- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 30 September 2015 17:57
- Hits: 1290
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
รอว่าประธาน Fed จะว่าอย่างไร
คาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบวันนี้ ปัจจัยบวกในประเทศถูกกดโดยมุมมองเป็นลบ ต่างประเทศที่ยังกังวลเศรษฐกิจโลก รวมทั้งเฝ้ารอคำปราศรัยของประธาน Fed วันนี้ ตลอดจนตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญคือ PMI ของจีนพรุ่งนี้และการว่าจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐวันศุกร์ที่จะมีผลต่อการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ภายในประเทศการเบิกใช้เงินกู้ภายใต้มาตรการสนับสนุน SME ของรัฐบาลที่มากกว่าคาดถือเป็นปัจจัยบวก
หุ้นเด่นวันนี้ : TPCH (ราคาปิด 16.40 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมาย AWS ปี 59 25.76 บาท)
บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) จัดเป็นผู้นำในธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวลของประเทศที่จะมีการเติบโตของกำลังการผลิตไฟฟ้าอย่างมีนัยฯ ถึง 10 เท่าตัวในช่วง 4 ปีข้างหน้า จากระดับกำลังการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในปัจจุบันที่ 9.9 เมกะวัตต์ไปเป็น 105.4 เมกะวัตต์ ด้วยโครงการที่มีอยู่ในมือซึ่งกำลังอยู่ในช่วงการก่อสร้างและพัฒนาโครงการ และยังมีโอกาสที่จะเติบโตได้เพิ่มมากขึ้นนอกจากนี้จากแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP) ของประเทศที่จะมีการเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานชีวมวลอย่างมีนัยฯ ในอีก 20 ปีข้างหน้า ขณะที่สำหรับ TPCH เองจัดว่ามีความพร้อมในทุกๆ ด้าน ที่จะดำเนินโครงการในมือให้แล้วเสร็จและแสวงหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆ เพิ่มเติม ทั้งฐานะทางการเงินที่แข็งแรงและความพร้อมด้านแหล่งเงินทุนหลังจากระดมทุนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ประกอบกับการมีพันธมิตรร่วมลงทุนที่มีศักยภาพด้านเชื้อเพลิงในบริเวณพื้นที่โรงไฟฟ้า รวมถึงพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญด้านการเดินเครื่องโรงไฟฟ้า
และความสัมพันธ์ที่ดีกับมวลชนในพื้นที่โรงไฟฟ้า ซี่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ TPCH มีความโดดเด่นเหนือคู่แข่งที่จะก้าวขึ้นไปเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม เราคาดจะเห็นกำไรสุทธิต่อหุ้นของ TPCH เติบโตแรงถึง 118% เฉลี่ยต่อปีในช่วงปี 2558-61 จากการทยอยรับรู้โครงการโรงไฟฟ้าในมือขนาด 105.4 เมกะวัตต์ที่จะพัฒนาแล้วเสร็จในช่วงเวลาดังกล่าว ราคาหุ้นปัจจุบันยังน่าสนใจถึงแม้ดูผิวเผินเหมือนจะแพงเมื่อพิจารณาในแง่ของ PER ปี 58 ที่สูงถึง 173 เท่า อย่างไรก็ตาม PER จะทยอยลดลงอย่างมีนัยฯ เหลือเพียง 12.4 เท่าในปี 2560 และเพียง 8.0 เท่าในปี 2561 ซึ่งเป็นปีแรกที่โรงไฟฟ้าทุกโครงการเดินเครื่องพร้อมกันเป็นครั้งแรก ขณะที่หลังจากนี้ไปยังมีโอกาสการเติบโตในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลให้ TPCH ได้แสวงหาอีกมาก เราประเมินมูลค่าหุ้นเหมาะสมในปี 59 อยู่ที่ 25.76 บาท ด้วยวิธี DCF ในส่วนของ Price Pattern ของ TPCH ได้กลับมาเกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่มาระยะหนึ่งแล้ว แต่ในช่วงแรกของการฟื้นตัว ราคา TPCH จึงยังไม่ได้ขยับขึ้นมากนัก โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 18.40 บาท และมีเป้าหมายเบื้องต้นอยู่ที่ 19.80 บาท ทั้งนี้หาก Price Pattern ที่ได้กลับมาเกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่ ไม่ได้เป็น False Signal ต้องไม่เห็นราคา TPCH ปิดตลาดต่ำกว่า 16.10 บาท ไม่เช่นนั้นจะทำให้กลับมาเกิด Daily Sell Signal ครั้งใหม่ ดังนั้นคำแนะนำในการซื้อ TPCH ควรตั้งจุด Stop Loss ไว้หาก TPCH ปิดตลาดต่ำกว่า 16.10 บาท (แนวต้าน: 16.50, 16.70, 16.90; แนวรับ: 16.20, 16.00, 15.80)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
