- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 20 October 2015 16:31
- Hits: 1442
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Selective Buy
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ยังคงอยู่ในช่วงของการปรับฐาน โดยกลุ่ม ICT / PTTEP เกิดแรงขายออกมาค่อนข้างมาก ขณะที่กลุ่มธนาคารเริ่มฟื้นตัว หลัง TMB รายงานกำไรใน 3Q58 ออกมาดีกว่าคาดถึง 23% ส่งผลให้ SET INDEX ฟื้นตัว ปิดที่ 1,416.91 จุด ลบเล็กน้อย 1.47 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบาง 29,825 ล้านบาท
ด้านเงินทุนต่างชาติชะลอตัวเช่นกัน กลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการเพียง 210 ล้านบาท ขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีก 4,017 ล้านบาท แต่กลับมา Long สุทธิใน SET50 Index Futures เท่ากับ 5,021 สัญญา
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ติดตามการประชุม ครม.วันนี้ คาดพิจารณาแผนการลงทุนเชื่อมต่อระหว่างถนน และ ระบบราง ระหว่างด้านตะวันออกไปตะวันตก ด้านบน และ ด้านล่าง
ติดตามการรายงานงบ 3Q58 วันนี้ KBANK/ BBL และวันพรุ่งนี้เป็น KTB
ตลาดกังวลต่อสถานะซื้อสุทธิ 13,024 ล้านบาท ของพอร์ตโบรกเกอร์ยอด MTD
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองการลงทุน "กลางถึงบวก" วันที่ 9 แม้ว่า SET INDEX จะแกว่งในกรอบแคบมาตลอด 3 วันทำการที่ผ่านมา อาจเป็นเพราะ สถาบันภายในประเทศกังวลต่อยอดซื้อสุทธิของพอร์ตโบรกเกอร์ที่ซื้อสุทธิสะสมมากถึง 1.3 หมื่นล้านบาทนับตั้งแต่ต้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ทำให้สถาบันภายในประเทศทยอยลดน้ำหนักการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อปิดความเสี่ยงดังกล่าว แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า SET INDEX ยังแข็งแกร่งตลอด 3 วันทำการเช่นกัน แนวรับ 1,415-1,420 จุด ยังทำงานได้อย่างแข็งแกร่ง
ด้านปัจจัยพื้นฐาน เรายังคงให้น้ำหนักกับกลุ่มหลักของตลาดหุ้นไทยที่ยังมีประเด็นเก็งกำไรเชิงบวกต่อการลงทุนในช่วงนี้
กลุ่มธนาคาร: TMB รายงานกำไรสุทธิใน 3Q58 ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ถึง 23% ส่วน SCB ออกมาต่ำกว่าคาดราว 10% ซึ่งจะเป็นไตรมาสที่แย่ที่สุดของ SCB ในปีนี้แล้ว เราเชื่อว่าจะเกิดการ Covered Short หุ้นกลุ่มธนาคาร รวมถึงแรงเก็งกำไรต่อหุ้น KBANK/ BBL / KTB ในวันนี้
กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง/ วัสดุก่อสร้าง: ต่อประเด็นการพิจารณาแผนการลงทุนเชื่อมต่อระหว่างถนนและระบบรางในวันนี้ ส่วนอังคารหน้าจะเป็นแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 19 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 1.7 ล้านล้านบาท ย่อมเป็นบวกต่อโอกาสที่ 2 กลุ่มนี้
กลุ่มอสังหาฯ: คาดว่าจะแกว่งในกรอบแคบลง หลัง โครงการกระตุ้นภาคอสังหาฯ เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค. เราประเมินว่าในช่วง 1-2 สัปดาห์จากนี้ไป บริษัทจดทะเบียนในกลุ่มอสังหาฯ จะมีการรายงานยอดขายเข้ามา หากส่งสัญญาณในเชิงบวก ย่อมเป็นบวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานของกลุ่มนี้ใน 4Q58 และ 1Q59 ถือเป็น Upside risk ต่อประมาณการและราคาเหมาะสม
สำหรับปัจจัยต่างประเทศในวันนี้ กลับเป็นกลาง แต่เราแนะนำให้นักลงทุนติดตามโอกาสที่สหรัฐฯ และรัสเซีย จะเปิดโต๊ะเจรจากรณีซีเรียในเร็วๆ นี้ หลัง รมว.ต่างประเทศ สหรัฐฯ เสนอเงื่อนไขต่อรัสเซีย เพื่อยุติข้อขัดแย้งในการเข้าช่วยเหลือซีเรีย ประเด็นนี้จะมีผลต่อทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ช่วยสนับสนุนให้กลุ่มพลังงาน / ปิโตรเคมี ทรงตัวถึงขยับขึ้น
