- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 24 September 2015 17:18
- Hits: 3980
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้ โดย ยศพณ แสงนิล, CFA : แกว่งแคบกรอบ 1365-1385
เราคาดว่าตลาดไทยวันนี้มีแนวโน้มแกว่งในกรอบแคบ โดยปัจจัยกดดันจากต่างประเทศยังมีอยู่ทั้งราคาน้ำมันที่พักฐานลงจากความกังวลประเด็นเศรษฐกิจจีนชะลอตัว หลังจากตัวเลข PMI ภาคการผลิตของจีนรายงานออกมาต่ำ สุดในรอบ 6 ปี ประกอบกับประธานธนาคารกลางยุโรปประกาศจะยังไม่เพิ่มอัตราการอัดฉีดเม็ดเงิน QE ดังนั้น ปัจจัยหนุนจากต่างประเทศถือว่ามีไม่มากในช่วงนี้ อย่างไรก็ตาม ภายในประเทศไทย sentiment โดยรวมถือว่าไม่แย่ ด้วยแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ทยอยออกมาและการประมูลรถไฟรางคู่ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มรับเหมาวัสดุก่อสร้างและแบงก์อยู่บ้างในช่วงนี้
แนวรับ/แนวต้าน : 1370/1400 สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%
กลยุทธ์ : เริ่มสะสมหุ้นเมื่อดัชนีย่อลง เน้นพื้นฐานดี ปันผลสูง และได้ประโยชน์จากโครงการรัฐและ window dressing ทยอยขายบ้างเมื่อเข้าใกล้ 1400 จุด
นักลงทุนระยะสั้น : CSS (6.20), BROCK (3.20)
CSS (6.20) ประกอบธุรกิจออกแบบและติดตั้งเสาแดงและอุปกรณ์รับส่งสัญญาณ ลูกค้าหลักก็คือบริษัทยักษ์ใหญ่ในกลุ่มสื่อสาร อย่างเช่น TRUE และ DTAC ราคาหุ้นเคยขึ้นจาก 6 บาทไป 8 บาทช่วงต้นปี แล้วก็ไหลลงมาเรื่อยๆจนปัจจุบันเหลือ 5 บาทต้นๆ เพราะบริษัทประกาศยกเลิกการลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้ า solar farm ที่ญี่ปุ่น บวกกับนักลงทุนเริ่มกังวลกันเรื่องที่บริษัทยังไม่มีงาน Backlog ที่ชัดเจนรอไว้สำหรับปี หน้าถึงแม้ว่าปี นี้จะมีรายได้และกำไรเติบโตดีก็ตาม กลยุทธ์สำหรับหุ้นตัวนี้เรามองว่า ใครที่ติดอยู่ตํ่ากว่า 6 บาท อุ่นใจได้ ถือต่อและควรซื้อต่อถ้าเห็นตํ่ากว่า 5 บาทอีก ภายในสิ้นปี นี้น่าจะได้เห็นกลับขึ้นไป 6 บาทได้เพราะ 1)ไตรมาส 4 ปกติและจะเป็ น High season ของธุรกิจสื่อสาร ทำให้น่าจะมีงานใหม่เป็น Backlog มาเพิ่มสำหรับปีหน้า 2)การประมูล 4G จะช่วยเสริม sentiment กลุ่มสื่อสารให้เป็ นบวก แต่ถ้าเห็น 6 บาทภายในสิ้นปี นี้ อย่าโลภนะครับ ต้องขาย เพราะ CSS-W1 จะหมดอายุในเดือน มี.ค.59 (120 ล้านหุ้น) 1:1.201 หุ้น ราคาใช้สิทธิ์ 1.249 บาท สรุปคือถ้าเห็น CSS ตํ่ากว่า 5 บาท ซื้อ เห็น 6 บาท เผ่นครับ
BROCK (3.20) มีแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3 จะออกมาดีมาก แถมแผนการเจรจากับพันธมิตรร่วมลงทุนโครงการอสังหาในภูเก็ตกว่า 1 หมื่นล้านบาทใกล้จะประกาศออกมาในอีกไม่ช้า จึงเหมาะไว้เล่นสั้นเก็งกำไร ถ้ายืนเหนือ 2.80 ได้สักพักจะไปต่อได้อีกถึง 3.20 ก็ไม่ยาก
นักลงทุนระยะยาว : BDMS (25.50), STEC (31)
BDMS (25.50) โดยขณะนี้ BDMS มีราคาถูกที่สุดและ upside ที่สูงที่สุดในกลุ่มโรงพยาบาล ด้วย Target price ที่เราให้ไว้อยู่ที่ 25.50 ซึ่งให้ upside สูงถึง 30% ปัจจัยบวก มีอยู่หลายประการนะครับ เช่น 1.)BDMS จะสร้างตึกเพิ่มอีก 6 ตึก แต่ละตึกมี 60 เตียง ลงทุน 6 พันล้านบาท และ 2 พันล้านบาท เพื่อซื้ออุปกรณ์การแพทย์ โดยจะสร้างไว้รองรับผู้ป่วยต่างชาติจากการเปิด AEC โดยเราคาดว่าจะช่วยเพิ่ม capacity ได้ถึง 74% ภายในปี 2018 2.)BDMS มีแผนเปิ ดโรงพยาบาลเพิ่ม คือสมิทติเวช ชลบุรีในปีนี้ และเปาโลรังสิต และจอมเทียน Hospital ในปี หน้า และตั้งใจจะซื้อโรงพยาบาลเพิ่มอีก 6 โรงพยาบาลให้มีครบทั้งหมด 50 แห่ง 3.)อัตราส่วนของผู้ป่ วยต่างชาติมีมากขึ้นเรื่อยๆ (30% เทียบกับ 25% เมื่อ 5 ปีก่อน) 4.)มีแผนขยายธุรกิจขายยาและเวชภัณฑ์ที่มี Margin สูงกว่าธุรกิจโรงพยาบาลทั่วไป สรุปคือ BDMS มี upside สูงถึง 30% และมีแผนขยายธุรกิจอย่างชัดเจน จัดเป็ นหุ้น defensive ที่ต้านตลาดและเศรษฐกิจขาลงได้ดี
