- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 16 October 2015 18:36
- Hits: 1189
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index : แนวโน้มขึ้นทดสอบ 1430-1440
SET lndex: 1418.07 ปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิคทะลุผ่านแนวต้านที่ 1420 จุดขึ้นไปได้ แต่เมื่อพิจารณาโครงสร้างแนวโน้มขาขึ้นในระยสั้นของ SET Index ที่มีแนวต้านสำคัญที่ 1440 จุด จึงทำให้การปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในระยะสั้นเหนือระดับ 1430 จุดขึ้นไปมีความเสี่ยงในการถูกขายทำกำไร และมีแนวรับในระยะสั้นที่ 1420 และ 1414 จุด โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1400 จุด ถ้าปรับตัวลดลงต่อเนื่องหลุดระดับ 1395 จุดลงไป จะมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบ 1380 และ 1360 จุด
แนวต้าน : 1424 และ 1430
แนวรับ : 18 และ 1414
JAS = 5.50 / 5.60, SCI = 7.40 / 7.80, PTT = 265 / 268, TRUE = 10.50 / 10.70, AOT = 300 / 304
RS (RS TB; THB 11.30) - ซื้อ
แนวต้าน : 11.80 และ 12.30
แนวรับ : 11.20 และ 11.00
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิมแล้วสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทดสอบระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ RS โดยมีแนวรับที่ 11.20 และ 11.00 และมีแนวต้านที่ 11.80 และ 12.30 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 10.70 ลงไป
Kiattana Transport (KIAT TB; THB 0.92) - ซื้อ
แนวต้าน : 0.96 และ 0.98
แนวรับ : 0.92 และ 0.91
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังจากปรับตัวเคลื่อนไหวออกด้านข้างเหนือจุดต่ำสุดเดิม ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD เคลื่อนไหวออกด้านข้างในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้แนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 50
แนะนำซื้อ KIAT โดยมีแนวรับที่ 0.92 และ 0.91 และมีแนวต้านที่ 0.96 และ 0.98 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 0.88 ลงไป
SET50 Index Futures
S50Z15 ปรับตัวลดลงมาปิดที่บริเวณ 920 หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 930 ทะลุผ่านแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาขึ้นที่ 925 ขึ้นไปได้ แต่ไม่สามารถยืนได้อย่างแข็งแกร่ง จึงทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 915 และ 910
แนวต้าน : 922 และ 925
แนวรับ : 917 และ 915
คำแนะนำ: เราแนะนำให้รอกลับเข้าไป Open Long ใน S50Z15 ที่แนวรับ 915 เพื่อคาดหวังการฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 922-925 แต่ถ้าปรับตัวลดลงต่ำกว่า 912 ลงไปจะมีแนวรับถัดไปที่ 905
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า S50Z15 ปรับลดลงต่ำกว่า 912 ลงไป
ITDZ15
ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 9.00-9.10 ซึ่งเราแนะนำให้เน้นการขายทำกำไรสถานะ Long ออกไปก่อน เนื่องจากแนวโน้มในระยะสั้นแนวต้านสำคัญที่ 9.25-930 ตามกรอบแนวโน้มขาขึ้น โดยมีแนวรับที่ 8.70 จึงทำให้เน้นการ Open Short ที่บริเวณแนวต้าน 9.20 ขึ้นไป
แนวต้าน : 9.00 และ 9.10
แนวรับ : 8.90 และ 8.84
คำแนะนำ: เราแนะนำให้รอ Open Short ที่แนวต้าน 9.10-9.20 เพื่อคาดหวังการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 8.80
STOP LOSS สถานะ Short ถ้า ITDZ15 ปรับเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 9.32 ขึ้นไป
BLANDZ15
ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ในระยะสั้นตามกรอบแนวโน้มขาขึ้น หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นกลับขึ้นมาเคลื่อนไหวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 และ 20 วัน ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 1.58 และมีแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาขึ้นที่ 1.60-1.62
แนวต้าน : 1.55 และ 1.58
แนวรับ : 1.52 และ 1.50
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ที่แนวรับ 1.52 และ 1.50 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1.58
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า BLANDZ15 ปรับลดลงหลุด 1.49 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Themes
Sector : Bank
กลุ่มธนาคาร (-)
เราแนะนำให้ใช้จังหวะที่ราคาหุ้นกลุ่มธนาคารปรับขึ้นมาแรงในเดือนนี้ (+10.9% มาอยู่ที่ระดับ +2 s.d.) เป็นโอกาสในการขายทำกำไรหรือตัดขาดทุน (cut loss) ที่ดี โดยเรามองว่าโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำมีผลเสียมากกว่าผลดี โดยจะก่อให้เกิดผลเสียสามประการคือ 1) สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 60-70% จะถูกนำไปรีไฟแนนซ์มากกว่าจะเป็นเงินกู้ใหม่ จึงน่าจะไม่ส่งผลดีต่ออัตราการขยายตัวของสินเชื่อธนาคารอย่างเต็มที่ 2) เรามองว่าโครงการนี้อาจกระทบรายได้ดอกเบี้ยของธนาคาร เนื่องจากสินเชื่อในโครงการมีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าสินเชื่อปกติ 3) สภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นจะยังคงกดดันส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) เนื่องจากธนาคารมีต้นทุนเงินทุนสูง เรายังมองเชิงลบต่อกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทยเพราะคาดว่า ROE จะยังอยู่ในระดับต่ำเพียง 11.0-11.4% ในปี FY15-17 ขณะที่อัตราส่วน NPL มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจนถึงปีหน้าและความเสี่ยงเรื่องการตั้งสำรองฯ จะเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้มีการปรับลดประมาณการกำไร เราจึงเชื่อว่ากลุ่มธนาคารจะถูกประเมินมูลค่าอยู่ในระดับต่ำต่อไปอีก 2-3 ไตรมาส โดยเราแนะนำ ขาย BAY ราคาเป้าหมาย 29 บาท ในขณะที่หุ้นธนาคารอื่นที่เราแนะนำ ถือ แต่ราคาเกินราคาเป้าหมายที่น่าขายทำกำไรระยะสั้นประกอบด้วย BBL (ราคาเป้าหมาย 164 บาท), KKP (32 บาท), KTB (16.30 บาท), SCB (142 บาท) และ TMB (2.50 บาท)
Quantitative Analysis (QA)
KBANK ADVANC SCC PTTGC
หลังจากที่ต้นเดือนที่ผ่านมาค่าเงินบาทอ่อนค่าลงไปมากที่สุดในรอบ 6 ปี 7 เดือนที่ระดับ 36.469 บาท/ดอลลาร์ ล่าสุดค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 2 เดือนอยู่ที่ระดับ 35.162 บาท/ดอลลาร์ ส่งผลให้นักลงทุนต่างประเทศกลับเข้ามาซื้อสุทธิ 918 ล้านบาทเมื่อวานนี้ หากแนวโน้มค่าเงินบาทยังคงแข็งค่าต่อตามความคาดหวังว่าเฟดจะเลื่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปเป็นปีหน้า เราก็เชื่อว่านักลงทุนต่างประเทศอาจจะกลับมาซื้อสุทธิต่อเนื่องหรือทำการ short covering หุ้นที่มีการขายล่วงหน้าไปก่อนหน้านี้ โดยในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาหุ้นที่ถูกขาย short ออกมามากที่สุด 10 อันดับแรกได้แก่ 1. PTT (มูลค่าการขาย short 2,056 ล้านบาท), 2. KBANK (1,870 ล้านบาท), 3. PTTEP (1,280 ล้านบาท), 4. ADVANC (1,142 ล้านบาท), 5. SCC (1,082 ล้านบาท), 6. KTB (1,082 ล้านบาท), 7. TRUE (886 ล้านบาท), 8. PTTGC (799 ล้านบาท), 9. CpF (795 ล้านบาท) และ 10. SCB (679 ล้านบาท) โดยในหุ้นกลุ่มดังกล่าวมีบริษัทที่ทาง CIMBS ให้คำแนะนำ ซื้อ อยู่ 4 บริษัท ซึ่งน่าจะเป็นเป้าหมายการเข้าซื้อกลับของนักลงทุนต่างประเทศ ประกอบด้วย KBANK (เมื่อวานนี้ราคาปรับขึ้น +3.3%, ราคาเป้าหมาย 230 บาท), ADVANC (+0.9%, 278 บาท), SCC (+2.6%, 659 บาท) และ PTTGC (+1.3%, 84 บาท)
Momentum Play
CHG