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนถือพอร์ตรอขายทำกำไรรอบนี้บริเวณ 1,440 จุด +/- แต่หากหุ้นเป้าหมายกลับปรับฐานลงระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย กลายเป็นจังหวะของการเพิ่มน้ำหนักเก็งกำไรมากขึ้น"
Top Pick in 4Q15: BMCL / ITD/ TMB/ TPIPL
HOLD: ITD / TPIPL/ ADVANC/ WHA/ IFEC/ INTUCH/ KTB
Speculative Buy: TMB
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" ได้แก่
1. TMB : ราคาปิด 2.66 บาท ราคาเหมาะสม 2.70 บาท (อิงราคาเหมาะสมของ Consensus)
a) TMB รายงานกำไรสุทธิ 3Q58 ที่ 2,815 ล้านบาท เติบโต +17.9% yoy และ +24.6% qoq ดีกว่าคาดการณ์ของตลาดที่ราว 2,300 ล้านบาท ถึง 22% จึงคาดว่ามีโอกาสที่ Consensus จะปรับเพิ่มประมาณการกำไรและมุมมองต่อหุ้น TMB หลังร่วมประชุมกับผู้บริหาร
b) ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) เพิ่มขึ้นเป็น 3.02% ใน 3Q58 จาก 2Q58 ที่ 2.99% จาก อานิสงค์ของการปรับโครงสร้างธุรกิจส่งผลให้สัดส่วนรายได้จากการปล่อยสินเชื่อ SME และรายย่อยที่เพิ่มขึ้นซึ่งมี NIM สูงกว่า Corporate Loan
c) และรายได้ค่าธรรมเนียมขยายตัวโดดเด่นถึง +21.4% yoy เป็น 2,614 ล้านบาท รวมทั้งคุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้นจาก NPL ที่ลดลงเหลือ 3.5% ใน 3Q58 จาก 3.64% ใน 2Q58
d) คาดกำไรสุทธิปี 2559 เติบโตถึง +33.1% yoy เป็น 10,511 ล้านบาท และต่อเนื่อง +22.3% yoy เป็น 12,860 ล้านบาท ในปี 2560
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียซื้อสุทธิเป็นวันที่ 3 อีก US$243 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$137 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
เม็ดเงินต่างชาติชะลอตัวต่อเนื่อง
นักลงทุนต่างชาติ กลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 210 ล้านบาท เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,730 ล้านบาท และ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ยังคงสูงกว่า 1.0 แสนล้านบาท เป็น 100,755 ล้านบาท
แต่ SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติกลับมา Long สุทธิอีกครั้ง 5,021 สัญญา เทียบกับวันก่อนหน้า Short สุทธิ 1,458 สัญญา น่าจะเป็นการกลับมาเปิดสถานะ Long เพิ่มเติมอีกครั้ง เมื่อ S50Z15 ยังคงปิดสูงกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 3 แต่เหลือเพียง 0.08 จุด จากวันก่อนหน้า Premiumd เท่ากับ 0.97 จุด ส่งผลให้ QTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Long สุทธิขยับขึ้นเป็น 80,674 สัญญา และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Long สุทธิเท่ากับ 19,950 สัญญา
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้คงการขายสุทธิเป็นวันที่ 2 อีก 4,017 ล้านบาท สูงกว่าวันก่อนหน้าที่ซื้อสุทธิ 3,310 ล้านบาท เมื่อราคาพันธบัตรไทยปรับฐานลงแรง ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ มากถึง 6.93bps จากวันก่อนหน้าลดลง 0.82bps ปิดที่ 2.609%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ลดลงเหลือ 433 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 583 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 11 ยังคงเน้นกลุ่มธนาคาร และ กลุ่มพลังงาน
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิลดลงเหลือ 831 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 2,263 ล้านบาท รวม 11 วันทำการซื้อสุทธิ 13,930 ล้านบาท ท้งนี้เป็นการเน้นสะสมกลุ่มธนาคารและพลังงาน พร้อมขายสุทธิ ICT หนาแน่น เช่นเดียวกับวันก่อนหน้า สรุปภาพการลงทุนได้ดังนี้
