- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 22 September 2015 18:02
- Hits: 3507
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้ โดย ยศพณ แสงนิล, CFA : ลุ้นทดสอบแนวต้าน 1400 จุดเราคาดว่าตลาดไทยวันนี้มีแนวโน้มผันผวนเชิงบวก โดยปัจจัยหนุนได้แก่ ตลาดหุ้นจีนที่เริ่มทรงตัวได้และนักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะยังขึ้นดอกเบี้ยในปี นี้จากเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งขึ้น เห็นจากตัวเลขยอดขายบ้านมือสองที่ล่าสุดออกมาดีกว่าหลายฝ่ายคาด ส่วนภายในประเทศไทย ติดตามการประชุม ครม. วันนี้เพื่อพิจารณาการอนุมัติแผนลงทุนเร่งด่วนโครงการรถไฟฟ้ า 6 โครงการ มูลค่า 4.2 แสนล้านบาท น่าจะช่วยหนุน sentiment โดยรวม
แนวรับ/แนวต้าน : 1370/1400 สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%
กลยุทธ์ : เน้นพื้นฐานดี ปันผลสูง และได้ประโยชน์จากโครงการรัฐ ทยอยขายบ้างเมื่อเข้าใกล้ 1400 จุด
นักลงทุนระยะสั้น : CSS (6.20), BROCK (3.20)
CSS (6.20) ประกอบธุรกิจออกแบบและติดตั้งเสาแดงและอุปกรณ์รับส่งสัญญาณ ลูกค้าหลักก็คือบริษัทยักษ์ใหญ่ในกลุ่มสื่อสาร อย่างเช่น TRUE และ DTAC ราคาหุ้นเคยขึ้นจาก 6 บาทไป 8 บาทช่วงต้นปี แล้วก็ไหลลงมาเรื่อยๆจนปัจจุบันเหลือ 5 บาทต้นๆ เพราะบริษัทประกาศยกเลิกการลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้ า solar farm ที่ญี่ปุ่น บวกกับนักลงทุนเริ่มกังวลกันเรื่องที่บริษัทยังไม่มีงาน Backlog ที่ชัดเจนรอไว้สำหรับปี หน้าถึงแม้ว่าปี นี้จะมีรายได้และกำไรเติบโตดีก็ตาม กลยุทธ์สำหรับหุ้นตัวนี้เรามองว่า ใครที่ติดอยู่ตํ่ากว่า 6 บาท อุ่นใจได้ ถือต่อและควรซื้อต่อถ้าเห็นตํ่ากว่า 5 บาทอีก ภายในสิ้นปี นี้น่าจะได้เห็นกลับขึ้นไป 6 บาทได้เพราะ 1)ไตรมาส 4 ปกติและจะเป็ น High season ของธุรกิจสื่อสาร ทำให้น่าจะมีงานใหม่เป็น Backlog มาเพิ่มสำหรับปีหน้า 2)การประมูล 4G จะช่วยเสริม sentiment กลุ่มสื่อสารให้เป็ นบวก แต่ถ้าเห็น 6 บาทภายในสิ้นปี นี้ อย่าโลภนะครับ ต้องขาย เพราะ CSS-W1 จะหมดอายุในเดือน มี.ค.59 (120 ล้านหุ้น) 1:1.201 หุ้น ราคาใช้สิทธิ์ 1.249 บาท สรุปคือถ้าเห็น CSS ตํ่ากว่า 5 บาท ซื้อ เห็น 6 บาท เผ่นครับ
BROCK (3.20) มีแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3 จะออกมาดีมาก แถมแผนการเจรจากับพันธมิตรร่วมลงทุนโครงการอสังหาในภูเก็ตกว่า 1 หมื่นล้านบาทใกล้จะประกาศออกมาในอีกไม่ช้า จึงเหมาะไว้เล่นสั้นเก็งกำไร ถ้ายืนเหนือ 2.80 ได้สักพักจะไปต่อได้อีกถึง 3.20 ก็ไม่ยาก
นักลงทุนระยะยาว : BDMS (25.50), STEC (31)
BDMS (25.50) โดยขณะนี้ BDMS มีราคาถูกที่สุดและ upside ที่สูงที่สุดในกลุ่มโรงพยาบาล ด้วย Target price ที่เราให้ไว้อยู่ที่ 25.50 ซึ่งให้ upside สูงถึง 30% ปัจจัยบวก มีอยู่หลายประการนะครับ เช่น 1.)BDMS จะสร้างตึกเพิ่มอีก 6 ตึก แต่ละตึกมี 60 เตียง ลงทุน 6 พันล้านบาท และ 2 พันล้านบาท เพื่อซื้ออุปกรณ์การแพทย์ โดยจะสร้างไว้รองรับผู้ป่วยต่างชาติจากการเปิด AEC โดยเราคาดว่าจะช่วยเพิ่ม capacity ได้ถึง 74% ภายในปี 2018 2.)BDMS มีแผนเปิดโรงพยาบาลเพิ่ม คือสมิทติเวช ชลบุรีในปีนี้ และเปาโลรังสิต และจอมเทียน Hospital ในปี หน้า และตั้งใจจะซื้อโรงพยาบาลเพิ่มอีก 6 โรงพยาบาลให้มีครบทั้งหมด 50 แห่ง 3.)อัตราส่วนของผู้ป่ วยต่างชาติมีมากขึ้นเรื่อยๆ (30% เทียบกับ 25% เมื่อ 5 ปีก่อน) 4.)มีแผนขยายธุรกิจขายยาและเวชภัณฑ์ที่มี Margin สูงกว่าธุรกิจโรงพยาบาลทั่วไป สรุปคือ BDMS มี upside สูงถึง 30% และมีแผนขยายธุรกิจอย่างชัดเจน จัดเป็ นหุ้น defensive ที่ต้านตลาดและเศรษฐกิจขาลงได้ดี