สศค. ยินดีที่จะเบิกจ่ายเงินกู้ในแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ระบุว่าเงินกู้ประมาณ 2 หมื่นล้านบาทจะถูกนำไปเบิกจ่ายให้กับกองทุนหมู่บ้านเพื่อเร่งการเบิกจ่ายงบประมาณสำหรับการสร้างสาธารณูปโภค (Bangkok Post)
S&P คงอันดับความน่าเชื่อถือประเทศไทย แม้ว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวช้าและมีการขาดดุลงบประมาณสูงขึ้น แต่ระดับการขาดดุลคลังและระดับหนี้สาธารณะในประเทศไทยยังอยู่ในระดับ BBB+ ด้วยแนวโน้มคงที่ อย่างไรก็ดีสถาบันจัดอันดับได้ระบุว่าประเด็นด้านเครดิตต่างๆ ได้มีการแย่ลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมาด้วยความไม่แน่นอนทางการเมืองที่บั่นทอนความแข็งแกร่งของประเทศนับแต่ปี 2549 และแนวโน้มการเติบโตเศรษฐกิจระยะยาวเป็นอีกปัจจัยที่กระทบการพิจารณาคะแนนได้ (Bangkok Post)
กรีนพีชกังวลปัญหาทูน่า กลุ่มกรีนพีซเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทำการสำรวจบริษัทผลิตทูน่ากระป๋องและรายงานถึงกระบวนการผลิตที่ยังไม่เป็นไปตามกฏเกณฑ์, ความยั่งยืนและมาตรฐาน โดยทางกลุ่มจะออกรายงานดังกล่าวในวันอังคาร (Bangkok Post)
จำนวนนักท่องเที่ยวในพัทยาต่ำกว่าคาด ผู้ว่าเมืองพัทยาคาดว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวมาเมืองพัทยา 9 ล้านคน โดยน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าถึง 1 ล้านคน และต่ำกว่าปีก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 1.2 ล้านคน จากปัจจัยเศรษฐกิจรัสเซียชลอตัว เหตุระเบิดที่ศาลพระพรหมเอราวัณและน้ำท่วมภาคตะวันออกในช่วงกลางเดือน ก.ย. (Bangkok Post)
ADVANC (227 บาท, ราคาเป้าหมาย 271 บาท) วานนี้ได้รับหนังสือแจ้งจากทีโอทีเกี่ยวกับค่าชดเชย 7 หมื่น ลบ. สำหรับการแก้ไขสัญญาสัมปทาน ทั้งนี้ ทีโอทียังเตรียมจะยื่นเรื่องต่อศาลปกครองในสัปดาห์นี้เพื่อคุ้มครองชั่วคราวสถานีฐานของเอไอเอสจำนวน 16,000 สถานีหลังจากสัมปทานสิ้นสุด แม้ว่าจะมีข้อพิพาททางกฎหมาย แต่เอไอเอสยังประสงค์ที่จะเป็นพันธมิตรกับทีโอทีอยู่เพื่อประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย (Bangkok Post)
ต่างประเทศ :
นักลงทุนทั่วโลกยังเป็นกังวล ความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว ถัดมาเกี่ยวกับเศรษฐกิจทั่วโลก รวมทั้งความไม่แน่นอนว่าสหรัฐจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อไหร่ทำให้ตลาดการเงินผันผวน (Reuters)
นางเยลเลนมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์วันนี้ นางเจเน็ท เยลเล็น ประธานเฟดมีกำหนดกล่าวต้อนรับการประชุมวันนี้ ในการกล่าวสุนทรพจน์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นางเยลเล็นพูดเปิดช่องในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยช่วงหลังของปีนี้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดผู้ที่จะชี้แจงว่าเฟดจวนจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบเกือบทศวรรษ ถึงแม้ว่ากำหนดเวลาจะยังไม่ชัดเจนก็ตาม(Reuters)
นักลงทุนกำลังรอรายงานต่างๆ ที่มีกำหนดจะประกาศในสัปดาห์นี้ เริ่มจากดัชนีผู้ผลิตของจีนในวันพฤหัสและตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้ ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์และตลาดการเงินทั่วโลกยังคงเผชิญกับบททดสอบสำคัญในวันพฤหัสนี้เนื่องจากดัชนีผู้ผลิตของจีนในเดือนก.ย. ซึ่งแสดงถึงภาคการผลิตของประเทศมีแนวโน้มจะหดตัวเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีหุ้นในตลาดวอลล์สตรีทปิดเพิ่มขึ้นเมื่อวันอังคาร โดยได้รับปัจจัยหนุนจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นและความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของยูโรโซนที่ดีขึ้น ทำให้นักลงทุนได้พักจากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกที่มีความวุ่นวายในช่วงเดือนกว่า ๆ (Reuters)
