- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 05 October 2015 17:31
- Hits: 1523
บล.กรุงศรี : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Daily Strategy
ตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์ : SET Index เพิ่มขึ้น 1.20 จุด ปิดที่ 1,346.35 จุดบรรยากาศการลงทุนเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากตลาดขาดปัจจัยบวกใหม่นักลงทุนชะลอการลงทุนก่อนวันหยุดสุดสัปดาห์ หุ้นในกลุ่มธนาคารและ พลังงานกลับมาฟื้นตัวได้บ้างแต่แรงซื้อยังเบาบางสะท้อนผ่านมูลค่าการซื้อขายที่ลดลงเหลือเพียง 23,570 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 อีก 115 ล้านบาท และซื้อสุทธิต่อเนื่องในตลาด TFEX เป็นวันที่ 4 อีก 5,986 สัญญา แต่กลับมาขายในตลาดพันธบัตร 14 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้: คาดดัชนีจะฟื้นตัวตามตลาดต่างประเทศจากแรงหนุนที่เฟดอาจจะชะลอขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐออกมาน้อยกว่าที่คาดไว้ อย่างไรก็ตามคาดการฟื้นตัวของดัชนีจะยังอยู่ในกรอบจำกัดเนื่องจากนักลงทุนยังกังวลต่อแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนใน 3Q15 ที่จะชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ
กลยุทธ์วันนี้: Selective buy เน้นหุ้นที่คาดว่าจะมีผลประกอบการใน 3Q15 ออกมาดี
Trading วันนี้: PS เป้าหมาย เป้าหมาย 26 บาท คาดได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาฯมากที่สุด
Positive Sector Outlook : กลุ่มเกี่ยวกับธุรกิจท่องเที่ยว โรงพยาบาล สื่อสาร และพลังงานทดแทน
High Div. Stock: ADVANC, TVO, INTUCH, BTS
หุ้นที่คาดกำไร 3Q15E โดดเด่น: SAWAD GUNKUL BIG TASCO MAJOR KTC SAPPE และ EPG KSS report วันนี้: BBL (Neutral/เป้า 170 บาท) – คาดกำไร 3Q15 ลดลง 12%yoy, TU (Neutral/เป้า 19.60 บาท) คาดกำไร 3Q15 เพิ่มขึ้น 26.5%qoq แต่ 7%yoy
หุ้น/ข่าว/ประเด็นสำคัญวันนี้:
(+) ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์บวก 200 จุด คาดเฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ยหลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรออกมาไม่ดี : เมื่อวันศุกร์กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐในเดือนก.ย.เพิ่มขึ้นเพียง 142,000 ตำแหน่งน้อยกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 203,000 ตำแหน่ง สะท้อนถึงความเปราะบางในตลาดแรงงานและภาวะเศรษฐกิจ แต่อีกด้านกลับเป็นผลบวกต่อภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นเนื่องจากนักลงทุนเชื่อว่าภาวะตลาดแรงงานที่ยังเปราะบางจะทำให้เฟดชะลอขึ้นอัตราดอกเบี้ย
(-) ค่าเงินบาททำสถิติอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 8 ปี : เมื่อวันศุกร์ในระหว่างวันค่าเงินบาทอ่อนค่าสู่ระดับ 36.64 บาทต่อดอลลาร์ ทำสถิติอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 8 ปี 10 เดือน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจไทยและภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนอย่างไรก็ตามเนื่องจากค่าเงินบาทอ่อนค่ามาแล้วกว่า 11% เมื่อเทียบจากต้นปีขณะที่เฟดอาจจะชะลอขึ้นดอกเบี้ยหลังตัวเลขในตลาดแรงงานของสหรัฐยังไม่แข็งแรงส่งผลให้แรงกดดันจากภาวะเงินทุนไหลออกลดลง และทำให้ค่าเงินบาทมี Down side ที่จะอ่อนค่าจำกัด
(-) คาดผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนใน 3Q15 ออกมาชะลอตัว : นักวิเคราะห์เริ่มจัดทำบทวิเคราะห์และคาดการผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนใน 3Q15 ซึ่งเราคาดว่าผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่น่าจะออกมาชะลอตัวทั้ง QoQ และ YoY โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร และกลุ่มพลังงาน ซึ่งไตรมาสนี้กลุ่มธนาคารได้รับผลกระทบจากการตั้งสำรองหนี้เสียเพิ่มขึ้น ขณะที่กลุ่มพลังงานได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงและค่าเงิบบาทอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐส่งผลให้กลุ่มพลังงานโดยเฉพาะ PTT และ PTTEP มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวนมากเพราะมีหนี้ในสกุลดอลลาร์สหรัฐเป็นสัดส่วนหลัก
(-) BBL (Neutral/เป้า 170 บาท) – คาดผลกำไร 3Q15 ลดลง 12%yoy แต่ยังเพิ่มขึ้น 5%qoq
§ คาด BBL จะมีผลกำไรใน 3Q15 ประมาณ 8.4 พันล้านบาทลดลง 12%yoy จากอัตราการเติบโตของสินเชื่อ และ NIM ลดลง แต่กำไรยังเพิ่มขึ้น 5%qoq จากต้นทุนที่ลดลง
§ เรายังแนะนำ "ถือ" ราคาเป้าหมาย 170 บาท อิง P/E และ P/BV ปี 2016 ที่ 9 เท่า และ 0.9 เท่าตามลำดับ หุ้นในกลุ่มธนาคารเรายังชอบ KBANK มากที่สุด
Best Regards,