- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 21 October 2015 17:43
- Hits: 1761
บล.อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) : Market Comment
รอผลการประชุม ECB
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดลบ ความผันผวนมาจากช่วงรายงานผลประกอบการและนักลงทุนรอดูผลกรประชุม ECB ทำให้ DOW JONES, NASDAQ, S&P500 ปิด -0.08%, -0.50%, -0.14%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ จากแรงกดดันในหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ และนักลงทุนยังจับตาดูผลการประชุม ECB ทำให้ DAX, FTSE, CAC40, FTMIB ปิด -0.16%, -0.11%, -0.64%, -0.67%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 0.01 ดอลลาร์ ปิดที่ 46.29 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 0.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 48.71 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยรมวอิหร่านกล่าวว่า อิหร่านจะเพิ่มการผลิต 5แสนบาร์เรล/วันใน
2เดือนนี้
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ผันผวนแดนบวกในช่วงเช้าจากกลุ่มสื่อสารขึ้นนำ แต่ตลาดถูกกดดันในช่วงบ่ายเนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆเข้ามาหนุนตลาดประกอบกับตลาดรอผลประกอบการแบงก์ใหญ่ที่ยังออกมาไม่ครบ โดยเท่าที่รายงานออกมาแบงก์ขนาดเล็กถึงกลางจะทำได้ดีกว่าขนาดใหญ่ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันตลาด สำหรับวันนี้ กลุ่ม OPEC และตัวแทนนอกกลุ่ม OPEC จะประชุมนอกรอบในวันนี้ที่กรุงเวียนนา ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจะไม่มีการปรับลดกำลังการผลิตเพื่อพยุงราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตามเนื่องจาก รมว. อิหร่านได้กล่าวว่าอิหร่านจะเพิ่มการผลิต 5 แสนบาร์เรล/วัน ภายใน 2 เดือนนี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลน้ำมันกลับมา Oversupply อย่างมาก เพื่อเตรียมรับมือกับเรื่องดังกล่าว หากมี Surprise ปรับลดกำลังการผลิตจะเป็นปัจจัยหลักที่พยุงรวมถึงดีดตัวของราคาน้ำมันได้ ทั้งนี้ปัญหาราคาน้ำมันไม่ได้มีเพียงระหว่างกลุ่ม OPEC และ Non OPEC แต่ยังมีปัญหาภายในระหว่างกลุ่ม OPEC ด้วยกันเอง จะเห็นได้ว่า Demand จากประเทศในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกปีนี้คิดเป็นสัดส่วนถึง 34% ของ Demand โลก ซึ่งจีนกำลังนำเข้าน้ำมันปริมาณมากเพื่อสำรองไว้ในคลัง
อย่างไรก็ตาม จากการคงกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกไว้ที่ 30 ล้านบาร์เรล/วันในการประชุมครั้งที่ผ่านมาแต่ในความจริงแล้วนั้นOPEC รายงานปริมาณการผลิตไว้ที่ 31.57 ล้านบาร์เรล/วันในเดือน ก.ย.ที่ผ่านมาซึ่งมากกว่าเพดานที่กำหนด และมีการแข่งกันตัดราคาระหว่างกลุม OPEC เพื่อไม่ให้ประเทศในเอเซียแปซิฟิกหันไปซื้อน้ำมันจากนอกกลุ่มOPEC เช่นรัสเซีย บราซิล และสหรัฐเพิ่มขึ้น ที่ผ่านมาคูเวต อิรัก และกาตาร์ต่างตั้งราคาขายไว้ต่ำกว่าซาอุฯ(ราคาขาย ณ คุณภาพเดียวกัน 65เซนต์, 3.7ดอลลาร์, 1.2ดอลลาร์ ต่อบาร์เรลต่ำกว่าซาอุฯตามลำดับ)เพื่อแย่งชิงมาร์เกตแชร์ซึ่งเรื่องนี้ต้องติดตามมาตราการจากซาอุฯว่าจะมีการตอบสนองอย่างไรไม่เช่นนั้น การกำหนดเพดานหรือการผูกขาดการตั้งราคาของกลุ่ม OPEC จะไม่มีผลอีกต่อไป สำหรับตลาดหุ้นไทยอาจชะลอความร้อนแรงลงไปบ้างเพื่อรอดูผลการประชุม ECB ในวันที่ 22 ต.ค. นี้ ว่าจะมีการใช้มาตราการผ่อนคลายทางการเงิน (QE) เพิ่มหรือไม่
รวมไปถึงระยะเวลาในการทำ QE โดยจากตัวเลขเงินเฟ้อที่ยังไม่ฟื้นตัวอาจทำให้ ECB ตัดสินใจขยายวงเงิน QE ได้ แต่สมาชิกสภาบริหารของ ECB ต่างแสดงความไม่เห็นด้วยในการขยายมาตราการ QE โดยกล่าวว่ายังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงประเด็นการขยายโครงการซื้อสินทรัพย์มูลค่า 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน เพราะตามกำหนดการเดิมยังมีเวลาถึงเดือน ก.ย. ปีหน้า (เริ่มต้น มี.ค.) ซึ่งคิดเป็นวงเงินทั้งหมด 1.1 ล้านล้านยูโร เพื่อจะกระตุ้นเงินเฟ้อให้ได้ตามเป้าหมายที่ 2% สำหรับปัจจัยในประเทศ รมวท่องเที่ยวกล่าวว่ากำลังพิจารณาต่ออายุมาตราการนำค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวไปหักลดหย่อนภาษีรวมถึงเพิ่มอัตราการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากปีละ 1.5 หมื่นบาทเป็น 3-5 หมื่นบาท และถึงแม้รัฐบาลจะสูญเสียรายได้ไปบ้างแต่จะทำให้รัฐบาลมีรายได้จากภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% กลับมามากขึ้น ซึ่งจะเสนอเรื่องดังกล่าวต่อ ท.ท.ช.ในเดือนหน้า เพื่อกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว
กลยุทธ์การลงทุน
Trading : ไม่ต่ำกว่าแนวรับแถว ๆ 1,400 จุด แนะนำซื้อ เก็งกำไรได้
Saravut Tachochavalit, Analyst
TEL : +66 (0) 2682 9754 Ext. 9754
EMAIL : [email protected]