- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 25 September 2015 17:36
- Hits: 5943
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA -78.57, NASDAQ -18.26, S&P -6.52, FTSE -70.75, CAC -85.59 และ DAX -184.98 ภายใต้ปัจจัยลบจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่มีทั้งบวกและลบ โดย (1) ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน - สค. ลดลง 2%MoM (2) ยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น – สค. เพิ่มขึ้น5.7%MoM อยู่ที่ 552,000 ยูนิต และ (3) จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ล่าสุดเพิ่มขึ้น 3,000 ราย อยู่ที่ 267,000 ราย ขณะที่อยู่ระหว่าง ประธานเฟดกล่าวสุนทรพจน์ที่เมืองแอมเฮิร์สท์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ในหัวข้อ "Inflation Dynamics and Monetary Policy" โดยมีการคาดการณ์ว่า อาจจะส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้? อย่างไรก็ตามความไม่แน่นอนเกี่ยวกับระยะเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และการส่งสัญญาณในทิศทางที่แตกต่างกันของเจ้าหน้าที่เฟดในช่วงที่ผ่านมา สร้างแรงกดดันต่อภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นฯ
.....ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรป ได้รับปัจจับลบเพิ่มจากประเด็นข่าวอื้อฉาวของโฟล์คสวาเกน อาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจเยอรมนี เนื่องจากโฟล์คสวาเกนเป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่ และมีการจ้างงานจำนวนมาก
.....ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน พ.ย. +US$0.43 อยู่ที่ US$44.91 ต่อบาร์เรล ส่วนหนึ่งจากการเข้าซื้อเก็งกำไร และยังได้รับปัจจัยบวกจากเงินสหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง แต่การปรับขึ้นเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากปัจจัยลบข้างต้น
.....ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. +US$22.3 อยู่ที่ US$1,153.8 ต่อออนซ์ จากเงินสหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง ทำให้สัญญาทองคำ มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นๆ ขณะที่อยู่ระหว่างรอสุนทรพจน์ของประธานเฟดข้างต้น
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -2,367 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -98,571 ล้านบาท (ปี’57 มียอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)
ทิศทางตลาด :
ทิศทางตลาด : Sideway? ภายใต้ประเด็นในประเทศที่แม้ไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ๆ แต่คาดยังถูกกดดันจาก Fund Flow หลังต่างชาติยังขายสุทธิต่อเนื่อง และทำให้ YTD สูงกว่า 98,000 ล้านบาท ขณะที่ค่าเงินบาทยังมีทิศทางอ่อนค่า คาดน่าจะส่งผลต่อการไหลกลับเข้ามาของ Fund Flow?
.....อย่างไรก็ตามคาดยังได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐที่มีต่อเนื่อง โดยเฉพาะ (1) มาตรการช่วยเหลือภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่คาดมีความชัดเจน 2 สัปดาห์ข้างหน้า คาดเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และ (2) การเร่งรัดเปิดประมูลโครงการต่างๆ ของภาครัฐ คาดยังส่งผลดีต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งล่าสุดกำหนดยื่นซองประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่คลอง 19 – แก่งคอย สัญญา ที่ 1 และสัญญาที่ 2 มูลค่าประมาณ 9,277 ล้านบาท และ 559 ล้านบาท ตามลำดับ ในวันที่ 30/9/58 และคาดทราบผลในวันที่ 5/11/58
.....เช่นเดียวกับประเด็นต่างประเทศ ที่ไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ๆ แต่คาดยังได้รับปัจจัยกดดันจากความไม่แน่นอนทั้งระยะเวลา และการขึ้น / ไม่ขึ้นดอกเบี้ย ของเฟด (เหลือการประชุมของเฟดอีก 2 ครั้งในปีนี้ : 27 – 28/10/58 และ 15 – 16/12/58) ส่วนหนึ่งจากการส่งสัญญาณในทิศทางที่แตกต่างกันของเจ้าหน้าที่เฟดในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่สุนทรพจน์ล่าสุดของประธานเฟด คาดว่าเฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงต่อไปของปีนี้ ภายใต้อัตราเงินเฟ้อ ที่ทรงตัว และเศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแกร่งเพียงพอต่อการกระตุ้นการจ้างงาน
....และคาดยังคงมีความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะจีน อย่างไรก็ตามยังแนะติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของจีนที่คาดอาจเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมตลาดหลังจากนี้ไป จากก่อนหน้าที่มีความพยายามฟื้นฟูความเชื่อมั่น เพิ่มสภาพคล่อง รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยใช้มาตรการผ่อนคลาย ทั้งการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) และอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ
....ยังแนะติดตาม (1) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, PTTGC, TOP และ BCP จะได้รับผลกระทบจากการขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในช่วง 3Q/58 แต่เรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นในช่วงที่ราคาอ่อนตัวสำหรับการลงทุนในระยะยาวกลาง – ยาว ขณะที่ล่าสุดค่าการกลั่นอยู่ที่ US$8.8 ปรับขึ้นต่อเนื่องหลังลงไประดับต่ำสุด US$4 เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา (2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่คาดยังคงได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐ เช่น ITD, STEC, TRC และ UNIQ (3) ค่าเงินบาท ล่าสุดเคลื่อนไหวบริเวณ 36.24 – 36.26 และมีทิศทางอ่อนค่าลง (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่คาดได้รับ
ประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น TASCO และ VNG เป็นต้น (5) กลุ่มโรงแรม (CENTEL) และหุ้นกลุ่มสายการบิน (เช่น AAV, BA) หลังสถานการณ์การท่องเที่ยวมีแนวโน้มทรงตัว และคาดดีขึ้น โดยเฉพาะช่วง High season ในช่วง 4Q/58 (6) กลุ่มสื่อสาร (ADVANC) หลัง กสทช. จะเปิดประมูลใบอนุญาต 4G คลื่นความถี่ 1,800 MHz และ 900 เมกะเฮิร์ตซ์ (MHz) ในวันที่ 11/11/58 และ15/12/58 ตามลำดับ และ (7) Window Dressing – 3Q/58 ในวันที่ 30/9/58
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี เพิ่มขึ้น -0.02 อยู่ที่ 2.12% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) +1.34 อยู่ที่ 23.47
หุ้นแนะนำ : CENTEL
ประเด็นที่ต้องติดตาม (25 - 30กย.’58)
25/9/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้าย GDP – 2Q/58 (2) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้น - กย.(3) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้าย - กย.
30/9/58 : Window Dressing – 3Q/58
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788