- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 14 October 2015 20:51
- Hits: 829
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวโน้มขึ้นทดสอบ 1430-1440
SET Index: 1409.76 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคเหนือระดับ 1400 จุด หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนรับสำคัญเมื่อวาน แต่เนื่องจากการฟื้นตัวที่มีมูลค่าการซื้อขายที่ค่อนข้างเบาบาง จึงทำให้การฟื้นตัวน่าจะอยู่ในกรอบจำกัดที่ 1414 และ 1420 จุด และมีแนวรับสำคัญที่ 1400 จุด ถ้าปรับตัวลดลงต่อเนื่องหลุดระดับ 1395 จุดลงไป จะมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบ 1380 และ 1360 จุด
แนวต้าน : 1414 และ 1418
แนวรับ : 1408 และ 1404
JAS = 5.45 / 5.55, PTT = 262 / 265, SCI = 7.10 / 7.20, ORI = 11.20 / 11.50, TRUE = 10.50 / 10.70
Samart Corporation (SAMART TB; THB 23.60) – ซื้อ
แนวต้าน : 25.00 และ 26.00
แนวรับ : 23.60 และ 23.50
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้าง เพื่อสร้างฐานในระยะสั้น ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือเหนือแนวโน้มลงต่อเนื่อง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ SAMART โดยมีแนวรับที่ 23.60 และ 23.50 และมีแนวต้านที่ 25.00 และ 26.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 23.00 ลงไป
Wha Corpoation (WHA TB; THB 3.32) – ซื้อ
แนวต้าน : 3.50 และ 3.58
แนวรับ : 3.32 และ 3.30
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวเคลื่อนไหวออกด้านข้างเหนือเส้นแนวโน้มขาลง ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ WHA โดยมีแนวรับที่ 3.32 และ 3.30 และมีแนวต้านที่ 3.50 และ 3.58 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 3.24 ลงไป
SET50 Index Futures
S50Z15 เคลื่อนไหวออกด้านข้างในกรอบ 908-916 หลังจากถูกขายทำกำไรที่บริเวณแนวต้านสำคัญ 918-920 แต่ยังสามารถยืนเหนือระดับ 907 ได้ต่อเนื่อง จึงทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 920-925 แต่ถ้าปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 905 จะเป็นสัญญาณขายทางเทคนิค
แนวต้าน : 915 และ 918
แนวรับ : 910 และ 908
คำแนะนำ: เราแนะนำให้กลับเข้าไป Open Long ใน S50Z15 ที่แนวรับ 910 เพื่อคาดหวังการฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 920 และ 925 แต่ถ้าปรับตัวลดลงต่ำกว่า 905 ลงไปจะมีแนวรับถัดไปที่ 890
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า S50Z15 ปรับลดลงต่ำกว่า 905 ลงไป
KTBZ15
ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาลงที่ 17.80 ขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 18.00 ทำให้แนวโน้มหลักมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 18.20 และ 18.50 หลังจากทะลุผ่านแนวโน้มขาลงขึ้นไปได้ และมีแนวรับสำคัญที่ 17.75 ถ้าหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 17.60
แนวต้าน : 17.96 และ 18.08
แนวรับ : 17.80 และ 17.75**
คำแนะนำ: กลับเข้าไป Open Long ที่แนวรับ 17.80 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 18.20 และ 18.50
