- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 14 October 2015 20:55
- Hits: 1165
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
สวนกระแส?
คาดหุ้นไทยวันนี้น่าจะปิดบวกเล็กน้อย สวนกระแสหุ้นโลกและภูมิภาคที่เปิดลบตามตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืน มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจล่าสุดของรัฐบาลช่วยหนุนภาคอสังหาริมทรัพย์ และเศรษฐกิจโดยรวมพอสมควรทีเดียวในขณะที่ภายนอกประเทศ ตัวเลขส่งออกและนำเข้าจีนที่ทั้งดีและไม่ดีทำให้เกิดความไม่แน่นอน รวมทั้งความเห็นต่างภายใน Fed เรื่องเวลาการขึ้นดอกเบี้ย ถือเป็นข้อจำกัดการปรับตัวขึ้นของหุ้นไทย
หุ้นเด่นวันนี้ : BA (ราคาปิด 20.30 บาท, NR, ราคาเป้าหมาย Bloomberg 25.67 บาท)
บมจ. การบินกรุงเทพ เป็นหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการภาคการท่องเที่ยวของไทยยังมีแนวโน้มสดใสและยุทธศาสตร์ของรัฐบาลที่จะกระตุ้นการท่องเที่ยวต่อเนื่องยังปีหน้า ในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 58 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาประเทศไทยเติบโต 28% YoY มาอยู่ที่ 22.1 พันล้านคน ผลประกอบการงวดไตรมาส 3/58 ยังน่าจะเป็นไตรมาสที่ดีของบริษัทอีกไตรมาสหนึ่งเนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของเส้นทางสมุยเนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดยาวของยุโรป ราคาน้ำมันเจ็ทที่ปรับลดลงถึง 48% YoY ในระหว่างไตรมาสนี้จะมีส่วนช่วยให้อัตราการทำกำไรของบริษัทดียิ่งขึ้น ในปี 58 นี้ บริษัทตั้งเป้าหมายจำนวนผู้โดยสารอยู่ที่ 6 ล้านคน (เพิ่มขึ้น 25% YoY) และอัตราบรรทุกผู้โดยสารที่ 70% (เทียบกับ 65% ในปี 57) ในครึ่งหลังปี 58 BA วางแผนที่จะเพิ่มเที่ยวบินร่วมกับสายการบินอื่นอย่างน้อย 5 สายการบินและเพิ่มจำนวนเครื่องบินอีก 3 ลำ อีกทั้ง พันธมิตรปัจจุบันของบริษัทจะเปลี่ยนประเภทของเครื่องบินขนาดใหญ่ขึ้นในการบินจากสนามบินหลัก 3 แห่ง (กรุงเทพฯ กัวลาลัมเปอร์ และสิงคโปร์) ซึ่งจะช่วยเพิ่มจำนวนที่นั่งผู้โดยสารประมาณ 26% และหมายถึงจำนวนผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นสำหรับบริษัทด้วย ตามประมาณการใน Bloomberg consensus คาดว่ากำไรงวดปี 58 จะเพิ่มขึ้นถึง 478% ในปีนี้จากฐานที่ต่ำในปีก่อนหน้า และเติบโตลดลงเป็น 28% ในปีหน้า Price Pattern ของ BA เกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นในระยะสั้นโดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 20.70 บาท ก่อนทดสอบเป้าหมายสำคัญที่ 21.10 บาท และ 21.50 บาท แต่ราคาหุ้นยังอาจถูกกดดันในระยะกลางจาก Weekly & Monthly Sell Signal (แนวต้าน: 20.50, 20.80, 21.10; แนวรับ : 20.70, 19.70, 19.40)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
5 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครม.วานนี้ได้เห็นชอบร่างของก.คลัง 5 มาตรการได้แก่ 1) ลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 23% เป็น 20% เป็นการถาวร 2) ยกเว้นภาษีเงินได้และปันผล 10 ปีสำหรับธุรกิจร่วมทุนกับรัฐบาล 3) ลดค่าธรรมเนียมการโอนอสังหาริมทรัพย์จาก 2% เป็น 0.01% และค่าจดจำนองจาก 1% เป็น 0.01% เป็นเวลา 6 เดือน 4) ให้งบ 1 หมื่น ลบ.แก่ธนาคารอาคารสงเคราะห์เพื่อให้กู้บ้านแก่ผู้มีรายได้น้อย 5) บ้านหลังแรกมูลค่าต่ำกว่า 3 ล้านบาท ให้นำ 20% ของมูลค่าบ้านมาลดฐานภาษีในช่วง 5 ปีข้างหน้า (The Nation)
กทค.ให้ประมูล 900 MHz ใน พ.ย. ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมเห็นชอบให้ประมูลคลื่น 900 MHz จำนวนสองใบอนุญาตในวันที่ 12 พ.ย. หรือ 1 วันหลังจากประมูลคลื่น 1800 MHz (Bangkok Post) ความเห็น: การเลื่อนประมูลให้เร็วขึ้นน่าจะเอื้อประโยชน์แก่ค่ายมือถือโดยเฉพาะบริษัทที่ขาดคลื่นอยู่ ก็คือ ADVANC (237 บาท, ราคาเป้าหมาย 271 บาท) นอกจากนี้จะยังช่วยให้ค่ายมือถือบริหารต้นทุนและเบอร์โทรที่ยังเหลือในระบบสัมปทานภายใต้มาตรการเยียวยาได้มีประสิทธิภาพขึ้นด้วย
ร่างกฎหมายใหม่อนุญาตนายกที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ได้กล่าวว่าบุคคลภายนอกอาจจะสามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ต้องได้รับการรับรองจากสภาผุ้แทนราษฎร์ (Bangkok Post)
NPLs อาจจะเพิ่มขึ้น ตามรายงานของสแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ส (S&P) คาดว่าหนี้เสียของธนาคารพาณิชย์จะเพิ่มขึ้น 0.8 จุดเป็น 3.3% ภายในสิ้นปีนี้ จากปัญหาคุณภาพเครดิตของผู้กู้ที่เป็น SMEs และรายย่อยซึ่งจะยังคงกดดันในอีก 12-18 เดือนข้างหน้า ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการปรับโครงสร้างหนี้ของบริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด หรือ SSI (Bangkok Post)
ต่างประเทศ :
ข้อมูลการค้าจีนออกมาทั้งบวกและลบ มูลค่าการนำเข้าของจีนในเดือนก.ย. ร่วงลงหนักส่วนมูลค่าการส่งออกลดลงน้อยกว่าที่คาดไว้ ทำให้นักเศรษฐศาสตร์แบ่งฝ่ายว่ากิจการการค้าที่อ่อนแอของจีนกำลังแสดงสัญญาณการกลับตัวหรือไม่ ข้อมูลดังกล่าวไม่เพียงพอที่จะระบุว่าเศรษฐกิจจีนมีความเสี่ยงที่จะร่อนลงแบบกระแทกพื้น (hard landing) แต่ได้เพิ่มความคาดหวังว่าจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในไม่ช้านี้ มูลค่าการส่งออกลดลง 3.7% YoY น้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 6.3% และลดลงน้อยกว่าตัวเลขในเดือนส.ค. ที่ลดลง 5.5% อย่างไรก็ตาม มูลค่าการนำเข้าร่วงลงเป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกัน ลดลงกว่า 20% YoY เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ตกต่ำและความต้องการภายในประเทศที่ลดลง นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ามูลค่าการนำเข้าจะลดลง 15% หลังจากที่ลดลง 13.8% ในเดือนส.ค. ถึงกระนั้น จีนประกาศยอดเกินดุลการค้าจำนวน 6.034 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนก.ย. สูงกว่าตัวเลขที่คาดการณ์ไว้ที่ 4.68 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐและเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากตัวเลขในเดือนส.ค.ที่ 6.024 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (Reuters)
ราคาพันธบัตรสหรัฐเพิ่มขึ้นหลังจากการประกาศข้อมูลทางการค้าของจีน ส่วนความคาดหวังต่อว่าเฟดจะเลื่อนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปภายหลังได้ช่วยพยุงราคาพันธบัตรขึ้นเช่นกัน ราคาพันธบัตรอายุ 30 ปีสหรัฐล่าสุดขึ้นมา 29/32 ให้อัตราผลตอบแทนที่ 2.8827% จากเดิมที่ 2.928% เมื่อวันศุกร์ Benchmark ของพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ล่าสุดขึ้นมา 16/32 ให้อัตราผลตอบแทนที่ 2.0439% จากเดิมที่ 2.099% เมื่อวันศุกร์ ตลาดพันธบัตรสหรัฐปิดทำการเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา(Reuters)
ดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐลดลงน้อยกว่า 0.1% และก่อนหน้านั้นได้แตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 1 เดือน เงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.2% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐอยู่ที่ 1.1381 ดอลลาร์สหรัฐและเงินเยนแข็งค่าขึ้น 0.2% อยู่ที่ 119.76 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีหุ้นในตลาดวอลล์สตรีทปรับตัวลงพอสมควรเมื่อวันอังคาร ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลงสิ้นสุดการเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 7 วัน จากความกลัวที่กลับมาใหม่เกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว ความกังวลเกี่ยวกับรายงานผลประกอบการไตรมาส 3/58 และแรงเทขายหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพ (Reuters)
เฟดแบ่งช่วงเวลาการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ นาย Daniel Tarullo ได้กล่าวเมื่อวันอังคารว่าเฟดไม่ควรจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ก่อนหน้านี้ ประธานเฟด นางเจเน็ต เยลเล็นและรองประธาน คณะผู้ว่าเฟด นาย Stanley Fischer ได้กล่าวว่าพวกเขาสนับสนุนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ แต่มีกลุ่มผู้กำหนดนโยบายเฟดที่สามารถออกเสียงได้ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นเตือนว่าความกลัวเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกอาจมีน้ำหนักอย่างมากต่อเศรษฐกิจสหรัฐ (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันอังคารปรับตัวลดลง จากข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่อ่อนแอซึ่งทำให้ราคาหุ้นกลุ่มยานยนต์และกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวลดลง ทั้งนี้ราคาหุ้น SABMiller ปรับตัวสูงขึ้นหลังจากที่ยอมรับข้อเสนอการเข้าซื้อกิจการจากบริษัทคู่แข่ง Anheuser-Busch InBevขณะที่ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป (ZEW) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนและนักวิเคราะห์ในเยอรมนีที่มีต่อสภาพเศรษฐกิจของประเทศ ร่วงลงในเดือน ต.ค. ทำระดับต่ำสุดในรอบปี (Reuters)
เอเชีย :
สมาชิก 4 จาก 11 หน่วยงานให้คำปรึกษาของรัฐบาลญี่ปุ่นเรียกร้องให้มีการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล รวมไปถึงการกระตุ้นการใช้จ่ายเงินลงทุนและปรับเพิ่มค่าแรงเพื่อกระตุ้นการเติบโตเศรษฐกิจ ทั้งนี้ข้อเสนอดังกล่าวจะยื่นให้รัฐบาลพิจารณาในวันศุกร์นี้ (Reuters)
จับตาข้อมูลเศรษฐกิจจีน ได้แก่ ตัวเลข CPI/PPI ในวันนี้ (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
น้ำมันพุ่งขึ้นช่วงแรก แต่ทรุดลงหลัง IEA มีมุมมองลบ กำไรจากราคาน้ำมันดิบในช่วงต้นวันได้ถูกล้างไปหมด Brent ปิดลง 1.2% เหลือ 49.24 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังพุ่งขึ้นถึง 1.7% WTI ลง 0.9% ปิดที่ 46.66 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังพุ่งขึ้นไป 2.8% โดยทั้งสองร่วงลงไปกว่า 5% ในวันจันทร์ การเติบโตของอุปสงค์ที่ต่ำในปีหน้าและอุปทานที่มากขึ้นจากอิหร่านหากการเลิกคว่ำบาตรเตหรานน่าจะทำให้ตลาดน้ำมันยังคงมีอุปทานล้นเกินตลอดปี 59 IEA ระบุ (Reuters)
ทองขึ้นวันอังคาร ฟื้นตัวหลังลงไป 1% จากการคาดว่า Fed จะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐในปีนี้ กดดันค่าดอลลาร์ลงไปจุดต่ำสุดรอบ 3 สัปดาห์เมื่อเทียบยูโร ทองคำตลาดจรปรับขึ้น 0.2% มาอยู่ที่ 1,165.91 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ทองคำล่วงหน้าส่งมอบ ธ.ค. ปรับขึ้น 90 เซนต์ มาอยู่ที่ 1,165.40 ดอลลาร์สหรัฐ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094