- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 30 October 2015 17:54
- Hits: 2186
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
มุมมองตลาด
บรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทยปิดตลาดปรับตัวลง 19.22 จุด ปิดที่ 1390.04 จุด หลุดแนวรับสำคัญ 1400 จุด เราคาดว่านักลงทุนบางส่วนขายทำไรหุ้นในภาพระยะสั้น ความเสี่ยงของตลาดคือการปรับตัวลงมาเข้าใกล้กรอบแนวรับล่างที่ 1380 จุด (ดังภาพ) โมเมนตัมของตลาดและเครื่องมือทางเทคนิคหลายอย่างชี้ว่าตลาดแนวโน้มระยะสั้นปรับตัวลงเมื่ออยู่ในภาวะความผันผวนหรือ Overbought
ตลาดหุ้นอาเซียนกำลังเผชิญกับแรงขายเมื่อคณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) อาจจะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมปลายปี MS ยังคงคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเดือนธ.ค. อย่างไรก็ตามแนวโน้มเศรษฐกิจในจีนและประเทศในตลาดเกิดใหม่ก็เป็นประเด็นสำคัญ ขณะที่การตัดสินใจการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเฟดยังต้องมองตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขแรงงาน Labor market ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ Dollar market และแนวโน้มราคาพลังงาน Energy price เป็นอีกปัจจัยที่สำคัญ
ตลาดเริ่มมีความเสี่ยงณ.ระดับปัจจุบัน สำหรับภาวะตลาดโดยรวมพบว่าหุ้นขนาดใหญ่กลุ่มนำตลาด ได้แก่ ปิโตรเคมี บ้านและที่ดิน พาณิชย์และขนส่งเครื่องมือชี้วัดทุกตัวได้บ่งชี้ว่าดัชนีได้เข้าสู่รอบของการปรับฐาน ซึ่งหมายความว่าดัชนีอาจมีการเทขายทำกำไร ขณะที่นักลงทุนยังให้ความสนใจกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ เพื่อประเมินเกี่ยวกับภาพรวมต่อการพิจารณานโยบายการเงินของเฟด
สัญญาณทางเทคนิคชี้ว่าหากตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงหลุดกรอบแนวรับ 1380 จุด อาจส่งผลให้เครื่องมือทางเทคนิคเริ่มตัดลงส่งสัญญาณเชิงลบ ส่วนมุมมองในเรื่องของกระแสเงินลงทุนสัปดาห์นี้ต้องระมัดระวัง เนื่องจากการปรับลงของตลาดหุ้นในภูมิภาคและการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ
คำแนะนำ: SET วันนี้มองการแกว่งตัวอยู่ในกรอบ แนวรับ 1380 / แนวต้าน 1400 จุด แนะนำเลือกลงทุนเป็นรายตัว
BLS report
SAWAD (BUY/TP/53)
เรายังคงคำแนะนำซื้อเนื่องจาก1) การเติบโตของสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นรวดเร็ว 2) แนวโน้มสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นจากอุปสงค์ที่เพิ่มในตลาดที่ธนาคารเข้าไปไม่ถึง 3) สามารถให้บริการสินเชื่อรายย่อยอย่างครบวงจร 4) ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น กอปรกับการบริหารสัดส่วนหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมที่ดี 5) การขยายสาขาที่เพิ่มขึ้น 6) การซื้อกิจการและการซื้อหนี้มาบริหารเพื่อเพิ่มรายได้
DCC (SELL)
รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/58 ที่ 275 ล้านบาท ต่ำกว่าคาด 10% เนื่องจาก 1)ปริมาณยอดขายที่ลดลงตามปัจจัยทางฤดูกาล 2)การบริโภคที่ชะลอตัวลงในพื้นที่ต่างจังหวัด 3)กำไรในช่วงครึ่งหลังของปี 2558 จะหดตัวลงช่วงโลว์ซีซั่น
MCOT (SELL)
เราคาดว่า MCOT จะรายงานผลกำไรสุทธิไตรมาส 3/58 ที่ 64 ล้านบาท ลดลง 29% YoY แต่เพิ่มขึ้น 64% QoQ บริษัทจะทำการกลับรายการสำรองค่าใช้จ่ายสำหรับคดีไร่ส้มจำนวน 56 ล้านบาท ทำให้กำไรสุทธิจากการดำเนินงานเหลืออยู่เพียง 8 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิลดลงเป็นผลมาจากรายได้โฆษณาที่ลดลงและภาวะการบริโภคที่ยังไม่ฟื้นตัว ส่วนการปรับผังช่องเอชดีช่องแฟมิลี่ยังคงไม่ได้เปลี่ยนไปสู่รายได้ที่เพิ่มขึ้นแต่คาดว่าจะเห็นผลในช่วงครึ่งหลังของปี 2558
BANPU (HOLD downgrade)