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า KTBZ15 ปรับลดลงหลุด 17.75 ลงไป
ITDZ15
ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 9.00 ซึ่งเราแนะนำให้เน้นการขายทำกำไรสถานะ Long ออกไปก่อน เนื่องจากแนวโน้มในระยะสั้นแนวต้านสำคัญที่ 9.20 จึงทำให้การปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 9.00 ขึ้นไป ควรเน้นการขายทำกำไร เพื่อรอ Open Short ที่บริเวณแนวต้าน 9.20
แนวต้าน : 9.00 และ 9.08
แนวรับ : 8.85 และ 8.80
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ขายสถานะ Long ที่แนวต้าน 9.00 และ 9.10 แต่ถ้าปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบ 9.20 ควรเน้นการ Open Short
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า ITDU15 ปรับลดลงหลุด 8.60 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 -[email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...กรอบขึ้นยังจำกัด
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนี SET ปรับตัวขึ้นมาเกือบ 5% จากแรงหนุนของดัชนีในภูมิภาคและแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ เรามองว่าดัชนีในสัปดาห์นี้จะเริ่มผันผวนมากขึ้นหลังงบ Q3/15 ของธนาคารใหญ่รวมทั้งบริษัทขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทยอยประกาศ โดยความผันผวนที่เกิดขึ้นคาดจะยังไม่แรง เนื่องจากยังมีแรงหนุนจากภาพใหญ่ที่มองกันว่าตลาดหุ้นสหรัฐและทั่วโลก น่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว อย่างไรก็ตามความผันผวนที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นปัจจัยที่จะทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกจะเริ่มเข้าสู่ภาวะทรงตัวและซึมไปอีกสักพัก จนกว่าจะเห็นปัจจัยหนุนใหม่ๆ อย่าง ตัวเลขเศรษฐกิจในจีน ผลการดำเนินงานในสหรัฐหรือราคาน้ำมัน
แรงหนุนที่เกิดขึ้นในระดับภูมิภาค คาดจะส่งผลด้านบวกกับตลาดหุ้นไทยในระยะสั้น ซึ่งถือว่าดี ดังนั้นหลังจากนี้ปัจจัยที่จะหนุนให้ดัชนี SET ขึ้นต่อต้องมาจากภายในประเทศเข้ามาเสริม อย่าง ผลการดำเนินงาน Q3/15 กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ตัวเลขเศรษฐกิจและมาตรการกระตุ้นใหม่ๆของรัฐบาล เพราะเม็ดเงินไหลเข้าจากต่างชาติที่เข้ามาเป็นแค่การเข้าเก็งกำไร จากการที่มองว่า FED ยังไม่รีบขึ้นดอกเบี้ยและตลาดหุ้นจีนเริ่มทรงตัว ส่วนตลาดหุ้นอาเซียนก็น่าจะเริ่มยืนนอกนั้นเกิดจากการมองถึงกำไรของตลาดรวมของไทยโดยเปรียบเทียบ เริ่มน่าสนใจ หลังการประเมินตลาดหุ้นในสหรัฐ ญี่ปุ่นหรือแม้แต่ยุโรป เริ่มอิ่มตัว หรือมองไปไกลกว่านั้นคือ วิกฤติที่เกิดในเอเชียในปัจจุบัน ไม่ร้ายแรงอย่างในปี 1997-1998 ขณะที่ค่าเงินและดัชนีตลาด ปรับตัวลงไปใกล้เคียงกับปีดังกล่าว
เรามองว่ารูปแบบการเคลื่อนไหวของดัชนี SET ในกลางถึงปลาย ต.ค.จะยังเกาะติดกับรูปแบบการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นหลักอย่างสหรัฐ เนื่องจากตลาดยังจับตาดูแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐว่าจะเกิดในปีนี้หรือปีหน้า หากเกิดสัญญาณที่ชัดเจนว่าจะขึ้นในปีหน้า คาดดัชนี SET จะยังขึ้นตามดัชนีในภูมิภาค แต่หากปรับขึ้นในเดือน ต.ค. หรือ ธ.ค. แนวโน้มการปรับตัวขึ้นของดัชนีในภูมิภาคจะเริ่มชะลอตัวลง โดยตัวแปรหลักอยู่ที่ตัวเลขเศรษฐกิจจีน
เมื่อทิศทางการไหลเข้าเม็ดเงินต่างชาติยังเป็นช่วงสั้นๆ ประกอบกับแรงหนุนภายในอย่างตัวเลขเศรษฐกิจและผลดำเนินงาน Q3 ยังไม่ดีขึ้น ส่งผลให้กรอบการขึ้นของดัชนี SET อยู่ในวงจำกัด โดยในรอบนี้ ดัชนี SET กำลังขึ้นมาทดสอบที่ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานที่ +2 (+2 s.d.) การที่จะผ่านตรงนี้ได้ต้องเกิดแรงซื้อหนักๆ เข้ามา ซึ่งตอนนี้ยังมองไม่เห็น (ดูรูปด้านซ้าย) ส่วนรูปด้านขวา เราแสดงสัญญาณทาง Momentum ของตลาด ซึ่งตอนนี้คาดว่าน่ายังสามารถขึ้นไปอยู่ในแดนบวกได้ แต่น่าจะไม่แรงอย่างปี 2011 ที่เกิดน้ำท่วมใหญ่กรุงเทพ
กลุ่มที่ยังพอลงทุนได้ในช่วงระดับดัชนีเหนือ 1400 จุด ยังคงเป็นกลุ่มที่ขึ้นได้ไม่มากและมีปัจจัยหนุนอย่าง อสังหาริมทรัพย์สร้างบ้าน (LH SPALI PS) อาหาร (CPF) สื่อสาร (ADVANC JAS) หรือแม้แต่กลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่คาดว่าผลดำเนินงานจะยังออกมาดีอย่าง TMB BAY TCAP วันนี้คาดดัชนีจะค่อยๆ สร้างฐานขึ้นมาใหม่หลังปรับฐานระหว่างวันเมื่อวานนี้ แม้ดัชนีในต่างประเทศจะปรับตัวลง แต่ดัชนีหุ้นไทยคงจะสวนทางขึ้นไปได้จากแรงหนุนมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ วันนี้มองแนวต้านที่ 1412-1417 จุด ส่วนแนวรับที่ 1400-1395 จุด
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 -[email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary...
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,409.76 จุด เพิ่มขึ้น 3.07 จุด(+0.22%) มูลค่าการซื้อขาย 16,441.64 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นในกรอบ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เพิ่ม ขณะที่มีแรงขายจากกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันปรับตัวลง ด้านตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่เป็นลบ เนื่องจากนักลงทุนกังวลการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน หลังตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ก.ย. ชะลอตัว
Afternoon Perspective...
แนวโน้มตลาดบ่าย แกว่งตัวขึ้นต่อ ภาพรวมตลาดยังดูดีต่อเนื่อง และยังไม่มีปัจจัยลบหนักๆ เข้ามากระทบ อย่างไรก็ตามการซื้อขายจะเน้นมาที่หุ้นขนาดกลาง-เล็กไปก่อนเพื่อรอให้ตลาดสร้างฐานที่ระดับ 1400 จุดให้แข็งแรงมากขึ้น ก่อนที่จะมีการดีดตัวขึ้นอีกครั้ง โดยจะมีแนวต้านที่ 1424 จุดเป็นแนวต้านสำคัญ หากทะลุไปได้ก็มีโอกาสจะเห็น SET ดีดตัวเข้าทดสอบแนวต้านใหญ่ที่ 1460 จุด ซึ่งเป็นระดับค่าเฉลี่ย 200 วัน โดยหุ้นกลาง-เล็กที่เราชอบ ช่วงนี้ คือ EPG BA SAMTEL IRPC DCC COM7
Fundamental Picks & Technic (PM) ...
Turnover List preview (Cash Balance) : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสติด Cash Balance สัปดาห์หน้า : GUNKUL-W, CPR*, JWD* (* ดูรายละเอียดของเงื่อนไขในบทวิเคราะห์ และกรณีหุ้นแม่ติด ฯ Warrant ทุกตัวของหุ้นนั้นจะติดตามด้วย)
Samart Corporation (SAMART TB; THB 23.60) - ซื้อ
Wha Corpoation (WHA TB; THB 3.32) - ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]