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนก.ย. จากรายงานของ Conference Board ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐฯ ระบุว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคพุ่งขึ้นแตะ 103.0 สูงสุดนับแต่เดือนม.ค. จากที่ลดลงอยู่ที่ 101.3 ในเดือนก่อน นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าตัวเลขดังกล่าวจะเท่ากับ 96.1 ดัชนีเดือนส.ค. ถูกแก้ไขเป็น 101.3 จากเดิมที่ 101.5 (Reuters)
ยุโรป :
หุ้นยุโรปปรับตัวลง ดัชนี FTSEurofirst300 ปิดลดลง 0.6% จากที่ก่อนหน้านี้ร่วงแรงลงไป 1.7% หุ้นเหมืองแร่โลหะ Glencore ที่กลับมาบวก 16.9% มากสุดในประวัติการณ์หลังร่วง 30% ในวันก่อนหน้าช่วยตลาดไว้ หลังจากโบรคเกอร์หลายรายให้ความเห็นพร้อมๆกันว่า ความวิตกเรื่องหนี้ของ Glencore มากเกินข้อเท็จจริง (Reuters)
ความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจยูโรโซนสูงสุดใน 4 ปี ในเดือน ก.ย. EC แถลงดัชนีความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจยูโรโซน เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 105.6 ในเดือน ก.ย. จาก 104.1 ในเดือน ส.ค. ซึ่งนับว่าสูงสุดนับตั้งแต่ เม.ย. 2011 ซึ่งขณะนั้นดัชนีดังกล่าวอยู่ที่ 106.1 (Reuters)
คาดการณ์เงินเฟ้อยูโรโซนต่ำสุด ตัวเลขดัชนีเงินเฟ้อในเขตยูโรโซนของ ECB ร่วงลงสู่จุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ. หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อเยอรมัน และสเปนไม่ขยับ (Reuters) ความเห็น: ตัวเลขดังกล่าวทำให้คาดว่า ECB น่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในไม่ช้า
เอเชีย :
ผลผลิตภาคโรงงานญี่ปุ่นลดลงผิดคาด ผลผลิตภาคโรงงานญี่ปุ่นเดือน ส.ค. หดตัวลง 0.5% จากเดือนก่อนหน้า เทียบกับที่ตลาดคาดว่าจะขยายตัว 1.0% MoM อ้างอิงจากผลสำรวจของ Reuters โดยนับเป็นการหดตัวลงผิดคาดเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน อย่างไรก็ตามยอดค้าปลีกญี่ปุ่นสูงขึ้น 0.8% นับเป็นการขยายตัวเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน ถึงแม้จะน้อยกว่าที่ตลาดคาดไว้ว่าจะขยายตัว 1.1% และน้อยกว่าการขยายตัวเมื่อเดือนก่อนหน้าที่ 1.8% ก็ตาม (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ทองลงจากดอลลาร์แข็ง ทองตลาดจรปรับลง 4.59 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์มาอยู่ที่ 1,127.06 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ กดดันโดยความไม่แน่นอนเรื่องช่วงเวลาขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐ (Reuters)
น้ำมันถูกฉุดรั้งไว้บางส่วนเพราะกังวลอุปทาน NYMEX พุ่ง 80 เซนต์หรือ 1.8% ปิดที่ 45.23 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ Brent ปิดขึ้น 89 เซนต์หรือ 1.9% แตะ 48.23 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น่าจะมาจากการที่คาดการณ์กันว่าน้ำมันจะแข็งแกร่งขึ้นวันนี้ (วันพุธ) จากการการปิดสถานะชอร์ตเพราะเข้าสู่สิ้นเดือนรวมถึงสิ้นไตรมาส 3 ด้วย ทว่า EIA เตรียมเปิดเผยยอดสต็อกน้ำมันดิบสำหรับรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 25 ก.ย. ในวันนี้ ซึ่งสำรวจของ Reuters คาดว่าอุปทานน้ำมันน่าจะปรับเพิ่ม 1.02 แสนบาร์เรล (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094