เราคาดว่ากำไรในไตรมาส 3/57จะออกมาค่อนข้างต่ำที่ 30 ล้านบาทจากขาดทุนสุทธิในไตรมาสที่แล้ว เนื่องจากต้นทุนดำเนินงานของโรงไฟฟ้าหงสาเพิ่มขึ้น ราคาถ่านหินปรับตัวลดลงและผลการขาดทุนจาการทำ Hedging oil อย่างไรก็ตามเราคาดว่าผลประกอบการที่น่าจะปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 4/58 เนื่องจากรายได้ที่จาก BLCP และธุรกิจไฟฟ้าในจีน รวมถึงการเริ่มดำเนินงานของโรงไฟฟ้าหงสา น่าจะส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทดีขึ้น
ธนรัตน์ อิศรกุล Tel. (662) 618-1334
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์/ปัจจัยทางเทคนิค
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาด
TOT ส่อไม่ฟ้อง 900 อ้างเสี่ยงกทค.เคาะคลื่น 2400 ทำบอรดแบนด์ชี้เงินไหลเข้ารัฐได้ประโยชน์
ทีโอทีออกหนังสือชี้แจงพนักงาน ส่อไม่ฟ้องคลื่น 900 เผยผลเสียไม่คุ้มเสี่ยง อาจกระทบพันธมิตร-ทรัพย์สินสัมปทานเดิม ด้านบอร์ด กทค.เคาะ บมจ.ทีโอที ทำบรอดแบนด์ แอลทีอี คลื่นย่าน 2400 เมกะเฮิรตซ์ ย้ำชัดไม่ใช่การเอื้อผลประโยชน์ ชี้เงินรายได้ยังไงก็เข้ารัฐ ยันฮั้วประมูล 4 จี ทำได้ยาก (หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์)
ลุย 20 โครงการ รออาคมทุบโต๊ะเสนอตู่ใช้ม.44
นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้าจะหารือร่วมกับนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เพื่อหาข้อสรุปโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่จะต้องเร่งลงทุน 20 โครงการ หรือหาช่องทางในการเปิดประมูลให้เร็วขึ้น เพื่อเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณาใช้มาตรา 44 มาบังคับใช้เพื่อลดขั้นตอนการดำเนินงาน (หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ)
เปิดเค้กเอกชนพีพีพี 3.5 แสนล้านบาท
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า สคร.กำลังเร่งผลักดันโครงการร่วมทุนภาครัฐและเอกชน (พีพีพี) 6 โครงการ มูลค่า 3.5 แสนล้านบาท เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโดยเร็ว จะได้ดำเนินโครงการภายในกลางปีหน้า (หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ)
"อรรชกา" ตั้งบอร์ดคลัสเตอร์ เร่งผลักดันธุรกิจเอสเอ็มอี
นางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยถึงแนวทางการช่วยเหลือเอสเอ็มอีว่า กระทรวงอุตสาหกรรมจะจัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนคลัสเตอร์อุตสาหกรรม โดยคณะกรรมการชุดนี้จะมีตนเป็นประธาน และมีตัวแทนจากกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นคณะกรรมการ รวมทั้งจะมีการตั้งคณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการชุดใหญ่ขึ้นมาอีก 7 ชุด ประกอบด้วย คณะอนุกรรมการรายคลัสเตอร์ทั้ง 6 อุตสาหกรรม และอีก 1 คณะอนุกรรมการบริการจัดการ ที่จะดึงตัวแทนจังหวัดทั้ง 7 จังหวัด ที่อยู่ในกลุ่มซุปเปอร์คลัสเตอร์ ร่วมเป็นกรรมการอยู่ด้วย คาดว่าคณะกรรมการชุดนี้ จะตั้งได้เสร็จภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะทำให้การขับเคลื่อนนโยบายคลัสเตอร์อุตสาหกรรมเดินหน้าได้อย่างรวดเร็ว (หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ)
กลต.ปล่อยโบรกคิดค่าคอมต่ำ ประเมิน 'สงครามแข่งดุ' จบเร็ว
"ก.ล.ต." เผย โบรกเกอร์น้องใหม่แจงต้นทุนแล้ว ไม่ขัดขวางหากทำธุรกิจได้ มองไม่ได้แทรกแซง ชี้อุตสาหกรรมต้องเร่งหาจุดเด่นของแต่ละบริษัท ด้านแหล่งข่าวโบรกเกอร์หวัง ก.ล.ต.ตรวจสอบวัตถุประสงค์ตั้ง บล. ต้องการทำธุรกิจจริงหรือเข้ามาหาประโยชน์ ประเมินสงครามคอมมิชชั่นจบเร็ว เหตุอัตราปรับลดแรงเกินเหตุ (หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ)
ลุ้นระทึกกบง.ขึ้นแอลพีจี
นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) วันที่ 4 พ.ย.นี้ มีวาระสำคัญในการพิจารณาราคาขายปลีกแอลพีจีเดือนพ.ย.ว่าจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร จากราคาเดือนต.ค.อยู่ที่ 22.29 บาท/กิโลกรัม(ก.ก.) โดยจะพิจารณาจากปัจจัยเงินบาท, ราคาเฉลี่ยคำนวณจากราคาหน้าโรงแยกก๊าซฯ เดือนพ.ย.ที่จะปรับราคาใหม่ตามข้อกำหนดปรับราคาเฉลี่ยใหม่ ทุก 3 เดือน, ราคาหน้าโรงกลั่นและราคานำเข้า(ซีพี) ล่าสุด ขยับขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ 377 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน จากเดือนต.ค. ราคาซีพีเฉลี่ยอยู่ที่ 362 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน (หนังสือพิมพ์ข่าวสด)
ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ Tel. (662) 618-1330-1
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
รายงานวันนี้
หุ้น: DCC คำแนะนำ: ขาย ราคาเป้าหมาย (บาท): 3.80
- กำไรสุทธิไตรมาส 3/58 ต่ำกว่าเราคาด 10% และตลาดคาด 9% จากยอดขายต่ำกว่าคาด
- เรามองว่ากำไรหลัก DCC ในไตรมาส 4/58 จะคงที่ YoY แต่อาจเติบโตขึ้นเล็กน้อย QoQ ซึ่งยังไม่น่าตื่นเต้น แต่กำไรสุทธิดีขึ้นมาก YoY จากรายการพิเศษที่เป็นลบในไตรมาส 4/57
- เราปรับประมาณการกำไรหลักปี 2558-2559 ลง 1%
- เราแนะนำ "ขาย" จากกำไรยังไม่เห็นสัญญาณฟื้นตัวขัด อัตราผลตอบแทนเงินปันผลยังมิใช่จุดน่าสนใจ และมูลค่าหุ้นแพง
นักวิเคราะห์: นฤมล เอกสมุทร, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
หุ้น: SAWAD คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 53.00
- เรายังคงแนะนำ "ซื้อ" ด้วยราคาเป้าหมายที่ 53 บาท
- ปรับประมาณการสินเชื่อปี 2558 มาเติบโตที่ 40% จากเดิมที่ 25%
- อาจมีอัพไซด์ต่อประมาณการของเราจากรายได้ค่าธรรมเนียมที่ดีขึ้นจากธุรกิจใหม่
- เรามองกำไรไตรมาส 3/58 เติบโต 45% YoY และ 12% QoQ เป็น 325 ล้านบาทจากสินเชื่อที่มีแนวโน้มเติบโตดี
นักวิเคราะห์: สุวัฒน์ บำรุงชาติอุดม, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
หุ้น: MCOT คำแนะนำ: ขาย ราคาเป้าหมาย (บาท): 8.75
- เรายังคงแนะนำ "ขาย" ด้วยราคาเป้าหมายใหม่ที่ 8.75 บาท
- เรามองกำไรหลักไตรมาส 3/58 ลดลง 91% YoY และ 57% QoQ ต่ำกว่าที่เราคาดไว้ จากค่าใช้จ่ายบริการที่สูงกว่าคาด
- เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2558 ลงอีก 19% และกำไรหลักลง 31%
- เรตติ้งเฉลี่ยของช่องเอชดีลดลงในช่วงเดือนส.ค.-ก.ย.
นักวิเคราะห์: ประสิทธิ์ สุจิรวรกุล, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
หมายเหตุ: รายงานดังกล่าวเป็นเพียงเนื้อหาโดยสรุป สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในรายงานฉบับเต็ม
Technical Analysis
Security: WORK
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 47
Stop loss: < 41.5
Reason: เรามองโอกาสในการเข้าซื้อเมื่อหุ้นสามารถยืนปิดสูง สอดคล้องกับ Stochastic ปรับขึ้น
Security: SAWAD
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 46-47
Stop loss: < 42.5
Reason: ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นได้ตามคาด ปัจจุบันหุ้นสามารถยืนปิดสูงทำจุดสูงสุดใหม่ทะลุแนวต้านสำคัญ 42 บ. สอดคล้องกับวอลุ่มที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
Security: DTAC
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 71
Stop loss: < 65.5
Reason: ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นได้ตามคาด ส่งสัญญาณแข็งแกร่งกว่าตลาดและกลุ่ม เราคาดว่าหุ้นจะปรับตัวขึ้นต่อ โดยมองเป้าหมายที่ 71 บ.
Security: SPALI
Position: ขาย
Reason: การปรับตัวขึ้นมาบริเวณ 19 มองเป็นโอกาสในการขายหุ้นลดความเสี่ยง เราคาดว่าแนวต้านบริเวณ 19 บ.ขึ้นไปเป็นช่วงที่หุ้นสะสมมากในอดีต การทะลุผ่านอาจทำได้ยาก
Security: PTTGC
Position: ขาย
Reason: ราคาหุ้นอยู่ในข่ายที่ต้องระวังมากขึ้นเนื่องจากโมเมนตัมลดลง ขณะที่ราคาหุ้นปิดต่ำ สอดคล้องกับการปรับตัวลงของเครื่องมือ MACD
Security: BEC
Position: ขาย
Reason: ราคาปรับตัวลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยระยะกลาง บางชี้ถึงการเปลี่ยน แนวโน้มเป็นลงคล้ายรูปแบบในอดีต
ธนรัตน์ อิศรกุล Tel. (662) 618-1334
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์/ปัจจัยทางเทคนิค