- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 29 September 2015 17:32
- Hits: 777
บล.เคเคเเคเทรด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
คาด SET พักตัวตามตลาดหุ้นทั่ว
SET View
ภาวะตลาดหุ้น เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับฐานแรงพร้อมกันทั้งเยอรมัน (-2.1%), อังกฤษ (-2.5%), ดาวโจนส์ (-1.9%), S&P500 (-2.6%) จากกระแสข่าวลบคือ (1) กำไรบริษัทในภาคอุตสาหกรรมของจีนเดือน ส.ค. หดตัวแรง 8.8% YoY แย่กว่าเดือนก่อนหน้าที่ติดลบเพียง -2.9% (2) ข่าวการลดพอร์ตการลงทุนของประเทศซาอุดิอาระเบียกว่า 7 หมื่นล้านเหรียญฯตั้งแต่ต้นปีนี้ เพื่อนำไปช่วยลดการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด เนื่องจากราคาน้ำมันตกต่ำมาก ขณะที่ตลาดหุ้นไทย มีปัจจัยลบเพิ่มเติมจากยอดส่งออกเดือน ส.ค. -6.7% YoY แย่กว่าตลาดคาดที่จะ -3.1% YoY ค่อนข้างมาก ส่งผลให้ SET หลุดกรอบแนวรับ 1355 จุด ที่เราประเมินไว้ วันนี้ เราคาดว่า แนวโน้มเชิงลบจากตลาดหุ้นต่างประเทศ มีโอกาสกดดัน SET ลงไปทดสอบแนวรับ 1340 จุด
ประเด็นข่าว / ดัชนีเศรษฐกิจ
• รัฐบาลขยายเวลาคงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่ 7% (ภาษีมูลค่าเพิ่ม 6.3% + ภาษีท้องถิ่น 0.7%) ต่อไปอีก 1 ปีจนถึง 30 ก.ย.59 และจะขยับขึ้นเป็น 10% (ภาษีมูลค่าเพิ่ม 9%+ภาษีท้องถิ่น 1%) ตั้งแต่ 1 ต.ค.59 แต่รมว.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลมีโอกาสคง VAT ไว้เมื่อถึงปีงบประมาณหน้า ตามที่เคยเป็นมา
• John Williams ประธาน Fed สาขาซาน ฟรานซิสโก ซึ่งเป็นสมาชิกผู้สิทธิ์โหวตในที่ประชุม Fed ปีนี้ ให้ความเห็นว่า Fed มีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยภายในปีนี้ เหมือนกับผู้บริหาร Fed ที่ออกมาแสดงทัศนะในช่วงก่อนหน้านี้ ในขณะที่เราจะได้ฟังความเห็นเพิ่มเติมจากผู้บริหาร Fed อีกหลายคน ซึ่งมีกำหนดการแสดงปาฐกถาในสัปดาห์นี้ (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมใน Market Focus วันที่ 28 ก.ย.)
• วันนี้หุ้น IPO คือ JWD เข้าซื้อขายวันแรกในตลาด SET กลุ่มขนส่ง ราคา IPO 11 บาท ราคาพาร์ 0.50 บาท
กลยุทธ์การลงทุน : หาก SET เปิดมาใกล้ 1350 จุดแนะนำขายลดความเสี่ยงไปก่อน แต่หาก SET ร่วงลงไปใกล้ 1340 จุดหรือต่ำกว่า แนะนำซื้อเก็งกำไรระหว่างวัน คาดหวังการฟื้นตัวระยะสั้น
Top Daily Pick : INTUCH (มูลค่าเหมาะสม 98 บาท) ราคาหุ้นปรับตัวลดลงมากจนทำให้ Dividend yield สูงจูงใจถึง 7.8% (คาดการณ์สำหรับปีหน้า) และ KCE (มูลค่าเหมาะสม 53.50 บาท) ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มเงินบาทอ่อนค่าและฤดูกาลขาย (High season) ใน 3Q58 มากสุด
Technical Pick : AJD EARTH ABC MAX NCH (โปรดอ่านบทวิเคราะห์ Technical เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน)
Theme Plays : หุ้นท่องเที่ยวหลังจากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศเริ่มคลี่คลาย (MINT, ERW)/ ซ่อมแซมและฟื้นฟูที่อยู่อาศัยหลังน้ำท่วม (GLOBAL, HMPRO)/ เก็งมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ (PS, LPN, SPALI, SIRI)
Strategy Talk
บาทอ่อนค่า หนุน Sentiment กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์
