- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 06 October 2015 15:23
- Hits: 1183
บล.เคเคเทรด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
SET ไปต่อ
SET View
ภาวะตลาดหุ้น เราคาดวันนี้ SET จะปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อจากเมื่อวาน หนุนด้วย Sentiment บวกจากตลาดหุ้นต่างประเทศฝั่งยุโรปและสหรัฐฯที่ฟื้นตัวแรงทั้งเยอรมัน +2.7%, ฝรั่งเศส +3.5%, S&P500 +1.8% และดาวโจนส์ +1.9% เป็นต้น รวมถึง การดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมันทั้ง Brent +2.4% และ WTI +1.6% หลังจากรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก พร้อมเจรจากับกลุ่ม OPEC และผู้ผลิตนอก OPEC เพื่อหารือเรื่องสถานการณ์ราคาน้ำมันในปัจจุบัน ทำให้ตลาดมีความคาดหวังว่า ผู้ผลิตน้ำมันหลักของโลก อาจจับมือกันออกมาตรการเพื่อช่วยพยุงราคาน้ำมันที่ตกต่ำในปัจจุบัน ทั้งนี้รัสเซียและซาอุดิอาระเบีย เตรียมเจรจานอกรอบกันก่อนในช่วงสิ้นเดือนนี้
วันนี้ มองแนวต้าน SET 1375 จุดบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน แนวรับ 1355 จุด
กลยุทธ์การลงทุน : ทยอยขายทำกำไรบางส่วนเมื่อ SET เข้าใกล้แนวต้าน/ สลับมาซื้อหุ้นตัวใหม่ที่ยังมีประเด็นบวกหนุน
Top Daily Pick : PTT (มูลค่าเหมาะสม 363 บาท) Valuation ไม่แพง ซื้อขายที่ P/BV 1 เท่า, ได้รับผลบวกเชิง Sentiment จากการฟื้นตัวระยะสั้นของราคาน้ำมัน, คาดงบ 3Q58 ได้รับผลกระทบเชิงลบน้อยกว่าบริษัทอื่นในกลุ่มพลังงานเนื่องจากมีการถือหุ้นในบริษัทลูกกระจายในหลายธุรกิจ (Diversification) SAMTEL (มูลค่าเหมาะสม 23 บาท) คาดกำไรฟื้นตัวอย่างมีนัยใน 2H58 จากงานในมือและการประมูลงานใหม่ จากการเร่งการลงทุนของภาครัฐ
Technical Pick : TMB RS SIRI RATCH GPSC (โปรดอ่านบทวิเคราะห์ Technical เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน)
Theme Plays : หุ้นท่องเที่ยวหลังจากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศเริ่มคลี่คลาย (MINT, ERW)/ เก็งมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ (PS, LPN, SPALI, SIRI)/ หุ้นเกี่ยวข้องกับการลงทุนภาครัฐ (CK, ITD, STEC, SEAFCO, SAMTEL)
Strategy Talk
คาดกลุ่มธนาคารกำไร 3Q58 ไม่สดใส
• ภาพรวมการ Preview ผลประกอบการ 3Q58 ของกลุ่มธนาคาร ดูไม่ค่อยสดใสนัก ตัวอย่าง KBANK ซึ่งฝ่ายวิจัยภัทรคาดจะรายงานกำไร 3Q58 ที่ระดับ 1 หมื่นล้านบาท (-10% QoQ, -17% YoY) แม้ Loan growth จะทำได้ดีกว่ากลุ่มฯ คือ โต 4.3%YTD ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ เทียบกับกลุ่มฯที่โตเพียง 1.1%YTD และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย (Non-interest income) โตได้ราว 12-15% YoY แต่ปัจจัยกดดันมาจาก (1) NIM น่าจะลดลงเหลือ 3.5% (2) Cost-to-income ratio พุ่งขึ้นสู่ระดับ 45% (เทียบกับ 42% ใน 2Q58) (3) การตั้งสำรองฯเพิ่มขึ้นจาก 1.6% ใน 2Q58 เป็น 1.64% ใน 3Q58 และคาดมีโอกาสเพิ่มขึ้นเป็น 1.6-1.9% ใน 4Q58 ตามแนวโน้ม NPL ratio ที่เพิ่มขึ้นจาก 2.39% ใน 2Q58 เป็น 2.6% ใน 3Q58
• เราเห็นแนวโน้มการลดลงของ NIM และการเพิ่มขึ้นของ NPL ในหุ้น SCB เช่นกัน ฝ่ายวิจัยภัทรคาด มีกำไรสุทธิ 3Q58 เท่ากับ 9.5 พันล้านบาท (-30% QoQ, -30% YoY) ปัจจัยกดดันมาจากการตั้งสำรองฯกรณี SSI, NIM ลดลงเหลือ 3% นำไปสู่การปรับลดเป้าหมายปีนี้ เช่น loan growth จากเดิมคาดโต 5-7% เหลือ 2.5-3%, NIM 3.2-3.3% เหลือ 3-3.2%, NPL ratio เพิ่มขึ้นจากเดิมคาด 2.2-2.3% เป็น 2.4%
• ฝ่ายวิจัยภัทรยังคงมองภาพหุ้นกลุ่มธนาคารไม่ค่อยสดใส และให้น้ำหนัก Underperform ยกเว้น BBL เพียงธนาคารเดียวที่ยังแนะนำซื้อ ปัจจัยหลักคือความกังวลต่อเศรษฐกิจในภาพใหญ่ (Macro economy) ซึ่งมีผลลบต่อต่อคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคาร
• คาดการณ์วันรายงานงบ 3Q58 ของหุ้นกลุ่มธนาคารจาก Bloomberg มีดังนี้ TISCO (13 ต.ค.), TMB (14 ต.ค.), LHBANK (15 ต.ค.)
P/BV ณ สิ้นปี 2558 ของหุ้นกลุ่มธนาคาร พบว่า กว่าครึ่งหนึ่งเทรดต่ำกว่าหรือใกล้เคียงกับ Book value ซึ่งถือว่าไม่แพง
Source: Phatra securities
Smart Port Note
Beta ของพอร์ตลงทุนแสดงถึงความเสี่ยงของหุ้นในพอร์ตเทียบกับตลาด SET หากค่า Beta สูงกว่าหนึ่งเท่า แสดงถึงความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนที่สูงกว่า SET
Growth Port มีค่า Beta เท่ากับ 1.04
Trading Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.95
Dividend Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.85
Quant Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.89