เราแนะนำ ซื้อ หุ้น CHG โดยมีราคาเป้าหมาย 2.54 บาท เราได้มีการปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2016-2017 เพิ่มขึ้น 7.2-7.4% ทั้งนี้ปัจจัยหลักมาจากการปรับค่าเสื่อมราคาลดลง,ปรับรายได้ภาครัฐขึ้นจากการเปิดศูนย์เฉพาะทางเพิ่ม และการปรับเลื่อนปีฐานไปใช้ราคาเป้าหมายสำหรับปี 2016 ทำให้ราคาเป้าหมายปรับเพิ่มขึ้น จาก 2.06 บาท เป็น 2.54 บาท (อ้างอิงวิธิคิดลดกระแสเงินสด WACC 7.35%) โดยปัจจัยเร่งราคาหุ้นจะมาจาก ผลประกอบการที่แข็งแกร่งกว่ากลุ่ม และอาจมีการเข้าซื้อกิจการเพิ่มเติม เราคาดว่า CHG จะมีผลประกอบการ 3Q15F ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่ารายได้จะเติบโตราว 18%yoy และกำไรสุทธิน่าจะเติบโตราว 16%yoy และ 4%qoq อยู่ที่ 148 ล้านบาท โดยกำไรสุทธิอาจเติบโตน้อยกว่ารายได้เล็กน้อยในไตรมาสนี้ เนื่องมาจากเราคาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายบุคลากรเพิ่มขึ้นรองรับแผนการขยายในปี 2016 อย่างไรก็ตามรายได้ในไตรมาสนี้ยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งนอกจากอัตราการใช้บริการของ OPD และ IPD ที่จะยังหนาแน่นอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังมีศูนย์สวนหัวใจที่เปิดเพิ่มอีก 1 ห้อง ใน 2Q15 ที่ผ่านมา ทำให้มีห้องสวนหัวใจเพิ่มขึ้นเป็น2 ห้อง ช่วยเพิ่มรายได้ในส่วน NHSO (สิทธิ์บัตรทอง)ได้เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
Laggard Play
DTAC JAS INTUCH ADVANC SCC
หลังจากที่นักลงทุนต่างประเทศเริ่มกลับมาซื้อหุ้นไทยอีกครั้งจำนวน 918 ล้านบาทเมื่อวานนี้ ตามค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมาสูงสุดในรอบ 2 เดือน ที่ระดับ 35.162 บาท/ดอลลาร์ ทำให้มีแนวโน้มที่นักลงทุนต่างประเทศจะกลับเข้ามาซื้อสุทธิต่อเนื่องหากค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็งค่าต่อ ดังนั้นเราจึงได้ทำการศึกษาหุ้นใน SET50 (เป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่ปกติเป็นเป้าหมายการลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศเนื่องจากมีพื้นฐานดีและมีสภาพคล่องสูง) ที่ยังมีราคาปรับขึ้นช้ากว่าตลาด (SET) ที่ใน 1 เดือนที่ผ่านมาปรับขึ้นไป 4.0% โดยหุ้นที่ยัง laggard ตลาด 10 อันดับแรกประกอบไปด้วย DTAC (-10.8%), JAS (-3.5%), BH (-4.3%), INTUCH (-3.2%), BH (-2.6%), ADVANC (-2.5%), SCC (-1.6%), TTW (-0.9%), ROBINS (-0.6%) และ TU (-0.5%) โดยในหุ้นดังกล่าวที่ทาง CIMBS แนะนำ ซื้อ ประกอบไปด้วย DTAC (ราคาเป้าหมาย 94 บาท), JAS (ราคาเป้าหมาย 6.67 บาท), INTUCH (ราคาเป้าหมาย 86 บาท), ADVANC (ราคาเป้าหมาย 278 บาท) และ SCC (ราคาเป้าหมาย 659 บาท)
Analysts :
Kitichan Sirisukarcha, CFPR, +662 657-9232 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary...
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,418.07 จุด ลดลง 7.25 จุด(-0.51%) มูลค่าการซื้อขาย 22,956.11 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้มีแรงขายทำกำไรหลัง SET เปิดปรับขึ้นใกล้บริเวณ 1430 จุด การซื้อขายในช่วงเช้ามีแรงขายนำในกลุ่มธนาคาร สื่อสาร ด้านตลาดภูมิภาคปรับขึ้นเป็นส่วนใหญ่ โดยมีแรงหนุนจากตลาดหุ้นสหรัฐ หลังจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานลดลง ในสัปดาห์หน้าติดตามตัวเลข GDP Q3/15 ของจีน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และยอดขายบ้านมือ 2 ของสหรัฐฯ ผลประกอบการของกลุ่มธนาคาร
Afternoon Perspective...
แนวโน้มตลาดบ่าย คาดผันผวนในกรอบ หลังช่วงเช้า SET ถูกกดดันจากแรงขายทากำไรหลังวานนี้ปรับขึ้นแรง ตลาดช่วงบ่ายน่าจะยังปรับฐาน มองแนวรับระยะสั้น 1415-1410 จุด แนวต้าน 1420-1425 จุด อย่างไรก็ตาม SET ยังมีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้าน 1430-1440 จุด ขณะที่แนวรับสำคัญยังอยู่บริเวณ 1400 จุด
Fundamental Picks & Technic (PM) ...
RS (RS TB; THB 11.30) - ซื้อ
Kiattana Transport (KIAT TB; THB 0.92) - ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]