- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 22 September 2015 18:04
- Hits: 3717
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA +125.61, NASDAQ +1.73, S&P +8.94, FTSE +4.60, CAC +32.35 และ DAX +49.65 หลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขยอดขายบ้านมือสอง – สค. แม้จะลดลง 4.8%MoM อยู่ที่ 5.31 ล้านยูนิต แต่เพิ่มขึ้น 6.2%YoY และได้รับปัจจัยหนุนจากมุมมองในเชิงบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังประธานเฟดสาขาแอตแลนตากล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มแข็งแกร่ง เพียงพอที่จะทำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปีนี้ ซึ่งเฟดซึ่งจะมีประชุมในครั้งถัดไป 27 – 28/10/58
.....ส่วนทางด้านตลาดหุ้นยุโรป มีแรงซื้อเก็งกำไร และติดตามการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) เดือนหน้า ภายใต้การคาดการณ์ว่า ECB อาจจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยเฉพาะการปรับโครงการซื้อพันธบัตรวงเงินกว่า 1 ล้านล้านยูโร ที่มีก่อนหน้านี้
.....ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ต.ค. +US$2.00 อยู่ที่ US$46.68 ต่อบาร์เรล หลัง EIA เปิดเผยปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ล่าสุด ลดลง 18,000 บาร์เรล อยู่ที่ 9.117 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาดได้ในระดับหนึ่ง และยังได้รับปัจจัยหนุนจากปัจจัยข้างต้น โดยเฉพาะมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
.....ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. -US$5.0 อยู่ที่ US$1,132.8 ต่อออนซ์ หลังเงินสหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น ส่วนหนึ่งจากประธานเฟด สาขาแอตแลนตา ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
(+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +59 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -91,385 ล้านบาท (ปี’57 มียอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)
ทิศทางตลาด
ทิศทางตลาด : Sideway? คาดมีโอกาสเคลื่อนไหวทั้ง + / - ภายใต้มุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ซึ่งเพียงพอให้เฟดพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ (เฟดมีการประชุมในวันที่ 27 – 28/10/58 และ 15 – 16/12/58) ขณะที่ยูโรโซนมีแนวโน้มใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไปเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่อ่อนแอ คาดทั้ง 2 ปัจจัยสร้างความผันผวนให้กับตลาดฯ โดยยังแนะติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของจีนที่คาดอาจเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมตลาดหลังจากนี้ไป จากก่อนหน้าที่มีความพยายามฟื้นฟูความเชื่อมั่น เพิ่มสภาพคล่อง รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยใช้มาตรการผ่อนคลาย ทั้งการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) และอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ
.....ส่วนทางด้านปัจจัยในประเทศ ภาพรวมยังไม่มีประเด็นชี้นำใหม่ๆ คาดอยู่ระหว่างรอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่คาดออกมาต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลดค่าธรรมเนียมการโอน การจดจำนอง ซึ่งกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณา คาดส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการต่างๆ ของภาครัฐ ที่คาดส่งผลดีต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
.....ทางด้านภาพรวม Fund Flow ยังมีความผันผวน แรงซื้อขายสุทธิต่างชาติสลับกัน ยังแนะติดตามค่าเงินบาท ที่ล่าสุดกลับมาอ่อนค่าลง คาดน่าจะส่งผลต่อการไหลกลับเข้ามาของ Fund Flow?
....และยังแนะติดตาม (1) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, PTTGC, TOP และ BCP จะได้รับผลกระทบจากการขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในช่วง 3Q/58 แต่เรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นในช่วงที่ราคาอ่อนตัวสำหรับการลงทุนในระยะยาวกลาง – ยาว (2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่คาดยังคงได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐ เช่น ITD, STEC, TRC และ UNIQ (3) ค่าเงินบาท ล่าสุดเคลื่อนไหวบริเวณ 35.93 – 35.95 และมีทิศทางอ่อนค่าลง (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น TASCO และ VNG เป็นต้น (5) กลุ่มโรงแรม (CENTEL) และหุ้นกลุ่มสายการบิน (เช่น AAV, BA) หลังสถานการณ์การท่องเที่ยวมีแนวโน้มทรงตัว และคาดดีขึ้น โดยเฉพาะช่วง High season ในช่วง 4Q/58 (6) กลุ่มสื่อสาร (ADVANC) หลัง กสทช. จะเปิดประมูลใบอนุญาต 4G คลื่นความถี่ 1,800 MHz และ 900 เมกะเฮิร์ตซ์ (MHz) ในวันที่ 11/11/58 และ15/12/58 ตามลำดับ และ (7) Window Dressing – 3Q/58 ในวันที่ 30/9/58
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี เพิ่มขึ้น +0.08 อยู่ที่ 2.21% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) -2.14 อยู่ที่ 20.14
หุ้นแนะนำ : CENTEL
ประเด็นที่ต้องติดตาม (22 - 25 กย.’58)
22/9/58 : - ไม่มีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ –
23/9/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้น - กย. (2) สต็อกน้ำมัน
24/9/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน - สค. (2) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (3) ดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศ - สค. (4) ยอดขายบ้านใหม่ - สค.
25/9/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้าย GDP – 2Q/58 (2) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้น - กย. (3) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้าย - กย.
หุ้นแนะนำ
CENTEL : ราคาเป้าหมาย (ปี’58) 40.00 บาท
ภายใต้สถานการณ์การท่องเที่ยว ที่คาดเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ คาดทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศในปี’58 เป็นไปตามเป้าหมายที่ 28.0 ล้านคน ขณะเริ่มเข้าสู่ช่วงของ High Season ซึ่งคาดส่งผลดีต่อกลุ่มผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว รวมถึงโรงแรม เช่น CENTEL
ขณะที่ 5 ปีข้างหน้า CENTEL มีแผนใช้เงินลงทุนรวม 26,000 ล้านบาท ขยายร้านอาหาร สาขาโรงแรมในที่ต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะในมัลดีฟซึ่งเป็นพื้นที่ที่กำไรเติบโตเร็วที่สุดในช่วงที่ผ่านมา ทำให้คาดกำไรของธุรกิจโรงแรมในปี’58 จะเติบโตอย่างโดดเด่นจากฐานที่ต่ำในปีที่แล้ว ขณะที่ธุรกิจอาหารจะได้รับผลบวกจาก Profit margin ที่มากขึ้นจากการปลดร้านอาหารและสาขาที่ไม่คุ้มทุน และได้รับประโยชน์จากต้นทุนวัตถุดิบ รวมถึงต้นทุนเชื้อเพลิงที่มีทิศทางปรับตัวลง คาดผลการดำเนินงานในปี’58 มีกำไรสุทธิ 1,446 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22%
ประเมินราคาเป้าหมายที่ 40.00 บาท
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788