WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

UOB copyบล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้ โดย ยศพณ แสงนิล, CFA : ซึมลงอีกวัน
       เราคาดว่าตลาดไทยวันนี้มีแนวโน้มปรับลงได้ต่อ หลังจากที่ปิดต่ำกว่าแนวรับที่ 1380 เมื่อวานบวกกับในเชิงพื้นฐานยังคงได้รับผลกระทบจากประเด็น SSI ที่จะส่งผลให้ KTB SCB และ TISCO ตั้งสำรองมากขึ้นและนักวิเคราะห์เริ่มปรับประมาณการกำไรของกลุ่มแบงก์ลง ส่วนแรงกดดันอีกอย่างคือ พอร์ตโบรกเกอร์ที่มีโอกาสขายต่อเนื่องอีกวัน หลังจากที่ซื้อไปมากเมื่อสัปดาห์ก่อน อย่างไรก็ตาม เรามองว่าเป็นโอกาสดีหากดัชนีย่อลงแรง ให้เข้าสะสมหุ้นรายตัวที่จะได้ประโยชน์จาก window dressing และราคาน้ำมันที่จะเริ่มขยับฟื้นตัวขึ้นในไตรมาสที่ 4 บวกกับหุ้นกลุ่มรับเหมาที่จะได้ผลบวกจากการประมูลรถไฟรางคู่ในเดือนนี้
  แนวรับ/แนวต้าน : 1370/1400 สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%
  กลยุทธ์ : เริ่มสะสมหุ้นเมื่อดัชนีย่อลง เน้นพื้นฐานดี ปันผลสูง และได้ประโยชน์จากโครงการรัฐและ window dressing ทยอยขายบ้างเมื่อเข้าใกล้ 1400 จุด

นักลงทุนระยะสั้น : CSS (6.20), BROCK (3.20)
  CSS (6.20) ประกอบธุรกิจออกแบบและติดตั้งเสาแดงและอุปกรณ์รับส่งสัญญาณ ลูกค้าหลักก็คือบริษัทยักษ์ใหญ่ในกลุ่มสื่อสาร อย่างเช่น TRUE และ DTAC ราคาหุ้นเคยขึ้นจาก 6 บาทไป 8 บาทช่วงต้นปี แล้วก็ไหลลงมาเรื่อยๆจนปัจจุบันเหลือ 5 บาทต้นๆ เพราะบริษัทประกาศยกเลิกการลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้า solar farm ที่ญี่ปุ่น บวกกับนักลงทุนเริ่มกังวลกันเรื่องที่บริษัทยังไม่มีงาน Backlog ที่ชัดเจนรอไว้สำหรับปีหน้าถึงแม้ว่าปีนี้จะมีรายได้และกำไรเติบโตดีก็ตาม กลยุทธ์สำหรับหุ้นตัวนี้เรามองว่า ใครที่ติดอยู่ต่ำกว่า 6 บาท อุ่นใจได้ ถือต่อและควรซื้อต่อถ้าเห็นต่ำกว่า 5 บาทอีก ภายในสิ้นปีนี้น่าจะได้เห็นกลับขึ้นไป 6 บาทได้เพราะ 1)ไตรมาส 4 ปกติและจะเป็น High season ของธุรกิจสื่อสาร ทำให้น่าจะมีงานใหม่เป็น Backlog มาเพิ่มสำหรับปีหน้า 2)การประมูล 4G จะช่วยเสริม sentiment กลุ่มสื่อสารให้เป็นบวก แต่ถ้าเห็น 6 บาทภายในสิ้นปีนี้ อย่าโลภนะครับ ต้องขาย เพราะ CSS-W1 จะหมดอายุในเดือน มี.ค.59 (120 ล้านหุ้น) 1:1.201 หุ้น ราคาใช้สิทธิ์ 1.249 บาท สรุปคือถ้าเห็น CSS ต่ำกว่า 5 บาท ซื้อ เห็น 6 บาท เผ่นครับ
  BROCK (3.20) มีแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3 จะออกมาดีมาก แถมแผนการเจรจากับพันธมิตรร่วมลงทุนโครงการอสังหาในภูเก็ตกว่า 1 หมื่นล้านบาทใกล้จะประกาศออกมาในอีกไม่ช้า จึงเหมาะไว้เล่นสั้นเก็งกำไร ถ้ายืนเหนือ 2.80 ได้สักพักจะไปต่อได้อีกถึง 3.20 ก็ไม่ยาก

นักลงทุนระยะยาว : BDMS (25.50), STEC (31)
  BDMS (25.50) โดยขณะนี้ BDMS มีราคาถูกที่สุดและ upside ที่สูงที่สุดในกลุ่มโรงพยาบาล ด้วย Target price ที่เราให้ไว้อยู่ที่ 25.50 ซึ่งให้ upside สูงถึง 30% ปัจจัยบวก มีอยู่หลายประการนะครับ เช่น 1.)BDMS จะสร้างตึกเพิ่มอีก 6 ตึก แต่ละตึกมี 60 เตียง ลงทุน
6 พันล้านบาท และ 2 พันล้านบาท เพื่อซื้ออุปกรณ์การแพทย์ โดยจะสร้างไว้รองรับผู้ป่วยต่างชาติจากการเปิด AEC โดยเราคาดว่าจะช่วยเพิ่ม capacity ได้ถึง 74% ภายในปี 2018 2.)BDMS มีแผนเปิดโรงพยาบาลเพิ่ม คือสมิทติเวช ชลบุรีในปีนี้ และเปาโลรังสิต และจอมเทียน Hospital ในปีหน้า และตั้งใจจะซื้อโรงพยาบาลเพิ่มอีก 6 โรงพยาบาลให้มีครบทั้งหมด 50 แห่ง 3.)อัตราส่วนของผู้ป่วยต่างชาติมีมากขึ้นเรื่อยๆ (30% เทียบกับ 25% เมื่อ 5 ปีก่อน) 4.)มีแผนขยายธุรกิจขายยาและเวชภัณฑ์ที่มี Margin สูงกว่าธุรกิจโรงพยาบาลทั่วไป สรุปคือ BDMS มี upside สูงถึง 30% และมีแผนขยายธุรกิจอย่างชัดเจน จัดเป็นหุ้น defensive ที่ต้านตลาดและเศรษฐกิจขาลงได้ดี
  STEC (31) เป็นหุ้นที่มีพื้นฐานดีสุดในบรรดารับเหมารายใหญ่ทั้งหมด กระแสเงินสดสูง กำไรมั่งคง margin สูงกว่าคู่แข่งด้วยและจะได้ประโยชน์จากการประมูลโครงการรถไฟรางคู่เร็วๆนี้

นักวิเคราะห์ : ยศพณ แสงนิล, CFA Email : [email protected] Tel: 02 659 8154

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!