STEC (31) เป็ นหุ้นที่มีพื้นฐานดีสุดในบรรดารับเหมารายใหญ่ทั้งหมด กระแสเงินสดสูง กำไรมั่งคง margin สูงกว่าคู่แข่งด้วยและจะได้ประโยชน์จากการประมูลโครงการรถไฟรางคู่เร็วๆนี้
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุน
ปัจจัยภายในประเทศ
+ "สุวิทย์" แนะผู้ประกอบการไทย เพิ่มขีดแข่งขัน สอดคล้องสถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลงหลากมิติ จี้ปรับทัศนคติจากยุคเก่งคนเดียว สู่ยุครวมกลุ่มช่วยกันทำ มองตลาดไร้พรมแดน แจงสั่งทูตพาณิชย์คัด 50 เมืองเศรษฐกิจเร่งนำเอกชนรุกตลาด ด้าน "ก.ล.ต." ชี้เอกชนควรให้ความสำคัญความยั่งยืน เร่งสร้างช่องทาง "เอสเอ็มอี" ระดมทุนรักษาความแข็งแกร่งทางการเงิน
- นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิ ดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม เดือน ส.ค. พบว่าอยู่ที่ระดับ 82.4 ลดจากเดือนก่อนที่ระดับ 83.0 ลดลง ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 และตํ่าสุดในรอบ 75 เดือน เป็ นผลจากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา การบริโภคภายในประเทศหดตัว สินค้าเกษตรราคาตกตํ่า ประชาชนจึงใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง
- ผู้ประกอบการคอนโด ดิ้นรักษาสภาพคล่อง เร่งระบายสต็อก-แบ็กล็อก 1.3 แสนล้าน ครึ่งหลังของปี เร่งลูกค้าโอน ซื้อคอนโด เหตุแบ็กล็อก ส่วนใหญ่อยู่ในตลาดกลาง-ล่าง ที่มีปัญหาหนี้ครัวเรือน ดัมพ์ราคากระหนํ่า ให้ส่วนลด 9 เท่าของเงินจอง ซื้อห้องชุด 1 ยูนิต แถม 1 ยูนิต พร้อมฉวยหุ้นผันผวน ออกแคมแปญดึงนักลงทุนซื้อคอนโด เสนาฯ ประกันรายได้ ซื้อคอนโด 5% 2 ปี พราวด์ฯ ใช้หุ้นแลกเงินดาวน์20%
ปัจจัยต่างประเทศ
+ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,510.19 จุด พุ่งขึ้น 125.61 จุด หรือ +0.77%
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิ ดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมีมุมมองที่เป็ นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐจะทำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปี นี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนขานรับยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค.ของสหรัฐที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบเป็นรายปี
+ ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.60 จุด หรือ 0.08% ที่ระดับ 6,108.71 จุด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิ ดบวกเมื่อคืนนี้ (21 ก.ย.) ตามตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
- สัญญาน้ำมันดิบ ส่งมอบเดือน ต.ค.พุ่งขึ้น 2 ดอลลาร์ ปิดที่ 46.68 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ตลาดนิวยอร์กปิ ดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 ก.ย.) หลังจากมีรายงานว่าปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลง ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด
นักวิเคราะห์ : ยศพณ แสงนิล, CFA Email : [email protected] Tel: 02 659 8154