- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 05 October 2015 17:21
- Hits: 1394
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ก่อน (28 ก.ย.-2ต.ค. 58)
SET ปิดปรับลดลงจากสัปดาห์ก่อน โดยมีแรงขายในหุ้นกลุ่มหลักกดดันดัชนี ทั้งธนาคาร พลังงาน และ ICT ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่บางต จากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่ยังไม่ฟื้นตัว SET Index ปิดที่ 1,346.35 จุด เปลี่ยนแปลงลดลง -30.48 จุด WoW (-2.21%)
ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์นี้
(+) สหรัฐเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเพิ่มขึ้น 142,000 ตำแหน่งต่ำกว่าที่ตลาดคาด สร้างความคาดหวังต่อการเลื่อนการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกออกไปสู่เดือน มี.ค. ปีหน้า
(+) สหรัฐรายงานจำนวนแท่นขุดเจาะในสหรัฐที่ดำเนินงานลดลง ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 5 หนุนให้ราคาน้ำมันรีบาวด์ในวันศุกร์
(+) ราคาน้ำตาลโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น 9% WoW จากค่าเงินเรียลของบราซิลเริ่มทรงตัวได้ และมุมมองต่ออุปทานที่ตึงตัว
(-) ภาพรวมการผลประกอบการ 3Q58 ของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งเข้าสู่ช่วงการ Preview มีแนวโน้มอ่อนแอ จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าและราคาสินค้า Commodity ที่ซบเซาตามราคาน้ำมัน
(+/-) ค่าเงินบาททรงตัวที่ระดับ 36.3-36.6 บาท/ดอลลาร์สหรัฐในสัปดาห์ก่อน ท่ามกลางเม็ดเงินต่างชาติที่เริ่มชะลอการไหลออก
(+/-) การดำเนินการทางทหารจากรัสเซีย ต่อกลุ่ม IS ในซีเรีย เพิ่มความตึงเครียดต่อความสัมพันธ์ระหว่างชาติมหาอำนาจ
(+/-) ครม.เห็นชอบปิดโครงการคืนภาษีรถคันแรก เมื่อวันที่ 30 ก.ย.
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
ตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ ของ EU 5 ต.ค.
การประชุม ครม. ของไทย มาตรการส่งเสริมธรกิจอสังหาฯ 6 ต.ค.
ตัวเลขยอดสั่งซื้อเครื่องจักรของญี่ปุ่น 8 ต.ค.
ตัวเลข Initial Jobless Claim ของสหรัฐ 8 ต.ค.
การเปิดเผยบันทึกการประชุม FOMC 9 ต.ค.
ความคิดเห็น
ประเมินภาพรวมดัชนีมีโอกาสดีดตัวขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ในทิศทางเดียวกับตลาดรอบบ้าน จากกการดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบ รวมถึงจะได้โมเมนตัมบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะออกมาเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี ด้วยมุมมองต่อผลประกอบการที่มีแนวโน้ม
อ่อนแอ เราจึงคาดว่าจะมีแรงขายทำกำไรออกมาในช่วงปลายสัปดาห์
กลยุทธ์การลงทุน ประเมินหุ้นที่เกี่ยวข้องกับนโยบายกระตุ้นภาคอสังหาฯ จะเป็นหุ้นกลุ่มที่ได้รับความสนใจในช่วงนี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มที่เรามองว่าจะเป็นกลุ่มที่มีผลประกอบการโดดเด่นคือกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์จากที่จะได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าแรงเมื่อเที่ยบ 2Q58 และ 3Q58 สำหรับกลุ่มที่แนะนำสะสมเมื่อดัชนีอ่อนตัวคือกลุ่ม Mobile Operator ซึ่งจะมี Catalyst จากการประมูล 4G ในช่วงปลายปี
วิเคราะห์ SET ประจำสัปดาห์ 5-9 ต.ค. 58
SET สัปดาห์ที่ผ่านมาแกว่งตัวแคบ แม้จะปิดตัวต่ำลงกว่าสัปดาห์ก่อนหน้า แต่สามารถประคองตัวไม่หลุด 1,340 จุดได้ โดยแนวดังกล่าวนี้ทำให้เกิดการดีดตัวมาแล้ว 3 ครั้งในรอบ1 เดือนจึงมีความแข็งแกร่งในระยะสั้นเพียงพอที่จะเกิดการเด้งตัวขึ้นได้ นอกจากนี้กราฟแท่งเทียนปลายสัปดาห์สร้างตัวเป็นรูป Positive Harami ขณะที่ Stoch ลงสู่แนว Oversold ซึ่งเป็นระดับที่เคย rebound ขึ้นได้ก่อนหน้านี้ เราจึงประเมินว่าจะเป็นสัปดาห์ของการฟื้นตัว ประกอบกับปริมาณโวลุ่มที่ลดลงมากในช่วง SET อ่อนตัวแสดงถึงแรงขายที่หดหายไปมาก เราคาดว่า SET จะฟื้นตัวและอาจทดสอบได้ถึง 1,384 จุด
กลยุทธ์
1. เข้าซื้อตั้งแต่ต้นสัปดาห์ ถือหุ้นได้ยาวขึ้นมากกว่า 1 วันและแบ่งขายตามแนวต้านทั้งสอง
2. หากราคาพลิกผันต่ำกว่า 1,340 จุด ให้ขายหุ้นและเปลี่ยนทิศเป็นมองขาลงอีกครั้งหนึ่ง
3. เล่นตามกรอบก็พอ ไม่ต้องคิดหวังอะไรไกล โวลุ่มตลาดน้อยความผันผวนเกิดง่าย
หุ้นเด่นประจำสัปดาห์
QH ราคาปิด 2.46 บาท
ครม.มีแนวโน้มออกมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ในสัปดาห์นี้ มองเป็นบวกต่อกลุ่ม Property
Value แฝงอยู่ในบริษัทฯลูกที่ QH ถือหุ้นอยู่ ได้แก่ HMPRO และLHBANK คิดเป็นมูลค่าต่อหุ้น QH สูงถึง 2.06 บาท/หุ้น สูงถึง 84% ของราคาหุ้น QH ในปัจจุบันที่ 2.46 บาท นอกจากนี้ QH ยังมีมูลค่า BV ณ. 2Q58 (ไม่รวมมูลค่างลท. HMPRO+LHBANK) เหลืออีก 1.22 บาท
เป้ารายได้สำหรับปี 58 ผู้บริหารฯยังคงไว้ที่ 2.2 หมื่นลบ. (8M58 ทำได้แล้ว ~60%ของเป้า)
ปัจจุบัน QH ซื้อขายที่ระดับ PER ปี 58 เพียง 7.8 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PER ย้อนหลังในอดีตที่ 10.5 เท่า)
QH
ราคาปิด : 2.46 บาท
แนวต้าน : 2.56 บาท
แนวรับ : 2.36 บาท
กราฟ QH มีแนวรับแข็งแกร่งที่ 2.36 บาทต่อเนื่องมาราว 1 เดือน ขณะที่ในระยะสัปดาห์เกิดสัญญาณดีดตัวในแท่งเทียนเป็น Hammer ซึ่งมีโอกาสที่จะทำให้กราฟเด้งตัวขึ้นได้ทดสอบแนว 2.56 บาทในสัปดาห์นี้ได้ แนะนำเก็งกำไรระยะสั้น
ทีมวิเคราะห์