STEC (31) เป็นหุ้นที่มีพื้นฐานดีสุดในบรรดารับเหมารายใหญ่ทั้งหมด กระแสเงินสดสูง กำไรมั่งคง margin สูงกว่าคู่แข่งด้วยและจะได้ประโยชน์จากการประมูลโครงการรถไฟรางคู่เร็วๆนี้
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุน
ปัจจัยภายในประเทศ
+ "คลัง" ประเมินภาระงบเพื่อสวัสดิการชราภาพของรัฐเพิ่มขึ้น เสี่ยง "งบประมาณ-ฐานะการคลัง" คาดภายใน 10 ปี ยอดสูง 8.7 แสนล้าน 2.98% ต่อจีดีพี ด้าน "สศค." แนะรัฐเพิ่มช่องทางรายได้ และแหล่งเงินรองรับ ระบุช่องทางเดียวเร่งผลักดันเก็บภาษีที่ดิน ดึงเงินกว่าแสนล้านเพิ่มรายได้รัฐ
+ ทัวร์จีนเผย "โกลเด้นวีค" ปีนี้ นักท่องเที่ยวจีนฟื้น 80% หลังระเบิดฉุดตลาดฮวบ 35% มั่นใจแนวโน้มฟื้นแรงช่วงปี ใหม่ ต่อเนื่องตรุษจีนปีหน้า รุดโรดโชว์ร่วม ทอท. กระจายจุดหมายเข้าเชียงราย-กระบี่ ไม่ผ่านกรุงเทพฯหนีแออัด ขณะฮ่องกงลดระดับคำเตือนพลเมืองมาไทยแล้ว
- โพลล์รอยเตอร์เผยดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจไทย ในไตรมาส 3 ร่วงตํ่าสุดรอบเกือบ 2 ปี เช่นเดียวกับความเชื่อมั่นธุรกิจขนาดใหญ่ในเอเชีย เหตุกังวลผลกระทบเศรษฐกิจจีน ทางด้าน สศช.เตือน ขยายเพดานเอกชนร่วมลงทุนรัฐเป็น 5,000 ล้าน เปิดช่องทุจริตพุ่ง ชี้พันล้านมีแค่ 40 งาน
- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมไทยมาถึงจุดที่ต้องเปลี่ยนผ่านเปลี่ยนแปลงและพัฒนา จากต้นทุนที่ถูกกว่า คุณภาพที่ดีกว่า หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งผู้ประกอบการรู้ตัวมานาน แต่ยังคิดว่ายังสามารถอยู่ได้ แต่ปัจจุบันสินค้าอุตสาหกรรมของไทยอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถแข่งขันได้ทั้งด้านต้นทุนการผลิต ค่าแรง และเทคโนโลยีต่างๆ ทำให้เสี่ยงต่อการที่ประเทศคู่แข่งจะพัฒนาขึ้นมาได้ทันในเร็วๆ นี้
ปัจจัยต่างประเทศ
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,279.89 จุด ลดลง 50.58 จุด หรือ -0.31%
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิ ดลบเมื่อคืนนี้ (23 ก.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน และข้อมูลที่บ่งชี้ว่าภาคการผลิตเดือนก.ย.ของสหรัฐเคลื่อนไหวที่ระดับตํ่าสุดในรอบ 2 ปี นอกจากนี้ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากการที่นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณว่า ECB จะยังไม่ใช้มาตรการผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติม
- ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 96.40 จุด หรือ 1.62% ที่ 6,032.24 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (23 ก.ย.) จากระดับตํ่าสุดในรอบเกือบ 1 เดือน เพราะได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มพลังงาน ถึงแม้ว่าจีนจะเปิ ดเผยข้อมูลภาคการผลิตที่ชะลอตัวลง
+ สัญญาน้ำมันดิบ ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 1.88 ดอลลาร์ หรือ 4.1% ปิดที่ 44.48 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ตลาดนิวยอร์กปิ ดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (23 ก.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว
นักวิเคราะห์ : ยศพณ แสงนิล, CFA Email : [email protected] Tel: 02 659 8154