- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 22 October 2015 16:10
- Hits: 3179
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA -48.50, NASDAQ -40.85, S&P -11.83, FTSE +3.29, CAC +21.29 และ DAX +90.42 ภายใต้ปัจจัยกดดันจากราคาหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์และหุ้นกลุ่มพลังงานปรับร่วงลง โดยดัชนี DJIA ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวในกรอบแคบเนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังรอการส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยที่ชัดเจนขึ้นจากการประชุมของ FOMC ที่จะมีขึ้นในช่วงที่27-28 ตุลาคม นี้
…..ทางด้านตลาดหุ้นยุโรป อยู่ระหว่างรอการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้ (22/10/58) ซึ่งคาด ECB จะมีการส่งสัญญาณถึงการขยายโครงการซื้อสินทรัพย์ในช่วงหลายเดือนข้างหน้า
.....ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. -US$1.09 อยู่ที่ US$45.20 ต่อบาร์เรล สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) เปิดเผยข้อมูลสต๊อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 16 ต.ค. เพิ่มขึ้นเกินคาด 8 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันกลั่นลดลงเกินคาด 2.6 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันเบนซินลดลงเกินคาด 1.5 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้นเกินคาด 0.4% สู่ระดับ 86.4%
.....ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. -US$1.20 อยู่ที่ US$1,165.50 ต่อออนซ์
(+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +28.74 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -100,305 ล้านบาท (ปี’57 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)
ทิศทางตลาด :
ทิศทางตลาด : Sideway? คาดการเคลื่อนไหวของ SET จะปรับตัวลดลงตามตลาดเอเชียที่ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงเกือบทุกตลาด โดยปัจจัยชี้นำตลาดเราให้น้ำหนักไปยังประเด็นต่างประเทศที่คาดอยู่ระหว่างรอ (1) การประชุมของ ECB ที่จะขึ้นในวันนี้ซึ่งคาด ECB จะมีการส่งสัญญาณถึงการขยายโครงการซื้อสินทรัพย์ในช่วงหลายเดือนข้างหน้า (2) การประชุมเฟดวันที่ 27 – 28/10/58 ที่คาดอาจมีส่งสัญญาณระยะเวลาที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย (3) ธนาคารกลางจีนให้สินเชื่อมูลค่า 1.055 แสนล้านหยวน แก่ธนาคาร 11 แห่งผ่านวงเงินสินเชื่อระยะกลาง
…..เช่นเดียวกับประเด็นในประเทศที่ยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ๆ ทั้ง + / - โดย (1) Fund Flow มีความผันผวน แรงขาย / สุทธิของต่างชาติสลับกันไป โดยล่าสุดซื้อสุทธิ 28.74 ล้านบาท แต่ยังอยู่ในทิศทางเดียวกับภูมิภาคส่วนใหญ่ ขณะที่เงินบาทยังแข็งค่าจากช่วงต้นตค. (เคลื่อนไหวในช่วง 36.50 บาท) คาดในระยะสั้นอาจส่งผลดีต่อ Fund Flow บ้าง (2) การเร่งรัดเปิดประมูลโครงการต่างๆ ที่คาดส่งผลดีต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ขณะที่แนะจับตากลุ่มพลังงาน ที่คาดมีแรงเก็งกำไรตามราคาน้ำมัน และ (3) การเก็งกำไรผลประกอบการ – 3Q/58 ถึงกลางเดือนพย. โดยเฉพาะกลุ่ม Real Sector หลังกลุ่มธนาคารฯ ประกาศไปแล้ว
....โดยยังแนะติดตาม (1) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, PTTGC, TOP และ BCP จะได้รับผลกระทบจากการขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในช่วง 3Q/58 แต่เรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นในช่วงที่ราคาอ่อนตัวสำหรับการลงทุนในระยะยาวกลาง – ยาว (2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่คาดยังคงได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐ เช่น ITD, STEC, TRC และ UNIQ (3) ค่าเงินบาท ล่าสุดเคลื่อนไหวบริเวณ 35.40– 35.427 ยังคงแข็งค่าเมื่อเทียบกับ 36.50 บาท เมื่อต้นตค. (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น TASCO และ VNG เป็นต้น (5) กลุ่มโรงแรม (CENTEL) และหุ้นกลุ่มสายการบิน (เช่น AAV, BA) หลังสถานการณ์การท่องเที่ยวมีแนวโน้มทรงตัว และคาดดีขึ้นโดยเฉพาะช่วง High season ในช่วง 4Q/58 และ (6) กลุ่มสื่อสาร (ADVANC) หลัง กสทช. จะเปิดประมูลใบอนุญาต 4G คลื่นความถี่ 1,800 MHz และ 900 เมกะเฮิร์ตซ์ (MHz) ในวันที่ 11/11/58 และ12/11/58 (จากเดิม 15/12/58) ตามลำดับ
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.009 อยู่ที่ 2.02% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) +0.95 อยู่ที่ 16.70
หุ้นแนะนำ : SMT
ประเด็นที่ต้องติดตาม (22 - 23 ตค.’58)
22/10/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศ - กย. (2) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (3) ยอดขายบ้านมือสอง - กย.
(4) ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ - กย.
23/10/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้น - ตค.