- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 09 October 2015 16:44
- Hits: 1636
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA +138.46, NASDAQ +19.64, S&P +17.60, FTSE +38.47, CAC +8.57 และ DAX +22.67
หลังเฟดเปิดเผยรายงานการประชุม (เมื่อ16 -17/9/58) โดยกรรมการหลายคนของเฟดมีความเห็นว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเงินทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมา อาจกดดันให้เศรษฐกิจเผชิญกับความเสี่ยงช่วงขาลง และเฟดยังต้องการดูแนวโน้มเงินเฟ้อ ก่อนที่จะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้เริ่มมีน้อยลง พร้อมคาดการณ์ว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกน้อยกว่าจนถึงช่วงต้นปีหน้า นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยบวกจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ล่าสุดลดลง 13,000 ราย อยู่ที่ 263,000 ราย ดีกว่าที่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 273,000 ราย และเป็นระดับที่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นเวลามากกว่า 6 เดือนแล้ว ซึ่งนานที่สุดในรอบกว่า 40 ปี และเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่ง
.....ทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ได้รับปัจจัยลบบ้างจากตัวเลขส่งออก - สค. ของเยอรมัน ลดลง 5.2% และนำเข้า ลดลง 3.1% ส่งผลให้ยอดเกินดุลการค้าลดลงมาอยู่ที่ 1.96 หมื่นล้านยูโร ต่ำกว่าที่คาดว่าจะอยู่ที่ 2.25 หมื่นล้านยูโร
.....ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน พ.ย. +US$1.62 อยู่ที่ US$49.43 ต่อบาร์เรล ส่วนหนึ่งจากการลำเลียงขนส่งน้ำมันในตะวันออกกลางอาจจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่รัสเซียเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารในซีเรีย เพื่อทำลายฐานที่มั่นของกลุ่มกองกำลังรัฐอิสลาม (IS) และยังได้รับปัจจัยหนุนจากเงินสหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ รวมถึงคาดการณ์ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ว่าความต้องการน้ำมันทั่วโลกอาจเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในปี’58 สูงกว่าที่โอเปกคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
.....ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. -US$4.4 อยู่ที่ US$1,144.3 ต่อออนซ์ ส่วนหนึ่งจากการขายทำกำไรหลังปรับขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขแรงงานข้างต้นยังแข็งแกร่ง ทำให้ลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
(+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +1,715 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -103,395 ล้านบาท (ปี’57 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)
ทิศทางตลาด :
ทิศทางตลาด : มีโอกาสปรับขึ้น? และคาดมีโอกาสขึ้นทดสอบ 1,400 จุดอีกครั้ง ภายใต้น้ำหนักที่ยังเป็นบวกโดยเฉพาะประเด็น
ในประเทศ จาก (1) แรงซื้อสุทธิของต่างชาติต่อเนื่อง ล่าสุดอีกประมาณ 1,700 ล้านบาท ขณะที่เงินบาทล่าสุดแข็งค่าขึ้นจากช่วงก่อนหน้า ทำให้คาดในระยะสั้นอาจเห็น Fund Flow ไหลเข้ามาได้บ้าง (2) หุ้นในกลุ่มพลังงานที่คาดได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันล่าสุดที่ปรับเพิ่มขึ้น และ (3) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยเฉพาะมาตรการช่วยเหลือภาคอสังหาริมทรัพย์ที่คาดจะมีการนำเข้า ครม. ภายในเดือนตค. ซึ่งคาดเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มอสังหาฯ
.....ทางด้านปัจจัยต่างประเทศ คาดได้รับปัจจัยหนุนจากปัจจัยเดิม โดยเฉพาะประเด็นที่คาดว่าเฟดเลื่อนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปในปี’59 (เฟดเหลือการประชุม 2 ครั้งในปีนี้ วันที่ 27 – 28/10/58 และ 15 – 16/12/58) จากการเปิดเผยรายงานประชุมของเฟดเมื่อ 16 – 17/9/58 ที่ส่งสัญญาณว่าโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้เริ่มมีน้อยลง รวมถึงการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางหลายๆ ประเทศยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป
....โดยยังแนะติดตาม (1) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, PTTGC, TOP และ BCP จะได้รับผลกระทบจากการขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในช่วง 3Q/58 แต่เรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นในช่วงที่ราคาอ่อนตัวสำหรับการลงทุนในระยะยาวกลาง – ยาว (2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่คาดยังคงได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐ เช่น ITD, STEC, TRC และ UNIQ (3) ค่าเงินบาท ล่าสุดเคลื่อนไหวบริเวณ 35.65 – 35.67 แข็งค่าขึ้นจากช่วงก่อนหน้านี้ 36.50 บาท (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น TASCO และ VNG เป็นต้น (5) กลุ่มโรงแรม (CENTEL) และหุ้นกลุ่มสายการบิน (เช่น AAV, BA) หลังสถานการณ์การท่องเที่ยวมีแนวโน้มทรงตัว และคาดดีขึ้น โดยเฉพาะช่วง High season ในช่วง 4Q/58 (6) กลุ่มสื่อสาร (ADVANC) หลัง กสทช. จะเปิดประมูลใบ อนุญาต 4G คลื่นความถี่ 1,800 MHz และ 900 เมกะเฮิร์ตซ์ (MHz) ในวันที่ 11/11/58 และ15/12/58 ตามลำดับ และ (7) เข้าสู่ช่วงประกาศผลการดำเนินงาน – 3Q/58 โดยเริ่มจากกลุ่มธนาคาร ประมาณกลางเดือนนี้ คาดอาจกดดันภาพรวมตลาดฯ ภายใต้ความกังวลปัญหา NPL’s
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.05 อยู่ที่ 2.11% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) -0.98 อยู่ที่ 17.42
หุ้นแนะนำ : PTT
ประเด็นที่ต้องติดตาม (9 ตค.’58)
9/10/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ราคานำเข้าและส่งออก - กย. (2) สต็อกสินค้าและยอดค้าส่ง - สค.
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788