WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

BLS copyบล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

Rotations 2
     วันนี้คาดดัชนีฯ ย่อสลับเด้ง (หุ้นกลาง-เล็ก สลับขึ้นแทน) แนวรับ 1,409/1,400 จุด แนวต้าน 1,417/1,420 จุด
     ข่าวหนุนตลาด คาด นลท.ต่างชาติยังไม่รีบขายหุ้นที่เพิ่งซื้อไปเมื่อช่วงที่ผ่านมา (เฉพาะวันที่ 1-12 ตค.ต่างชาติซื้อสะสม 6.3 พันล้านบาท) สอดคล้องกับมุมมองโบรกเกอร์ต่างชาติที่เริ่มกลับมาแนะซื้อหุ้น ตั้งแต่ปลายเดือน กย. / วันนี้ ลุ้น ครม.อนุมัติมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ (PS LPN) และ อนุมัติงบกรมตำรวจทำระบบสื่อสารฯ (SAMART SAMTEL) ส่วนข่าวลบ PTTEP วานนี้ชี้แจงผลกระทบขาดทุนทางบัญชีจากแหล่งปิโตรเลียม (Impairment loss) วิตกงบ 3Q15 แย่กว่าตลาดคาด ก่อนดีดกลับใน 4Q15 (ข่าวนี้คาดกระทบจิตวิทยาหุ้นในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์อื่น), กลต. จับตา "กรุ๊ปไลน์" บอกใบ้หุ้นชี้นำราคา ผิดกฎหมายฯ ม.240 สามารถเอาผิดได้ (ที่มา ไทยรัฐ)
      ระยะสัปดาห์ คาดพักแล้วขึ้นต่อ แนวต้าน 1,450 จุด แนวรับ 1,400 จุด ปัจจัยที่ต้องตาม คือกระแสเงินทุนไหลเข้าระลอกใหม่ และผลประกอบการแบงก์ทยอยประกาศ
      ระยะเดือน (ตค.) หลังจากไม่หลุดแนวรับ 1,340 จุด ส่งผลหุ้นไทยไม่แย่อย่างวิตก กลยุทธ์เราได้แนะนำให้แบ่งพอร์ตเริ่มซื้อคืน 20/30% ตั้งแต่ ปลาย สค. เราคงคำแนะนำ ใครที่ซื้อตาม พิจาณาเก็บเงินสดส่วนที่เหลือรอซื้อเพิ่มเมื่อปรับฐาน หรือ ขายเล่นสั้น แล้วซื้อเล่นใหม่ กลุ่มเด่นที่ลงแล้วน่าซื้อ 1) กลุ่มเชื่อมโยงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง วางระบบฯ 3) โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน
หุ้นแนะนำวันนี้ ICHI TSR ข่าวบวกสัญญาณกำลังซื้อฟื้นจากอานิสงค์มาตรการกระตุ้นก่อนหน้านี้

 

BLS รายงานพื้นฐานวันนี้ (ดูรายละเอียดฉบับเต็ม)
(-) PTTEP แม้ราคาหุ้นจะปรับลงจนสะท้อน PBV ที่ 0.70 เท่า จากวิตกผลขาดทุน Impairment loss แต่เรามองว่า ณ.ระดับราคาตรงนี้ยังมีความไม่แน่นอน และ ไม่จูงใจพอที่จะเข้าซื้อ โดยแนะ นลท. รอดูผลกระทบจากการตั้งสำรองครั้งนี้ไปก่อน จากการ Preview กำไร 3Q15 เราคาด กำไรสุทธิ 113 ล้านบาท (จากก่อนหน้าคาดกำไร 4 พันล้านบาท) และ ลดลงจาก 2Q15 ที่ 1.3 พันล้านบาท หลักๆเป็นผลจาก Exploration write off ราว US$70 ล้าน VS 2Q15 มี Write off ที่ US$28ล้าน แม้ว่ากำไรใน 4Q15 จะพลิกกลับมาดีขึ้นจากฐานที่ต่ำใน 3Q15 แต่เรามองว่ามีโอกาสที่Consensus จะปรับกำไรทั้งปีลงได้อีก เพราะเรามองกำไรปี 2015 จะลงเหลือ 1.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าตลาดคาดถึง 40% ดังนั้นเราแนะนำ Hold (wait and see) ราคาเป้าหมาย 87 บาท
(0/-) กลุ่มบ้าน รายงาน AREA ผลสำรวจเดือน กย.สะท้อน อุปสงค์ที่ยังคงอ่อนแอ โดย Presale (เฉพาะหุ้นที่เราศึกษา) 3Q15 อยู่ที่ 4.7 หมื่นล้านบาท ลดลง -25% y-y, -25% q-q แย่กว่าตลาดคาด 11% ทั้งคอนโดและบ้านแนวราบ ขายได้น้อยกว่าคาด สำหรับแนวโน้มเดือน ตค. คาดการเปิดโครงการใหม่จะน้อยลง แต่อัตราการจองซื้อจะเริ่มดีขึ้น โดย บจ.ที่เราศึกษาคาดจะรายงานอัตราการจองที่เพิ่มขึ้น จากโครงการดอนโดใหม่ที่เพิ่งเปิดจองไปเมื่อเร็วๆนี้ ได้แก่ Life Pinklao ของ AP มูลค่าโครงการ 3.1 พันล้านบาท และ The Line ราชเทวีของ SIRI มูลค่าโครงการ 2.8 พันล้านบาท เราแนะนำ ขายทำกำไรเมื่อ ครม.ประกาศมาตรการกระตุ้นภาค อสังหาฯ โดยอิงกับ สถิติในอดีต พบว่าราคาหุ้นให้ผลตอบแทนดีสุดถึงแค่วันที่ประกาศ จากนั้นจะให้ผลตอบแทนที่ลดลง

หุ้นมีข่าว
(+) กลุ่มค้าปลีก สินค้าอุปโภคบริโภค (แนะ TSR SYNEX) กำลังซื้อต่างจังหวัดเริ่มฟื้น จากอานิสงค์มาตรการกระตุ้นฯที่ออกไปก่อนหน้า (ที่มา คมชัดลึก)
(+) ORI กลต.แจ้ง "นเรศ งามอภิชน" เก็บหุ้น ORI อีก 4.3% รวมแล้วล่าสุดเป็น 6.74% ของทุนฯ
(-) IVL งบ 3Q15 ตลาดคาดขาดทุนสุทธิ 1.1 พันล้านบาท จากขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน และขาดทุนจากสต็อกปิโตรฯ (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) IFEC เผยเตรียมซื้อกิจการ โรงไฟฟ้าพลังงานลม ขนาด 100MW ที่ออสเตรเลีย คาดใช้เงินลงทุนราว 4 พันล้านบาท ขณะที่การลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ หน่วยงานราชการ คาดได้งาน 100MW จะต้องใช้เงินลงทุนราว 6.5 พันล้านบาท โดยมีแผนจะออกหุ้นกู้ 3,000 ล้านบาท และ มีเงินสดอยู่ราว 2 พันล้านบาท ซึ่งสามารถเพิ่มวงเงินกู้จากสถาบันการเงินได้อีกมาก โดยปัจจุบันมีหนี้สินต่อทุนเพียง 0.50 เท่า (ที่มา ASPEN) / ความเห็น การลงทุนโรงไฟฟ้าออสเตรเลียถือเป็นเรื่องเซอร์ไพร์สตลาด ซึ่งเราไม่เป็นกังวลต่อแหล่งเงินลงทุนของบริษัทฯจากข้อมูลข้างต้น จากฐานทุนและเงินสดหากอิงค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่กู้มาลงทุน 3 ต่อ 1 คาดกู้แบงก์ได้อีกกว่า 1 หมื่นล้านบาทสบายๆ กับการลงทุนที่ให้ผลตอบแทน IRR เกิน 12% ขึ้นไป สำหรับเป้าหมายที่ผู้บริหารคาด กำลังผลิตไฟฟ้า 100MW ถือว่าสูงกว่าเราคาด และเป็น Upside risk ต่อคาดการณ์กำไรในปี 2016
(+) EPCO ตั้งที่ปรึกษาเข้าลงทุนกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ญี่ปุ่น ขนาด25 MW ลงทุน 2.47 พันล้านบาท รอประชุม ผถห. 19 พย.เพื่อขออนุมัติ (ที่มา ตลท.)
(+) รมว.พลังงาน เผยเร่งเดินหน้าจัดการแนวทาง สัมปทานปิโตรเลียม และ เร่งรัดโครงการพลังงานทดแทน ให้ได้ตามแผน AEDP 2015 ที่เพิ่งประกาศไป
(+) FITCH ชี้ยังคง Rating KTB SCB แม้ต้องตั้งสำรองเพิ่มจากกรณีหนี้ SSI เชื่อแบงก์รับมือได้ (ที่มาข่าวหุ้น)

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(+) ธปท.คาด กระแสเงินทุน ระยะสั้น ไหลเข้าเอเชีย รวมไทย หลังตลาดคาดเฟดมีโอกาสชะลอขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ ส่งผลนักลงทุนไล่ซื้อสินทรัพย์เสี่ยงคืน
(+) โบรกเกอร์ต่างชาติ เริ่มกลับมาแนะซื้อหุ้นไทย: บาร์เคลย์ แคปิตอล, โกล์ดแมน แซค ส่วนโนมูระ คาดเงินทุนจากญี่ปุ่น มีโอกาสไหลเข้าตลาดอาเซียน ผ่านทั้งการ M&A, การลงทุนโดยตรง (FDI) และ การลงทุนในตลาดหุ้น โดยหุ้นที่มองว่ามีโอกาสเข้าลงทุน ได้แก่ อาหาร (TUF CPF SAPPE CBG ICHI) พลังงานทดแทน นาโนไฟแนนซ์ (SAWAD MTLS THANI) แบงก์ (LHBANK) และหุ้นที่ติดโผอื่นๆ EA EGCO MINT SCCC AMATA BEAUTY KAMART
(-) อังคาร จีน ตัวเลขส่งออก (กย.) คาด -6% จาก -5.5% y-y รายงานการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น, US Fed survey of Consumer expect, เยอรมนีรายงานเงินเฟ้อ คาด -0.2% y-y และ ZEW index คาด 7 จาก 12.1
(*/-) วันพุธ US Retail sale (กย.) คาด +0.3% จาก +0.4% m-m US PPI คาด -0.2% จาก 0%, รายงานภาวะเศรษฐกิจ Fed beige book, EU Industrial production (สค.) คาด -0.5% จาก +0.6%, สิงคโปร์ GDP 3Q15 คาด +1.2% ลดลงจาก 1.8%, เงินเฟ้อจีน (กย.)คาด +1.8% จาก +2%
(-) พฤหัส US Consumer prices (Sep) -0.2% จาก -0.1%, ประชุม EU Summit, คาดธนาคารกลางอินโดนีเซีย และ เกาหลีใต้ คงดอกเบี้ย 7.5% และ 1.5% ตามลำดับ, อินโดนีเซีย ส่งออก (กย.) คาด -16.1% จาก -12.3%
(0) ศุกร์ US industrial production (กย.)คาด -0.2% จาก -0.4% m-m, EU เงินเฟ้อ HICP (กย.) คาด -0.1% ไม่เปลี่ยนแปลง, เงินเฟ้อ มาเลเซีย คาด +3% จาก +3.1%
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาด
ข่าวเด่นเศรษฐกิจ
ตลท.ควง 10 บจ.โรดโชว์ Thailand's New Economy
ตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดโรดโชว์ส่งท้ายปีนำ 10 บจ.พบนักลงทุนสถาบันต่างประเทศในอเมริกาเติมความมั่นใจในศักยภาพการเติบโตของไทยตามทิศทางเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมเตรียมจัดงานใหญ่ปลายปี Thailand Focus 2015 โดยเชิญผู้จัดการกองทุนต่างประเทศเป็นฝ่ายเข้าร่วมฟังทิศทางเศรษฐกิจและตลาดทุน รวมถึงข้อมูลจาก บจ.หลังเจอโรคเลื่อนมาก่อนนี้ (หนังสือพิมพ์ดอกเบี้ยธุรกิจ)

หนีหุ้นไทยผันผวน KTAM ชวนลง 3 กอง FIF
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย (KTAM) เปิดเผยว่าบริษัทได้นำกองทุนของบริษัทมาพิจารณาผ่านคณะทำงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ และวางแผนกลยุทธ์ ว่าในแต่ละช่วงเวลามีกองทุนประเภทไหนที่น่าสนใจ มีโอกาสสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนในช่วงที่ภาวะหุ้นในประเทศยังมีความผันผวนและมีการเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ โดยในเดือนตุลาคมนี้มี Fund Highlight จำนวน 3 กองทุนที่น่าสนใจ ได้แก่ กองทุนเปิดเคแทมยูโรเปี้ยน อิควิตี้ ฟันด์ (KT-EURO), กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ พร็อพเพอร์ตี้ ฟันด์ (KT-Property) และกองทุนเปิดเคแทมเวิลด์ อิควิตี้ ฟันด์ (KT-WEQ) (หนังสือพิมพ์ดอกเบี้ยธุรกิจ)

แบงก์ไทยรับมือหนี้เสียไหว ฟิทช์เชื่อสหวิริยาฯไม่ดึงธนาคารเสี่ยงทั้งระบบ
บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ฟิทช์ เรทติ้งส์ ออกรายงานระบุว่า การผิดนัดชำระหนี้ของกลุ่มบริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี (เอสเอสไอ) ซึ่งมีมูลค่าหนี้สูงที่สุดตั้งแต่หลังวิกฤตการณ์เศรษฐกิจปี 2540 จะส่งผลให้สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น และสะท้อนถึงความเสี่ยงในด้านผลประกอบการจากสภาวะแวดล้อมการดำเนินงานที่อ่อนแอ (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)

เข้าครม.วันนี้ลดค่าโอน-จำนองบ้านเหลือราคาเดียว 0.01%-งบฯหมื่นล้านให้ธอส.ปล่อยกู้
ชงเข้าครม.วันนี้มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ สมคิดถกบิ๊กตู่เบื้องต้นก่อนไปคุยอีกรอบในที่ประชุมฯ เผยคลังเสนอลดค่าจดจำนองจาก 1% ลดค่าโอนจาก 2% เหลือ 0.01% จัดงบฯ หมื่นล้านให้ธอส.ปล่อยกู้โดยผ่อนคลายเงื่อนไขมากขึ้น (หนังสือพิมพ์ข่าวสด)

ทีดีอาร์ไอห่วงปมทีพีพี
น.ส.เดือนเด่น นิคมบริรักษ์ ผู้อำนวยการวิจัยด้านการบริหารจัดการระบบเศรษฐกิจ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า การส่งออกของไทยมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วชี้ว่าไทยกำลังมีปัญหาเชิงโครงสร้างของภาคการส่งออก ในปี 2558 ไทยมีตลาดส่งออกที่ยังขยายตัวได้เพียง 2 แห่งสำคัญคือ สหรัฐ และกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) (หนังสือพิมพ์ข่าวสด)
ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ Tel. (662) 618-1330-1
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

รายงานวันนี้
กลุ่ม: อสังหาฯ คำแนะนำ: NEUTRAL ราคาเป้าหมาย (บาท): -
- หุ้นขึ้นมารับคาดการณ์มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ โดยตรง โดยเรามองว่าเป็นจังหวะให้ขายทำกำไรหากมาตรการประกาศ
- โครงการเปิดใหม่เดือน ก.ย เติบโตตามคาด ที่ 14% MoM นำโดยโครงการแนวราบเป็นหลัก
- แต่อัตราจองซื้อโครงการเปิดตัวใหม่เฉลี่ยลดลงมากจาก 36% ในเดือนส.ค.เหลือ 16% ในเดือนก.ย.
- เราคาดโครงการใหม่เดือน ต.ค ไม่คึกคักมากแต่อัตราจองซื้อรวมน่าจะปรับตัวดีขึ้น MoM
นักวิเคราะห์: นฤมล เอกสมุทร, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์

กลุ่ม: ปิโตรเคมี คำแนะนำ: NEUTRAL ราคาเป้าหมาย (บาท): -
- ราคาปิโตรเคมีส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในกรอบแคบเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ส่วนต่างราคาปรับตัวลดลงเป็นส่วนใหญ่จากต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวขึ้นค่อนข้างแรง
- ส่วนต่างราคาเอธิลีนปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ส่วนต่างราคาโพรพิลีนปรับตัวลง WoW
- ส่วนต่างราคา HDPE อ่อนตัวลง แต่ส่วนต่างราคา MEG ทรงตัว WoW
- ส่วนต่างราคาพีวีซีหดตัวลงต่อเนื่อง WoW จากต้นทุนเอธิลีนที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
นักวิเคราะห์: สุพพตา ศรีสุข, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
หมายเหตุ: รายงานดังกล่าวเป็นเพียงเนื้อหาโดยสรุป สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในรายงานฉบับเต็ม

Technical Analysis
Security: ICHI
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 17.5
Stop loss: < 15.8
Reason: ราคาหุ้นส่งสัญญาณฟื้นตัวขึ้นจากฐานบริเวณ 15.5 ปัจจุบันราคาปิดเหนือกรอบแนวรับ โดยพบสัญญาณบวกจาก MACD กำลังตัดเส้นSignal line ขึ้น

Security: SPALI
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 20.5
Stop loss: < 19
Reason: ประเมินสัญญาณดีดตัวทะลุแนวต้านสำคัญ 19 บ. เป็นการกลับตัวเปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาขึ้นและคาดว่าวอลุ่มจะเพิ่มสูงขึ้นตาม

Security: PYLON
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 13.5
Stop loss: < 11.7
Reason: เรากำลังหาจุดกลับตัวหรือเปลี่ยนรอบเป็นขาขึ้น ปัจจุบันราคาทะลุเส้น Neckline ที่ 11.8 โดยพบวอลุ่มที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

Security: TVO
Position: ขาย
Reason: ราคาหุ้นปิดต่ำและลงมาทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยระยะกลาง 27 กรณีหลุดอาจส่งผลให้แนวโน้มระยะกลางเปลี่ยนเป็นลง โดยมีสัญญาณเตือนหรือแนวโน้มการอ่อนตัวลงจากเครื่องมือ RSI

Security: NUSA
Position: ขาย
Reason: หุ้น NUSA อยู่ในข่ายที่ต้องระวังมากขึ้นเนื่องจากโมเมนตัมลดลง ขณะที่ราคาหุ้นปิดต่ำทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบสัปดาห์ สอดคล้องกับการปรับตัวลงของเครื่องมือ MACD

Security: TOP
Position: ขาย
Reason: : แม้ราคาหุ้นไม่ได้ปรับตัวลงแรง แต่เครื่องมือทางเทคนิคบ่งชี้ถึงความเสี่ยงเมื่อราคาปรับตัวขึ้นสูงแต่ไม่ผ่านจุยอดเดิม 58 บ. ขณะที่ RSI เริ่มปรับลงเมื่อเข้าสู่ระดับกรอบบน

ธนรัตน์ อิศรกุล Tel. (662) 618-1334
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!