก, Industrial Production Fixed asset (ต.ค.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265 Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch