- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 28 September 2015 16:44
- Hits: 1055
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Selective Buy
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ กลับมาฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป แม้ว่า SCC ยังเผชิญกับแรงขาย สวนทางกับที่คาดการณ์ไว้ก็ตาม แต่หุ้นกลุ่มพลังงาน / ธนาคาร / ICT ฟื้นตัว อีกทั้งตลาดหุ้นยุโรปเปิดบวกอย่างโดดเด่น ส่งผลให้ SET INDEX ขยับขึ้นทดสอบ 1,380 จุด และทำระดับปิดของวันที่ 1,376.83 จุด บวก 4.48 จุด มูลค่าการซื้อขาย 31,533 ล้านบาท
เงินทุนต่างชาติยังคงน่าสนใจ คงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 อีก 2,908 ล้านบาท Short สุทธิ SET50 Index Futures อีกครั้ง 5,636 สัญญา และขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันแรกในรอบ 8 วันทำการ 1,862 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
การฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ช่วยทำให้กลุ่มพลังงาน / ปิโตรเคมี ทรงตัวดีขึ้น
ติดตามตัวเลขส่งออก - นำเข้า เดือนส.ค.ของไทยวันนี้ Bloomberg consensus คาด -3.10% yoy และ -3.50% yoy ตามลำดับ
ตลาดหุ้นไต้หวันและฮ่องกงปิดทำการวันนี้
ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดทำการวันที่ 28-29 ก.ย. เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า
ตลาดหุ้น Nikkei วันนี้ มีการขึ้นเครื่องหมาย XD กว่า 1 พันบริษัท
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองต่อการลงทุนเป็น "กลางถึงบวก" วันที่ 20 หลัง SET INDEX ปรับฐานและแนวรับ 1,360 จุด ยังทำงานได้อย่างแข็งแกร่งในสัปดาห์ที่ผ่านมา ปัจจัยแวดล้อมต่อการลงทุนในสัปดาห์นี้ เราให้น้ำหนักกับปัจจัยภายในประเทศ ซึ่งวันนี้มีการรายงานตัวเลขการส่งออกเดือนส.ค. แน่นอนว่าจะยังเป็นตัวเลขหดตัว yoy แต่อาจเห็นการทรงตัว mom ได้กับการทยอยส่งออกรถกระบะ 1 ตัน หลังปรับโฉมใหม่เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ การประชุม ครม. วันพรุ่งนี้จะมีการพิจารณาแผนการลงทุนรถไฟฟ้า 3 เส้นทาง และโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ 2 แห่ง มูลค่าเงินลงทุนกว่า 2.0 แสนล้านบาท ย่อมเป็นบวกต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง / กลุ่มวัสดุก่อสร้าง / กลุ่มธนาคาร ซึ่งยังเป็นกลุ่มที่เราให้น้ำหนักมากกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดฯ (Overweight) ในช่วงที่เหลือของปีนี้ เพราะจะเห็นการพิจารณาและอนุมัติโครงการอย่างต่อเนื่อง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งออกประมูลงานมากขึ้นอีกเช่นกัน
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศเป็นกลาง ตลาดเริ่มกลับมามองถึงโอกาสที่เฟดจะพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายภายในปีนี้ ตามความเห็นของประธานเฟด Janet Yellen ที่ส่งสัญญาณในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่น้ำหนักของการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ยังคงก้ำกึ่ง เพราะยังมีเงื่อนไขการพิจารณาที่มากขึ้นไปกว่าตลาดการจ้างงาน และอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ส่งผลให้ทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะทรงตัวมากขึ้น กระแสเงินทุนในแต่ละประเภทของสินทรัพย์เป็นกลางเช่นกัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยเฉพาะของแต่ละตลาดเป็นสำคัญ
ดังนั้นภาพรวมของ SET INDEX สัปดาห์นี้ เรายังคงคาดว่า SET INDEX จะขยับลักษณะ Sideways-to-Sideways-Up สู่ด่าน 1,400-1,420 จุด เพราะเป็นการผลักดันจากปัจจัยภายในประเทศเป็นสำคัญ แม้ว่าจะมีความเสี่ยงที่จะสิ้นสุดช่วงทำ Window Dressing ในปลายสัปดาห์หน้าก็ตาม
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนอาจพิจารณาขายทำกำไรหุ้นที่สะสมมาก่อนหน้านี้มากขึ้นบริเวณ 1,385 จุด หรือสูงกว่า"
Top Pick in 3Q15: BCP / BMCL/ IFEC / WHA
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ WHA/ BCP/ IFEC/ INTUCH/ KTB
Accumulative Buy: ITD
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "สะสม" ได้แก่
1. ITD : ราคาปิด 8.45 บาท ราคาเหมาะสม 12.00 บาท
a) MBKET มีมุมมองเชิงบวกหลังโครงการเหมืองแร่โปรแตซมีความคืบหน้าต่อเนื่อง หลังเสร็จสิ้นการทำประชาพิจารณ์ระดับองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นแล้วในวันศุกร์ที่ผ่านมา และมีจำนวน อบท. 5 แห่งเห็นด้วย และเพียง 1 แห่งไม่เห็นด้วย
b) ขั้นตอนต่อไปคือการรวบรวมความเห็นในทุกระดับเพื่อให้จังหวัดอนุมัติ และส่งเรื่องให้กระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณาเพื่อทำประชาพิจารณาทั้งจังหวัดอีกครั้งในช่วงปลายเดือน ต.ค. ดังนั้น คาดว่า ITD จะได้รับประทานบัตรเหมืองแร่ภายในสิ้นปี 2558
c) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างมีประเด็นบวกรออยู่ในสัปดาห์นี้ ได้แก่
I. คาดว่าครม.จะพิจารณาอนุมติแผนลงทุนโครงการขนาดใหญ่ ได้แก่ รถไฟฟ้า 3 เส้นทาง และโครงการโรงไฟฟ้าขยะอีก 2 แห่ง มูลค่ารวม 2 แสนล้านบาท ในวันอังคารนี้
II. และการยื่นซองประมูลรถไฟฟ้ารางคู่ คลองเก้า - แก่งคอย ในวันศุกร์นี้
d) มี Upside 42% และยังไม่รวม Upside Risk หากได้ประทานบัตรเหมืองแร่ เนื่องจากราคาเหมาะสมของเราให้มูลค่าของเงินลงทุนในธุรกิจเหมืองโปรแตซ, โครงการทวาย และทางพิเศษ Dhaka เพียง 5.00 บาท จาก NAV ที่ประเมินได้หุ้นละ 9.20 บาท ขณะที่ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างให้มูลค่าหุ้นละ 7.00 บาท
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียขายสุทธิเป็นวันที่ 3 อีก US$517 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$343 ล้าน
โดยขายสุทธิทุกตลาดเป็นวันที่ 3
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติยังคงทยอยขายหุ้นไทยต่อเนื่อง
นักลงทุนต่างชาติ คงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 อีก 2,908 ล้านบาท รวม 3 วันทำการ ขายสุทธิ 10,193 ล้านบาท เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 158 ล้านบาท และผลักดันให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ทะลุ 1.0 แสนล้านบาท เป็น 101,480 ล้านบาท
SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติกลับมา Short สุทธิมากถึง 5,636 สัญญา คาดว่าจะเป็นการทยอยเปิดสถานะ Short อีกครั้ง กดดันให้ S50Z15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index กว้างขึ้นเป็นวันที่ 2 เท่ากับ 20.17 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เป็น 15.50 จุด ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิมากถึง 69,413 สัญญา
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมาขายสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 8 วันทำการ 1,862 ล้านบาท เทียบกับ 7 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 7,008 ล้านบาท หลังราคาพันธบัตรไทยปรับฐานลงเป็นวันที่ 2 ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 2 อีก 2.47bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 5.20bps ปิดที่ 2.814%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling เพิ่มขึ้นเป็น 773 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 649 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR คงการขายสุทธิเป็นวันที่ 3 คงลดน้ำหนัก ICT ต่อเนื่อง
การซื้อขายผ่าน NVDR ขายสุทธิอีก 261 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 357 ล้านบาท รวม 3 วันทำการขายสุทธิหนา 2,372 ล้านบาท เทียบกับ 7 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 7,262 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นการลดการลงทุนใน ICT ต่อเนื่อง สรุปภาพรวมได้ดังนี้
1. กลุ่ม ICT ถูกขายสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 4 อีก 286 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 467 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มปิโตรเคมี ขายสุทธิ 171 ล้านบาท และกลุ่มพลังงาน ขายสุทธิ 82 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 73 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่มธนาคารซื้อสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 2 อีก 135 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 143 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มโรงพยาบบาล ซื้อสุทธิ 125 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาดเล็กน้อย
GDP ใน 2Q58 เติบโต 3.9% qoq ดีกว่า Bloomberg consensus คาด 3.7% qoq และตัวเลขก่อนหน้าที่ 3.7% qoq โดยการบริโภคภายในประเทศปรับขึ้นเป็น 3.6% qoq เป็นผลจากภาคบริการที่แข็งแกร่ง
ดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น เดือนก.ย. เท่ากับ 55.6 จุด ใกล้เคียงกับ Bloomberg consensus คาด 55.5 จุด และเดือนก่อนหน้าที่ 55.2 จุด ทั้งนึ้คำสั่งซื้อใหม่ปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 และต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.
ยุโรป
รัสเซียและยูเครนได้ข้อตกลงเรื่องท่อส่งก๊าซในอียู: โดยรัสเซียจะส่งขายก๊าซผ่านท่อของยูเครนในฤดูหนาวนี้ เริ่มต้นเดือนต.ค.นี้ จนถึงเดือนมี.ค. 2559 เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดความเสี่ยงที่อียูจะขาดก๊าซในช่วงที่มีการเปลี่ยนถ่าย ทั้งนี้ราคาจะมีการปรับตัวลงรายไตรมาส จนเท่ากับ หรือ ใกล้เคียงกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างโปแลนด์ ราคาที่รัสเซียเสนอขายเท่ากับ US$227 ต่อ เมตริกตัน จนถึงเดือนธ.ค. ลดลงจากราคาก่อนหน้าที่ประเมินไว้ที่ US$252
จีน
ไม่มี
เอเชียแปซิฟิก
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสิงคโปร์หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7: หดตัว 7.0% yoy ในเดือน ส.ค. จากเดือนก่อนหน้าที่หดตัว 6.4% yoy ทั้งนี้เป็นการหดตัวแรงสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย.และหดตัวแรงกว่าที่ Bloomberg Consensus คาด -5.3% yoy นำโดยอิเล็กทรอนิกส์และเวชภัณฑ์ที่หดตัว 10.9% yoy และ 6.3% yoy ตามลำดับ
ไทย
ธปท.ปรับประมาณการ GDP ปี 2558-2559 ลง:
GDP ในปีนี้ปรับลงเป็น 2.7% จากเดิมคาด 3.0% โดยปรับลดประมาณการส่งออกปีนี้ -5.0% yoy จากเดิมที่คาด -1.5% และการลงทุนภาคเอกชนปีนี้ คาดว่าจะ -0.5% จากเดิมคาด +2.7% เป็นปัจจัยหลักในการปรับประมาณการครั้งนี้
GDP ในปี 2559 ปรับลงเป็น 3.7% จากเดิมคาด 4.1% โดยปรับประมาณการการส่งออกขยายตัว 1.2% จากเดิม +2.5% และการบริโภคภาคเอกชนขยาตัว 2.7% ลดลงจากเดิมที่คาด 3.1% ส่วนการลงทุนภาคเอกชนปรับลงเล็กน้อยเป็น 5.4% จากเดิม 6.3%
อัตราเงินเฟ้อปี 2558 คาด -0.9% ติดลบมากขึ้นจากเดิมที่คาด -0.5%
ส่วนอัตราเงินเฟ้อปี 2559 คาด 1.2% ลดลงจากเดิมที่คาด 1.6%
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530