- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 16 October 2015 18:52
- Hits: 2856
บล.กรุงศรี : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Money Wizard
ตลาดหุ้นวานนี้: บรรยากาศการลงทุนเป็นไปอย่างคึงคัก SET ปรับขึ้นกว่า +20.24 จุด ปิดที่ 1,425 จุด ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคในปริมาณที่ซื้อขายหนาแน่น หุ้นขนาดใหญ่นำตลาด เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่า Flow จากต่างชาติจะยังไหลเข้าตลาดเกิดใหม่หลังเฟดรายงานภาวะเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังอ่อนแอช่วยสกัดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปีนี้ นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ +918 ล้านบาทและตลาดพันธบัตร +11,830 ล้านบาท นอกจากนี้ยัง Net Long TFEX +11,067 สัญญาต่อเนื่องเป็นวันที่ 2
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้: เรายังมีมุมมองเป็นบวกต่อตลาดหุ้นในช่วงนี้เชื่อแรงหนุนจะยังมาจาก Fund Flow ต่างขาติที่ยังไหลเข้าตลาดหุ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้จากการประเมินและสถิติในอดีตนั้นแสดงให้เห็นว่า ยังมีเม็ดเงินอีกกว่า 30,000 ล้านบาทในส่วนของ LTF และอีกกว่า 15,000 ล้านบาทของ RMF ที่ยังรอการลงทุนอยู่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ โดยคาดว่าวันนี้ SET น่าจะ Sideway up แม้จะเกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้นบ้างหลังปรับขึ้นแรงเมื่อวานนี้ แต่อย่างไรก็ตามในเชิงของปัจจัยพื้นฐานด้านเศรษฐกิจยังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวทั้งเศรษฐกิจในและต่างประเทศ และการรายงานผลประกอบของบริษัทจดทะเบียนใน 3Q15 ที่คาดว่าจะชะลอตัวน่าจะเป็นปัจจัยในเชิงลบที่จะทำให้ SET ปรับขึ้นได้ไปไม่ได้ใกล้มากนัก แต่ก็มีโอกาสแตะระดับ 1,440-1,450 จุด
กลยุทธ์วันนี้ : Selective Buy/เน้นหุ้น Market cap ใหญ่ และหุ้นที่คาดว่าผลประกอบ 3Q15 จะออกมาดี
Trading วันนี้: GUNKUL (คาดกำไร 3Q15 จะออกมาสูงสุดเป็นประวัติการณ์)
Positive Sector Outlook : กลุ่มเกี่ยวกับธุรกิจท่องเที่ยว โรงพยาบาล ก่อสร้าง และพลังงานทดแทน
High Div. Stock: ADVANC, TVO, INTUCH, BTS
หุ้นที่คาดกำไร 3Q15E โดดเด่น: SAWAD GUNKUL BIG TASCO TIPCO KTC SAPPE และ EPG KSS report วันนี้: TVO (Outperform/เป้า 32 บาท) – คาด 3Q15 กำไรลดลง 36% Q-Q แต่เพิ่มขึ้น 36% Y-Y และ ASEFA (Outperform/เป้าใหม่ 5.7 บาท) – คาด 3Q15 กำไรเพิ่มขึ้นทั้ง Q-Q และ Y-Y
หุ้น/ข่าว/ประเด็นสำคัญวันนี้:
(+) เชื่อ Fund Flow ต่างชาติจะยังไหลเข้าตลาดหุ้นเกิดใหม่ต่อเนื่องไปจนกว่าจะมีการประชุมเฟดในเดือน ธ.ค : จากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐที่คาดว่าจะเติบโตในอัตราที่ช้าลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว โดยเฉพาะจีนที่ชะลอตัวจนเกิดภาวะอุปทานล้นตลาดได้ส่งผลให้ผลราคาสินค้าโภคภัณฑ์ร่วงลงอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา และยังได้ส่งผลให้เกิดภาวะอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำทั่วโลก ล่าสุดสหรัฐได้รายงานอัตราเงินเฟ้อเดือน ก.ย ยังอยู่ที่ระดับ 1.8% เท่ากับเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟดที่พร้อมจะปรับขึ้นดอกเบี้ย ดังนั้นโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้จึงเป็นไปได้ยากขึ้น ดังนั้นเราจึงเชื่อว่าในระยะ 1-2 เดือนนี้จะมีเม็ดเงินไหลกลับมาในตลาดภูมิภาคต่อเนื่องจนกว่าจะใกล้ถึงการประชุมเฟดในเดือน ธ.ค.
(+) เม็ดเงิน LTF และ RMF ที่ผู้มีรายได้ต้องการประหยัดภาษีจะเริ่มเข้ามาซื้อกองทุน LTF และ RMF : จากข้อมูลล่าสุดของ Morningstar ได้สรุปภาพรวมกองทุนรวม ณ สิ้นไตรมาส 3/2015 พบว่ากองทุน LTF มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 253,420 ล้านบาท -6.49% ขณะที่ RMF โตเพียงเล็กน้อยที่ 0.19% มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 167,021 ล้านบาท ทั้งนี้นักลงทุนบางส่วนก็ใช้โอกาสในช่วงหุ้นตกในช่วงที่ผ่านมาทำการทยอยลงทุนทั้งกองทุนมากเป็นประวัติการณ์ โดย LTF มีเงินลงทุนไหลเข้าสุทธิในไตรมาส 3/2015 กว่า 10,766 ล้านบาทขณะที่ RMF มีเม็ดเงินไหลเข้าสุทธิอย่างต่อเนื่องเช่นกันที่ 4,420 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตามจากการประเมินและสถิติในอดีตนั้นแสดงให้เห็นว่า ยังมีเม็ดเงินอีกกว่า 30,000 ล้านบาทในส่วนของ LTF และอีกกว่า 15,000 ล้านบาทของ RMF ที่ยังรอการลงทุนอยู่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
(+) เมื่อคืนดาวโจนส์ปรับขึ้นกว่า 217 จุด และ S&P 500 ปรับขึ้นทะลุ 2,000 จุด ซึ่งเป็นการปรับขึ้นดีสุดนับตั้งแต่ 20 ส.ค. 2015 สาเหตุหลักมาจากรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนออกมาดีกว่าคาด โดยเฉพาะกลุ่มสถาบันการเงินจึงส่งผลให้หุ้นในกลุ่มนี้ปรับขึ้นแรง ประกอบกับนักลงทุนยังเชื่องว่าเฟดจะยังไม่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนต.ค.หลังรายงานอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานสหรัฐเดือนก.ย. อยู่ที่ 1.9%YoY ซึ่งยังต่ำว่าเป้า 2% ของเฟด และเฟดรายงานภาวะเศรษฐกิจสหรัฐช่วงนี้ว่ายังขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัว
Best Regards,
Songklod Wongchai
Analyst
Research Department