WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

AIRA copyบล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
  (+/-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA -12.69, NASDAQ +6.92, S&P +3.79, FTSE +10.86, CAC -28.75 และ DAX -151.19 โดยตลาดอยู่ระหว่างรอข้อมูลตัวเลขการจ้างงานที่จะประกาศในวันศุกร์นี้ ในขณะที่สหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูล ดังนี้ 1) ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นเกินคาด 2) PMI ภาคการผลิตลดลงมาอยู่ที่ 50.2 แย่กว่าคาด และ 3) ค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด
  .....ทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ส่วนใหญ่ลดลง โดยหุ้นในกลุ่มโทรศัพท์ และกลุ่มเทคโนโลยีถ่วงตลาดลง จากความกังวลยอดสั่งซื้อของแอปเปิ้ล
  .....ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน พ.ย. -US$0.35 อยู่ที่ US$44.74 ต่อบาร์เรล หลังตลาดคลายกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของพายุเฮอริเคนต่อแหล่งผลิตน้ำมันบริเวณชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐ
  .....ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. -US$1.5 อยู่ที่ US$1,113.7 ต่อออนซ์ ส่วนหนึ่งจากเงินสหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น โดยนักลงทุนอยู่ระหว่างรอการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้
  (+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +198 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -107,344 ล้านบาท (ปี’57 มียอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)

ทิศทางตลาด :
  ทิศทางตลาด : Sideway? คาดการเคลื่อนไหวอยู่ในลักษณะเดียวกับวานนี้ โดยยังไม่มีประเด็นชี้นำใหม่ๆ ในประเทศ แต่คาดยัง
มีความคาดหวังในเชิงบวกหลังจากนี้ภายใต้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐที่มีต่อเนื่อง โดยเฉพาะ (1) มาตรการช่วยเหลือภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่คาดมีความชัดเจนในสัปดาห์ข้างหน้า คาดเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และ (2) การเร่งรัดเปิดประมูลโครงการต่างๆ ของภาครัฐ คาดยังส่งผลดีต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง โดยวานนี้ (30/9/58) มีการยื่นซองประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่คลอง 19 – แก่งคอย สัญญา ที่ 1 และสัญญาที่ 2 มูลค่าประมาณ 9,277 ล้านบาท และ 559 ล้านบาท ตามลำดับ และคาดทราบผลในวันที่ 5/11/58
  .....ส่วนทางด้าน Fund Flow ต่างชาติซื้อสุทธิเล็กน้อย แต่ YTD สูงกว่า 107,000 ล้านบาท ขณะที่ค่าเงินบาทยังมีทิศทางอ่อนค่า คาดน่าจะยังมีผลต่อการไหลกลับเข้ามาของ Fund Flow?
  .....เช่นเดียวกับประเด็นต่างประเทศ คาดยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ๆ โดยตลาดอยู่ระหว่างติดตามข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯในวันศุกร์นี้ และคาดยังมีความกังวลต่อประเด็นความไม่แน่นอนเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเฟด (เฟดเหลือการประชุม 2 ครั้งในปีนี้ วันที่ 27 – 28/10/58 และ 15 – 16/12/58) ซึ่งคาดยังมีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และแนวโน้มเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะจีน ที่คาดอาจส่งผลกระทบต่อประเทศคู่ค้า อย่างไรก็ตามยังแนะติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของจีน จากก่อนหน้าที่มีความพยายามฟื้นฟูความเชื่อมั่น เพิ่มสภาพคล่อง รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยใช้มาตรการผ่อนคลาย ทั้งการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) และอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ
  ....โดยยังแนะติดตาม (1) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, PTTGC, TOP และ BCP จะได้รับผลกระทบจากการขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในช่วง 3Q/58 แต่เรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นในช่วงที่ราคาอ่อนตัวสำหรับการลงทุนในระยะยาวกลาง – ยาว (2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่คาดยังคงได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐ เช่น ITD, STEC, TRC และ UNIQ (3) ค่าเงินบาท ล่าสุดเคลื่อนไหวบริเวณ 36.34 – 36.35 และมีทิศทางอ่อนค่าลง (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น TASCO และ VNG เป็นต้น (5) กลุ่มโรงแรม (CENTEL) และหุ้นกลุ่มสายการบิน (เช่น AAV, BA) หลังสถานการณ์การท่องเที่ยวมีแนวโน้มทรงตัว และคาดดีขึ้น โดยเฉพาะช่วง High season ในช่วง 4Q/58 และ (6) กลุ่มสื่อสาร (ADVANC) หลัง กสทช. จะเปิดประมูลใบอนุญาต 4G คลื่นความถี่ 1,800 MHz และ 900 เมกะเฮิร์ตซ์ (MHz) ในวันที่ 11/11/58 และ15/12/58 ตามลำดับ
  ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.02 อยู่ที่ 2.04% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) -1.95 อยู่ที่ 22.55
หุ้นแนะนำ : CK
  2/10/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร - กย. (2) ดัชนีการผลิตรัฐนิวยอร์ค - กย. (3) ยอดสั่งซื้อของโรงงาน - สค.

นักวิเคราะห์ : ศักดิ์นรินทร์ ศศานนท์ 02-684-8789

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!