- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 15 October 2015 15:53
- Hits: 937
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
คาด SET ยังแกว่งบวก/ลบ ก่อนบวกต่อ ดังนั้นทยอยซื้อลบ...
กลยุทธ์ : แม้ว่า SET ยังมีจังหวะแกว่งบวกให้เห็น แต่คาดว่ามีลุ้นปรับพักตัวลงต่ออีกสักพัก ก่อนลุ้นแรงซื้อดันกลับขึ้นรอบใหม่ ซึ่ง FSS ประเมินระดับดัชนีตามพื้นฐานปีนี้ไว้ที่ 1450 จุด ดังนั้นแนะนำเลือกหุ้นทยอยเข้าซื้อช่วง SET ลบ แล้วเน้นถือเพื่อรอรอบกลับไปขยับบวกใหม่ในช่วงถัดไปได้
หุ้นเด่นทางเทคนิค : JWD, NOK, TICON(short)
แนวโน้ม : เมื่อวานนี้ SET สามารถแกว่งตัวในด้านบวกได้แข็งแรงกว่าตลาดหุ้นภูมิภาคในระหว่างวัน เป็นเพราะมีแรงซื้อในหุ้น BAY ซึ่งช่วงหลังมีหุ้นกระจายในตลาดค่อนข้างน้อย แต่มีผลต่อการคำนวณดัชนีพอควร ในขณะที่หุ้นหลักอื่นๆ ไม่ได้มีแรงซื้อเข้ามามากนัก โดยดูได้จากการแกว่งตัวของ SET50 และ SET100 ที่เคลื่อนไหวอ่อนแอกว่า และสุดท้ายยังมีแรงขายออกมากดดันให้ SET ย้อนปิดเป็นลบต่อเนื่องด้วย ทำให้ FSS ยังคาดว่า SET มีแนวโน้มที่จะยังอยู่ในช่วงแกว่งพักตัวลงก่อนมากกว่าอยู่ โดยเช้านี้น่าจะมีแรงกดดันจากการปรับตัวลงของตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปเมื่อคืนนี้อีก หลังจากวอลมาร์ท สโตร์ อิงค์ ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกของสหรัฐได้ประกาศปรับลดแนวโน้มยอดขายปีนี้ลง อย่างไรก็ตามการเปิดเป็นบวกได้ดีของตลาดหุ้นในเอเชียน่าจะช่วยหนุนให้ SET ยังมีลักษณะแกว่งตัวบวก/ลบในกรอบจำกัดได้ และสุดท้ายแล้ว FSS ยังคาดหมายโอกาสกลับไปแกว่งบวกต่อเนื่องในช่วงถัดไปอยู่ จากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่เริ่มทรงตัว และแรงซื้อลุ้นโอกาสฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจไทย จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ดังนั้นเรายังแนะนำให้เลือกหุ้นทยอยเข้าซื้อช่วง SET เป็นลบได้เช่นเดิม
แนวรับ 1402-1398 , 1394-1384 จุด
แนวต้าน 1407-1410 , 1412-1414 , 1418-1420 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคเป็นวันแรกในรอบ 8 วันราว US$200 ล้าน ส่วนใหญ่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$113.4 ล้าน และไต้หวัน US$62.3 ล้าน รวมถึงไทย US$26 ล้าน ไหลเข้าเวียดนามประเทศเดียว US$2 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนชะลอการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงและหันความสนใจออกจากประเด็นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐมาติดตามการประกาศผลประกอบการของบจ.ประจำ 3Q15 และตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) ยอดส่งออกรถเดือน ก.ย. สูงสุดในรอบ 7 เดือนเป็น 171,496 คัน เพิ่มขึ้น 4.4% Y-Y และ 7.5% M-M เป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 จากการส่งออกรถอีโคคาร์ไปยังยุโรปและอเมริกาเหนือ และรถกระบะโตโยต้ารีโว้ประสบความสำเร็จในการทำตลาดที่ตะวันออกกลาง ส่วนยอดขายในประเทศยังลดลงต่อเนื่อง 10.1% Y-Y และ 0.2% M-M จากกำลังซื้อที่ชะลอตัวตามราคาสินค้าเกษตร และการรอมาตรการของภาครัฐว่าจะมีออกมาก่อนที่ภาษีสรรพสามิตรถใหม่จะบังคับใช้ในปีหน้าหรือไม่ เราแนะนำซื้อสะสมหุ้นที่กำไร 3Q15 ออกมาดีทั้ง Y-Y, Q-Q คือ SAT (ราคาเป้าหมาย 21 บาท) และ EPG (ราคาเป้าหมาย 12 บาท)
(0) คาดเบื้องต้นว่ากำไร 3Q15 ลดทั้ง Q-Q, Y-Y แต่ตลาดมองข้ามไปแล้ว เราประเมินผลประกอบการ 3Q15 ของหุ้นที่อยู่ใน FSS Coverage เบื้องต้นพบว่า กำไรสุทธิลดลง 18% Q-Q และ 16% Y-Y ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ซึ่งมี Stock loss ในไตรมาสนี้ รองลงมาคือกลุ่มรับเหมา วัสดุก่อสร้าง ค้าปลีก เพราะ 3Q เป็น Low season และกลุ่มแบงก์ ส่วนกลุ่มที่กำไรเติบโตดีได้แก่กลุ่มโรงพยาบาล อิเล็กทรอนิคส์ และกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณภาครัฐ (เร่งเบิกจ่ายงบฯ) เช่น LIT, SAMART, SAMTEL