1. กลุ่มพลังงาน ซื้อสุทธิสูงสุด 465 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 513 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มธนาคาร ซื้อสุทธิ 427 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 566 ล้านบาท กลุ่มขนส่ง ซื้อสุทธิ 76 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 330 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่ม ICT ถูกขายสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 2 มากถึง 274 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 182 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ ขายสุทธิ 40 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก สนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ยในระยะอันใกล้: นาย Williams ประเมินเศรษฐกิจสหรัฐฯ ใน 2H58 เติบโต 2% โดยที่การจ้างงานจะเข้าสู่สูงสุด พร้อมกับอัตราเงินเฟ้อที่มีเสถียรภาพมากพอที่จะทำให้เฟดตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะอันใกล้นี้
ตัวเลขเศรษฐกิจ ออกมาดีกว่าคาด
ดัชนีตลาดบ้านเดือนต.ค. เท่ากับ 64 จุด ดีกว่าที่ Bloomberg consensus คาด 62 จุด และเดือนก่อนหน้าที่ 61 จุด เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2548
ยุโรป
ไม่มี
จีน
GDP ใน 3Q58 ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดเล็กน้อย: เติบโต 6.9% yoy เทียบกับ Bloomberg consensus คาดที่ 6.8% yoy แต่ยังคงเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 1Q52 ทั้งนี้ภาคการบริการและการบริโภคภายในประเทศ ฟื้นตัวเด่น จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ชดเชยกับการอ่อนตัวลงของการส่งออกและภาคการผลิต ทั้งนี้การเติบโตยังคงต่ำกว่าเป้าหมายของทางการที่ 7.0%
เอเชียแปซิฟิก
ไม่มี
ไทย
ADB ลดเป้า GDP ปีนี้ของไทยลงเหลือ 2.7%: ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) กล่าวว่า เอดีบีลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจปีนี้เหลือโตเพียง 2.7% จากเดิม 3.6% เนื่องจากครึ่งปีแรกจีดีพีโตเพียง 2.9% ประกอบกับเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของจีนและอุปสงค์ที่เบาบางลงของประเทศอุตสาหกรรม ส่วนปี 2559 ปรับลดจีดีพีลงเช่นกันเหลือโต 3.8% จากเดิมคาด 4.1% ประเมินว่าการลงทุนภาครัฐในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่จะเริ่มลงทุนจะเข้ามาหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม การประมาณการครั้งนี้ยังไม่รวมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
BoI ปลื้มจีนแห่ลงทุนพุ่ง: เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ภาพรวมการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ปี 2558 มีนักลงทุนจากจีนเข้ามาลงทุนในประเทศไทย คิดเป็นมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับ 1 แทนนักลงทุนญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่บีโอไอได้มีการปรับมาตรการส่งเสริมการลงทุนใหม่ ประกอบกับแต่ละโครงการของจีนมีเม็ดเงินลงทุนค่อนข้างสูง ช่วง 8 เดือนแรกปี 2558 นี้ (ม.ค.-ส.ค.58) มีจำนวนโครงการยื่นขอส่งเสริมฯ กับบีโอไอจำนวน 332 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 50,267 ล้านบาท โดยสิงคโปร์ลงทุนเป็นอันดับ 1 จำนวน 51 โครงการ เงินลงทุน 1.31 หมื่นล้านบาท จีน 37 โครงการ ลงทุน 1 หมื่นล้านบาท ส่วนญี่ปุ่นจำนวน 92 โครงการ เงินลงทุน 9.9 พันล้านบาท จะเห็นว่าหากดูโครงการแล้วญี่ปุ่นยังมากอยู่ แต่กรณีจีนที่มีมูลค่าอันดับหนึ่งเพราะมีการลงทุนผ่านสิงคโปร์ด้วย
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530