• วานนี้ เงินบาทอ่อนค่าแตะระดับ 36.35 บาท/เหรียญฯ (เช้านี้ วิ่งไปถึง 36.45 บาท/เหรียญฯ) ทะลุระดับที่เคยอ่อนค่ามากสุดช่วงเกิดวิกฤติซับไพรม์บริเวณ 36.20 บาท/เหรียญฯ กดดันให้นักลงทุนต่างชาติเทขายสุทธิหุ้นไทยวานนี้กว่า 2 พันล้านบาท เพื่อจำกัดการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX loss) และ SET ปรับฐานลงไปกว่า 25 จุด
• เราประเมินเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่อง เพราะ (1) ความกังวลต่อการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ซึ่งตลาดคาดว่า จะเกิดขึ้นภายในปีนี้ (2) เศรษฐกิจไทยขาดสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน ล่าสุด ยอดส่งออกหดตัวแรงกว่าที่ตลาดคาด ทำให้ใน 8 เดือนแรกของปีนี้ ติดลบไป 4.92% YoY
• แม้การอ่อนค่าของเงินบาท ดูจะเป็นลบต่อภาพรวมการลงทุนในหุ้นไทย แต่มีหุ้นกลุ่มหนึ่งที่ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มดังกล่าวคือ กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
• Semi Book-to-Bill ratio ดัชนีชี้นำอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เดือน ส.ค. เท่ากับ 1.06 เท่า ดีกว่าเดือนก่อนหน้าที่ 1.02 เท่า สะท้อนว่า แนวโน้มอุปสงค์ (Demand) ปรับตัวเพิ่มขึ้น คาดค่าเฉลี่ยใน 3Q58 น่าจะสูงกว่า 1.04 เท่า ดีขึ้นจากระดับ 0.99 เท่าใน 2Q58 ยืนยันมุมมองเชิงบวกของเราต่อภาพรวมอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ แม้ว่าเศรษฐกิจโลกโดยรวม จะฟื้นตัวช้ากว่าคาด
• ไตรมาส 3 ของทุกปี คือ High season ของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เรามองว่า ใน 3Q58 KCE (เก็งกำไร, มูลค่าเหมาะสมปี 2558 เท่ากับ 53.50 บาท) จะได้รับประโยชน์จาก High season มากสุด เนื่องจากการเปิดโรงงานใหม่ตั้งแต่ปลายปี 2557 ทำให้ KCE มีกำลังการผลิตเหลือพอที่จะรองรับคำสั่งซื้อที่จะมีเพิ่มเข้ามาในช่วง High season
• นอกจากนี้ จากการทำ Sensitivity analysis เพื่อศึกษาผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนต่อกำไรสุทธิของหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เราพบว่า KCE ได้รับประโยชน์มากสุดจากการอ่อนค่าของเงินบาท กล่าวคือ การอ่อนค่าของเงินบาททุกๆ 1 บาท/เหรียญฯ จะช่วยเพิ่มกำไรสุทธิของ KCE 5.4% (เทียบกับ SVI 2.2% และ HANA 4.3%)
• ประเด็นข่าวการเรียกคืนรถของโฟล์กสวาเก้น เราประเมินว่า ไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยต่อ KCE เพราะสัดส่วนยอดขายจากโฟล์กสวาเก้นเพียง 1% ของยอดขายทั้งหมด นอกจากนี้ ชิ้นส่วนที่มีปัญหาคือ ท่อไอเสีย ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ของ KCE แต่อย่างใด
Smart Port Note
Beta ของพอร์ตลงทุนแสดงถึงความเสี่ยงของหุ้นในพอร์ตเทียบกับตลาด SET หากค่า Beta สูงกว่าหนึ่งเท่า แสดงถึงความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนที่สูงกว่า SET
Growth Port มีค่า Beta เท่ากับ 1.05
Trading Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.96
Dividend Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.86
Quant Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.89