(+) FSMART เราคาดกำไร 3Q15 โตต่อเนื่อง 6% Q-Q และก้าวกระโดด 102% Y-Y จากยอดการเติมเงินผ่านตู้เติมเงิน “บุญเติม” เพิ่มตามจำนวนตู้ที่เพิ่มขึ้น แนวโน้มกำไรจะยังดีต่อเนื่องใน 4Q15 ซึ่งทำให้กำไรทั้งปี 2015 น่าจะโตได้ถึง 78.6% Y-Y และด้วยศักยภาพในการขยายจำนวนตู้เติมเงินที่สูง และการพัฒนาผลิตภัณฑ์บริการใหม่ๆ ทำให้คาดกำไรในช่วง 3 ปีข้างหน้า (2015-17) จะเติบโตเฉลี่ยถึง 32% ต่อปี ซึ่งจะทำให้ PE ที่สูง 41.1 เท่าในปีนี้ลดลงอย่างรวดเร็วเหลือ 29.2 เท่าในปีหน้า เราปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2016 ที่ 16 บาท (DCF) ยังคงแนะนำซื้อ
(+) TISCO จากการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ มุมมองของเรายังไม่เปลี่ยน คือไม่คาดหวังกับกำไรใน 4Q15 (ซึ่งคาดว่าทรงตัว Q-Q) และสินเชื่อในปี 2016 ยังไม่ขยายตัว ซึ่งทำให้ TISCO ไม่จำเป็นต้องเก็บเงินกองทุนไว้มากๆเพื่อขยายธุรกิจในปีหน้า เงินปันผลที่จะจ่ายจากผลประกอบการในปีนี้จึงน่าจะเท่าปีก่อนคือ 2 บาท/หุ้น เรายังคงแนะนำซื้อลงทุน โดยมีจุดเด่นเรื่อง Dividend yield 5.4% สูงสุดในกลุ่ม ราคาเป้าหมายปี 2016 ที่ 42.70 บาท
(+) กลุ่มที่คาดว่ากำไรใน 3Q15 จะทำ new high ในรอบกว่า 5 ปีได้แก่ BH, BIG, CSS, EPG, FSMART, LIT, KCE, MTLS, TASCO
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมายังปรับตัวลดลงต่อเนื่องหลัง Wal-Mart ประกาศปรับลดยอดขายในปีนี้ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญหลายตัวออกมาต่ำกว่าคาด
(-) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมายังปิดในแดนลบต่อเนื่องโดยนักลงทุนยังคงกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว
(+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในแดนบวกได้สวนทางตลาดหุ้นในภูมิภาคอื่น โดยคาดหวังมากขึ้นว่า FED จะเลื่อนการขึ้นดอกเบี้ยออกไปหลังตัวเลขเศรษฐกิจออกมาน่าผิดหวัง รวมถึงธนาคารกลางในภูมิภาคหลายแห่งที่อาจมีมาตรการผ่อนคลายมากขึ้น
(+) ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าแรงอีกครั้งโดยล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 35.00-35.30 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ย. ปิดที่ 46.64 ดอลลาร์/บาร์เรล ขยับลง 0.02 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยการผลิตน้ำมันในสหรัฐฯที่ลดลงถูกหักล้างไปกับความกังวลเรื่องอุปทานน้ำมันโลกที่ล้นตลาด
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดที่ 1,179.80 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 14.40 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาต่ำกว่าคาดรวมถึงตลาดหุ้นที่ร่วงลง ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
15-ต.ค. - เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BOK) ประชุม
- อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI) ประชุม
- สหรัฐ: Fed Beige Book, อัตราเงินเฟ้อ (ก.ย.)
16 ต.ค. - ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (ก.ย.)
19-21 ต.ค. - ไทย: กลุ่มธนาคารรายงานผลประกอบการ 3Q15
19 ต.ค. - ไทย: DTAC ประกาศผลประกอบการ 3Q15
- จีน: 3Q15 GDP, Industrial Production (ก.ย.), ยอดค้าปลีก (ก.ย.)
20 ต.ค. - ไทย: ยอดขายรถ (ก.ย.)
- สหรัฐ: Housing starts, Building permits (ก.ย.), Fed's Dudley and Powell Speak at Market Conference in New York
21 ต.ค. - ฮ่องกง: ตลาดหุ้นปิดทำการ เนื่องในวัน Chung Yeung Festival
22-ต.ค. - อินเดีย: ตลาดหุ้นปิดทำการ เนื่องในวัน Dussehra
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านเก่า (ก.ย.)
- ยูโรโซน: ECB ประชุม, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ต.ค.)
23-ต.ค. - ไทย: ตลาดหุ้นปิดทำการ
- เกาหลีใต้: 3Q15 GDP
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ต.ค.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265 Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch