- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 14 October 2015 20:39
- Hits: 904
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
หลังขึ้นมาแรงจึงปรับพักตัว ก่อนบวกต่อ ดังนั้นทยอยซื้อลบ...
กลยุทธ์ : คาดว่า SET อยู่ระหว่างปรับพักตัวลงในระยะสั้น โดยมีกรอบลบจำกัด และสุดท้ายยังมีสิทธิพลิกกลับไปแกว่งบวกต่อได้อีกครั้ง ซึ่ง FSS ประเมินระดับดัชนีตามพื้นฐานปีนี้ไว้ที่ 1450 จุดอยู่ ดังนั้นยังสามารถเลือกหุ้นทยอยเข้าซื้อช่วงลบ แล้วเน้นถือเพื่อรอรอบกลับไปขยับบวกใหม่ได้
หุ้นเด่นทางเทคนิค : KAMART, TPOLY, MAJOR(short)
แนวโน้ม : SET เริ่มมีจังหวะพักตัวย้อนลบ หลังจากวันก่อนดัชนีเริ่มแกว่งตัวผันผวนและอ่อนตัวลงบ้าง เนื่องจากตลาดขยับขึ้นมาค่อนข้างแรงพอควรแล้วในสัปดาห์ก่อน ขณะที่นักลงทุนยังมีความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจโลกอยู่ หลังทางการจีนเปิดเผยตัวเลขการค้าที่ซบเซา โดยยอดนำเข้า-ส่งออกของจีนร่วงลงอย่างหนักในเดือน ก.ย. ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้กลับมาปิดเป็นลบ กดดันให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ก็เปิดเป็นลบด้วยเช่นกัน ประกอบกับยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดที่ยังส่งสัญญาณขัดแย้งกันอยู่ นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็ยังอ่อนแอลงต่อเนื่อง หลังจากสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) คาดการณ์ว่าตลาดน้ำมันโลกจะยังคงประสบกับภาวะน้ำมันล้นตลาดจนถึงปีหน้า ทำให้ FSS คาดว่า SET ยังมีแนวโน้มที่จะปรับพักตัวลงต่อได้อีก อย่างไรก็ตามเรายังคาดว่าจะมีแรงซื้อกลับเข้ามาช่วยหนุน เพื่อลุ้นโอกาสฟื้นตัวได้ดีขึ้นของภาวะเศรษฐกิจไทย จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐได้ ดังนั้นช่วงนี้กรอบลบของ SET น่าจะค่อนข้างจำกัดและสุดท้ายยังลุ้นกลับไปแกว่งบวกได้ต่อ
แนวรับ 1403-1398 , 1394-1384 จุด
แนวต้าน 1408-1412 , 1415-1418 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคแต่เบาบางลงเหลือ US$114 ล้าน โดยไหลเข้าเพียงเกาหลีใต้ US$92 ล้าน และไต้หวัน US$77 ล้าน ขณะที่เริ่มไหลออก TIP เป็นวันแรกในรอบเกือบ 2 สัปดาห์รวม US$52 ล้าน นำโดยอินโดนีเซีย US$25.6 ล้าน และฟิลิปปินส์ US$24.3 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนเริ่มกลับมาให้ความสนใจต่อข้อมูลเศรษฐกิจจีนสัปดาห์นี้หลายรายการซึ่งอาจยังส่งสัญญาณชะลอตัว
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) ความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกยังอยู่ วานนี้จีนรายงานตัวเลขนำเข้าเดือน ก.ย. ลดลงมากถึง 17.7% Y-Y ลดมากกว่าตลาดคาดและมากกว่าเดือนก่อนหน้า ส่วนเช้านี้จีนประกาศเงินเฟ้อเดือน ก.ย. ขยับขึ้นเพียง 1.6% ต่ำกว่าคาด ส่วนเงินเฟ้อผู้ผลิต (PPI) หดตัว 5.9% ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 43 สะท้อนการบริโภคที่ชะลอมาก ส่วนสิงคโปร์รายงาน GDP 3Q15 โต 1.4% Y-Y ชะลอจากไตรมาสก่อนที่โต 2% Y-Y
(+) สื่อสาร บอร์ดกทค.มีมติเลื่อนวันประมูลคลื่น 900 MHz เร็วขึ้นเป็น 12 พ.ย. 2015 เป็นบวกต่อกลุ่ม Mobile Operator ยังคงแนะนำ ADVANC เป็นหุ้นเด่น
(+) MTLS เราคาดกำไร 3Q15 ทำ new high ที่ 206 ล้านบาท +12% Q-Q, +48% Y-Y ตามความต้องการสินเชื่อที่เพิ่มมากขึ้นในต่างจังหวัด และการขยายสาขาอย่างรวดเร็ว ด้านคุณภาพสินเชื่อยังอยู่ในเกณฑ์ดี จึงไม่น่ามีการตั้งสำรองเพิ่มในไตรมาสนี้ เราปรับกำไรปีนี้ลงเล็กน้อยเป็น 790 ล้านบาท +45% Y-Y และปี 2016 เป็น 1.1 พันล้านบาท +40% Y-Y เพราะเศรษฐกิจฟื้นช้ากว่าคาด ยังแนะนำซื้อ และปรับมาใช้ราคาเป้าหมายปี 2016 ที่ 25 บาท
(+) EPCO ได้โรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่นเพิ่มอีก 25.326MW (รวมใบอนุญาตทั้งหมด 64.826MW โดย COD แล้ว 16.5MW) แม้จะมาช้ากว่าคาดและผลตอบแทนสู้โรงไฟฟ้าในไทยไม่ได้ แต่ก็ชดเชยความล่าช้าในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชุดแรก 23MW ที่ติดปัญหาด้านพื้นที่และสายส่ง โดยคาดว่าโรงไฟฟ้าชุดใหม่จะเริ่มจ่ายไฟอย่างช้า 4Q16 เราปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2016 ที่ 7.75 บาท ราคาหุ้นปัจจุบัน 5.90 บาทมี downside ต่ำมากเพราะถ้าหักมูลค่าโรงพิมพ์ 1.20 บาท (PE 10 เท่า) เหลือส่วนที่เป็นโรงไฟฟ้า 4.70 บาท จะคิดเป็น PE บนโรงที่ COD แล้ว 16.1MW เพียง 18 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มที่เทรดที่ 40 เท่า และถ้าโรงไฟฟ้าในญี่ปุ่น COD ได้ทั้งหมด PE จะลดเหลือเพียง 8 เท่า จึงยังแนะนำซื้อ
(+) TVT เราคาดกำไรสุทธิ 3Q15 โต 31% Q-Q และโตอีกเท่าตัวใน 4Q15 จากรายการรับจ้างผลิตที่เพิ่มขึ้น 1 รายการใน 3Q15 และอีก 2 รายการใน 4Q15 แต่ Gross margin ต่ำกว่าที่เราคาด เราจึงปรับประมาณกำไรปกติปี 2015-16 ลง 10-12% แต่ยังเป็นกำไรที่โตก้าวกระโดด 122% Y-Y ในปีนี้ และ 28% Y-Y ในปีหน้า เราปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2016 ที่ 2.70 บาท สำหรับแผน M&A คาดว่าจะสรุปได้ภายในปีนี้ คงแนะนำซื้อ
(+) ROBINS เรากำไรสุทธิ 3Q15 จะชะลอลง 4% Q-Q ตามฤดูกาลและค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นจากค่าเสื่อมราคาของสาขาใหม่ แต่โต 19% Y-Y จากรายได้ค่าเช่าที่โตสูง ชดเชยยอดขายสาขาเดิมที่ติดลบต่อเนื่องได้ แนวโน้มกำไรสุทธิ 4Q15 จะทำจุดสูงสุดของปีเพราะเป็น High season และการขยายสาขา อย่างไรก็ตาม เราปรับลดกำไรสุทธิปี 2015 ลง 8.6% เหลือเติบโต 8% Y-Y และคาดปีหน้ากลับมาโต 16% Y-Y เราปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2016 ที่ 54 บาท (DCF) คงคำแนะนำซื้อ
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาเริ่มมีการย้อนลบให้เห็นจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงรวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจทางฝั่งจีนที่บ่งชีว่าเศรษฐกิจกำลังชะลอตัว
(-) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนลบเช่นกันโดยได้รับแรงกดดันจากแนวโน้มเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว
(-) ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในแดนลบตามตลาดหุ้นภูมิภาคอื่นจากบรรยากาศการลงทุนที่ไม่สดใส และจับตาตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ก.ย. จีนเช้านี้
(-) ค่าเงินบาทเริ่มมีจังหวะอ่อนค่าลงหลังจากแข็งค่ามาต่อเนื่องช่วงก่อนหน้า ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 35.55-35.70 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ย. ปิดที่ 46.66 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.44 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ตลาดน้ำมันโลกจะยังคงประสบปัญหา Oversupply จนถึงปีหน้า
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดที่ 1,165.40 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 0.90 ดอลลาร์/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์ที่ยังอ่อนค่าจากความคาดหวังที่ FED จะเลื่อนการขึ้นดอกเบี้ยเป็นปีหน้า รวมถึงแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ชะลอ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
14-ต.ค. - ตลาดหุ้นมาเลเซียและอินโดนีเซีย ปิดทำการ
- สิงคโปร์: 3Q15 GDP
- สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (ก.ย.)
15-ต.ค. - เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BOK) ประชุม
- อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI) ประชุม
- สหรัฐ: Fed Beige Book, อัตราเงินเฟ้อ (ก.ย.)
16 ต.ค. - ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (ก.ย.)
19-21 ต.ค. - ไทย: กลุ่มธนาคารรายงานผลประกอบการ 3Q15
19 ต.ค. - ไทย: DTAC ประกาศผลประกอบการ 3Q15
- จีน: 3Q15 GDP, Industrial Production (ก.ย.), ยอดค้าปลีก (ก.ย.)
20 ต.ค. - ไทย: ยอดขายรถ (ก.ย.)
- สหรัฐ: Housing starts, Building permits (ก.ย.), Fed's Dudley and Powell Speak at Market Conference in New York
21 ต.ค. - ฮ่องกง: ตลาดหุ้นปิดทำการ เนื่องในวัน Chung Yeung Festival
22-ต.ค. - อินเดีย: ตลาดหุ้นปิดทำการ เนื่องในวัน Dussehra
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านเก่า (ก.ย.)
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch