- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 21 September 2015 18:17
- Hits: 3052
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
เปิดลงตามตลาดหุ้นโลก
วันนี้คาดดัชนีฯ ลง แนวรับ 1,376 จุด แนวต้าน 1,398 จุด
ปัจจัยหนุน (หุ้นรายตัว) รมว.คลังเผยเตรียมออกมาตรการภาษีสนับสนุนการลงทุนใหม่เข้า ครม.เร็วๆนี้ (+AMATA ROJNA TICON WHA ฯลฯ), เกณฑ์รับซื้อไฟฟ้าพลังงานทางเลือก (AEDP) ประกาศแล้ว ด้าน กพช.ประกาศเพิ่มสัดส่วนพลังงานไฟฟ้าทดแทนเป็น 30% เดิม 20-25% (+IFEC TSE SAMART SUPER ฯลฯ), รายงานสินเชื่อแบงก์เดือน สค.ไม่แย่อย่างวิตก
ส่วนปัจจัยลบ คือ ภาวะตลาดหุ้นยังอยู่ในขาลง (นลท.ขาดความเชื่อมั่น) ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจ Flash PMI จีน และ US GDP ในสัปดาห์นี้ คาดทรงตัว, ส่วนเลือกตั้งกรีซ พรรคไซรีซา (กลุ่มปฏิเสธแผนรัดเข็มขัด) ผลไม่เป็นทางการ ชนะเลือกตั้ง (คาดเป็นลบจำกัดต่อหุ้นโลก เพราะกลุ่มสนับสนุนแผนรัดเข็มขัดมีเสียงเพิ่มขึ้นในสภา เชื่อหนุนกรีซเดินหน้าตามแผนรัดเข็มขัด)
ระยะเดือน (กย.) แนวรับ (Stop loss) 1,340/1,350 จุด แนวต้านบริเวณ 1,400 จุด หลังจากหุ้นไทยลงตามคาดเมื่อเดือน สค. และแนะแบ่งพอร์ตเริ่มซื้อคืน 20/30% (แนะมาตั้งแต่ ปลาย สค.) เน้น แบงก์, ค้าปลีก, รับเหมา, โรงแรม และหุ้นที่ลงแรงก่อนหน้านี้ ใครที่ซื้อตามแล้วถือลุ้นแล้วรอซื้อเพิ่ม หรือ แบ่งขายเล่นสั้น แล้วรอซื้อเล่นใหม่
หุ้นแนะนำ ASEFA แนวรับ 4.96 บาท แนวต้าน 5.24/5.50 บาท โอกาสสูงได้งานประมูล Switchboard รถไฟฟ้าภายใต้ลิขสิทธิ์ Schneider Electric Industries, WHA แนวรับ 3.36 บาท แนวต้าน 3.5/3.6 บาท Warehouse และกลุ่มนิคม เก็งมาตรการส่งเสริมการลงทุนใหม่จากภาครัฐฯ และ เก็งกำไรกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน จากข่าว กกพ.ประกาศเกณฑ์ราคารับซื้อไฟฟ้าใหม่ ชัดเจนแล้ว
BLS รายงานพื้นฐานวันนี้ (ดูรายละเอียดฉบับเต็ม)
(+) ILINK (ราคาเป้าหมาย 26 บาท) คาดมีโอกาสได้รับงานประมูลเพิ่มเติมในช่วง 6 เดือนข้างหน้า มูลค่าราว 4,500 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยให้ตลาดมองเห็นความชัดเจนของการเติบโตของกำไรในช่วง 2-3 ปี ข้างหน้าดียิ่งขึ้น โดยเรามองว่างานแรกที่เห็นจะเป็นงาน transmission line ในช่วง 1 เดือนนับจากนี้ ต่อด้วยงาน submarine cable และงานนำสายไฟลงดินของ กฟน. เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" ปัจจัยหนุนจะมาจาก การประกาศรับงานและการปรับคาดการณ์กำไรขึ้นของ Consensus หากบริษัทได้รับงานตามที่เรามอง ประมาณการกำไรมี upsides อีกราว 20-25% และราคาเป้าหมายมีแนวโน้มจะปรับเพิ่มอีก 4-6 บาท/หุ้น
(+) IFEC คาดว่าจะได้เห็นกำไรครึ่งปีหลังเติบโตน่าประทับใจ และดีขึ้นต่อเนื่องในปี 2016 ซึ่งหลังจากเริ่มรับรู้กำไรจากการขายไฟเชิงพาณิชย์ โครงการปากพนัง 1 ในเดือนนี้ บริษัทจะเดินหน้าโครงการที่มี PPA แล้วต่อทันที ได้แก่ โครงการลมลิกอร์ (8.9MW) และ โครงการลมเทพา (4.8MW) สำหรับปัจจัยหนุนกำไรให้ดีขึ้นต่อเนื่อง จะมาจาก 1) การรับรู้กำไรจากโรงไฟฟ้าในต่างประเทศที่เกาหลีใต้ และ ที่กัมพูชา ใน 3Q-4Q15 และเข้ามาเต็มปีในปี 2016 2) เกณฑ์รับซื้อไฟฟ้าตามแผน AEDP ประกาศชัดเจนแล้ว ทำให้โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่เกาะใหญ่ที่ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้ว (กำลังการผลิต 90MW) จะดำเนินการขอ PPA ตามเกณฑ์ใหม่ทันที และ โครงการโซล่าร์สหกรณ์/ราชการ จะดำเนินการขอ PPA ต้น พย.ได้ตามกำหนด คงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 16.50 บาท
(+) TMB KBANK, -TISCO KKP) สินเชื่อแบงก์ฯ เดือน สค. (เหลือ KTB BAY ที่ยังไม่รายงาน) โต +0.4% m-m, +1% YTD และ +2% y-y โดย TMB KBANK BBL TCAP รายงานสินเชื่อขยายตัวเด่นสุด และจากสินเชื่อ 2 เดือนที่ผ่านมาใน 3Q15 เราคาด TMB และ KBANK จะรายงานกำไร 3Q15 โดดเด่นกว่ากลุ่มฯ ส่วน TISCO และ KKP มีโอกาสที่เราจะปรับลดคาดการณ์กำไร และ ราคาเป้าหมายลง
(+) MAJOR เปิดโรงหนังใหม่ที่ Central West-gate ลงทุนไป 250 ล้านบาท คาดคืนทุนใน 3 ปี และสัดส่วนต่อรายได้จะเพิ่มขึ้นเป็น 3-4% ของรายได้รวม เรายังคงราคาเป้าหมาย 36 บาท และคงคำแนะนำ ซื้อ
หุ้นมีข่าว
(-) SSI แจ้งหยุดผลิตเหล็กจากโรงถลุงในอังกฤษชั่วคราว ตามแผนปรับโรงสร้างธุรกิจ (-KTB SCB TISCO เป็นแบงก์ปล่อยกู้หลัก)
(+) AMATA TICON ROJNA WHA รมว.คลังเผย กำลังอยู่ระหว่างสรุปมาตรการกระตุ้นการลงทุนใหม่ คาดว่าจะสรุปได้ภายใน 2-3 สัปดาห์ข้างหน้านี้ โดยหนึ่งในมาตรการกระตุ้น จะมีเรื่องของอัตราภาษีที่จะเข้าไปสนับสนุนและส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทยด้วย ซึ่งคณะทำงานของกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างศึกษาข้อดีข้อเสียรวมถึงการนำข้อเสนอของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ที่เสนอให้ขยายระยะเวลาการลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลออกไปจาก 8 ปี เป็น 13 ปี และการให้สิทธิลดหย่อนต่างๆมาพิจารณาร่วมด้วย
(+) (IFEC TSE SAMART ฯลฯ) นายคุรุจิต นาครทรรพ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุม คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เห็นชอบ แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกมีเป้าหมายในการเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทน จากปัจจุบัน 11.9% เพิ่มขึ้นเป็น 30% (เดิม ?) ของปริมาณความต้องการพลังงานรวมของประเทศ ในปี 2579 หรืออีก 21 ปีข้างหน้า
(-) ADVANC รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือแจ้งให้ประธานกรรมการ บริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน) ได้รับทราบและให้ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) โดยเคร่งครัด ในกรณีปัญหาเกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาสัมปทานโทรศัพท์มือถือระหว่างทีโอทีกับบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) หรือเอไอเอส โดยให้ทีโอที เร่งรัดดำเนินการใช้สิทธิ์ตามกฎหมายและอำนาจหน้าที่ ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และ มติคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
(+) SYNEX อยู่ระหว่างการเจรจา M&A เพื่อขยายธุรกิจใน CLMV โดยวางตัวเป็น Authorize hub ให้ SYNEX ไต้หวันในการบุกตลาดภูมิภาคนี้ (ที่มา ASPEN)
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(-) ตลาดหุ้นยุโรปลงแรง นำลงโดย ดอยซ์แบงก์ -4.4% จากกระแสข่าวยกเลิกธุรกิจสำหรับองค์กร และ ธุรกิจหลักทรัพย์ในรัสเซีย และข่าวฝรั่งเศสถูกมูดี้สหั่นเรตติ้งลง จาก Aa1 เหลือ Aa2 แนวโน้มเชิงลบ
(-) วันจันทร์ US ยอดขายบ้านเก่า (สค.) คาด -1.6% m-m จาก +2% /ตลาดหุ้นญี่ปุ่นหยุด จันทร์-พุธ
(-) อังคาร EU Consumer confidence (กย.) คาด -7.1% จาก -6.9%
(0/+) พุธ EU PMI composite (กย.) คาด +54.1 จาก 54.3, จีน Flash PMI (Caixin) ภาคการผลิต กย.คาด 47.6 จาก 47.3, ฟิลิปปินส์ ดุลการค้า กค.คาด US$bn-0.6, มาเลเซีย CPI สค. คาด +3% จาก +3.3% y-y, สิงคโปร์ CPI สค.คาด -0.4%, ไต้หวัน Industrial production (สค.) คาด -2.9% จาก -3%
(-) พฤหัส US ยอดขายสินค้าคงทน (สค.) คาด -2.3% จาก +2.2%, US ยอดขายบ้านใหม่ (สค.) คาด +5.51 แสน จาก 5.07 แสน, เยอรมนี Ifo Business climate คาด 107.9 จาก 108.3, ธ.กลางฟิลิปปินส์ คาดคงดอกเบี้ย 4%
(+) ศุกร์ US GDP 2Q15 3rd คาด +3.7% q-q ar. (คงที่), สิงคโปร์ Industrial production (สค.) คาด -5% จาก -6.1% y-y
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาด
ข่าวเด่นเศรษฐกิจ
สมาชิกบอร์ด FOMC สหรัฐเสียงแตกเรื่องอัตราดอกเบี้ย
การประชุมนโยบายการเงินสหรัฐล่าสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาถือว่าเป็นการประชุมที่สมาชิกบอร์ด FOMC สหรัฐเสียงแตกเรื่องอัตราดอกเบี้ยมากที่สุดครั้งหนึ่ง ประเด็นหลักที่ถกเถียงกันคือ สภาวะเศรษฐกิจของจีน และประเทศกำลังพัฒนาที่ชะลอลงต่อเนื่องจะกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐมากเพียงใด ปัจจุบันสหรัฐอยู่ในภาวะที่ตลาดแรงงานเข้าสู่ระดับจ้างงานเต็มที่ และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานกำลังปรับตัวขึ้น เพียงแต่ตลาดอสังหาฯยังไม่แข็งแรงเท่าไรนัก การเลื่อนปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นทำให้นักลงทุนกังวลเรื่องสถานะเศรษฐกิจสหรัฐ และโลกเพิ่มมากขึ้น (Reuters)
กระทรวงคลังชี้งบอัดฉีดจีดีพีโต 1%
คณะกรรมการขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศ ที่มีนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เป็นประธาน ได้ประชุมเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา และประเมินว่าจะมีเม็ดเงินจากมาตรการกระตุ้น และการลงทุนที่รัฐบาลจะเร่งทยอย ดำเนินการเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจวันที่ 21 ก.ย.ไปถึงปีหน้า 1.3 แสนล้านบาท จะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้เพิ่มประมาณ 1% (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)
2แบงก์รัฐ'เอ็นพีแอล'พุ่ง ธ.ก.ส.-ออมสิน'สั่งสาขา'ดูแลลูกค้าช่วยก่อน'หนี้ตกชั้น'
แบงก์รัฐ สั่งสาขาลงพื้นที่เกาะติดข้อมูล ดูแล ลูกค้าใกล้ชิด เร่งเข้าช่วยเหลือ "ยืดเวลาคืนหนี้-ปรับโครงสร้างหนี้" หวั่นหนี้ตกชั้น เป็นเอ็นพีแอล หลังพบ "เอ็นพีแอล-หนี้ผิดนัดชำระ 1-3 เดือน" เพิ่มขึ้น ด้าน "ธ.ก.ส.-ออมสิน" รับ เอ็นพีแอลเพิ่มขึ้นสูงอย่างมีนัยสำคัญ "ธปท." ยอมรับหนี้เสีย "เอสเอ็มอี" เพิ่มขึ้น มั่นใจแบงก์คุมอยู่คาด "เอ็นพีแอล" สิ้นปี ไม่เกิน 3% (หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ)
'อียู'ส่งทีมสอบข้อปฏิบัติทำประมงเดือน ต.ค.
อียูส่งทีมตรวจผลปฏิบัติมาตรการ IUU อีกครั้งกลางเดือนต.ค.นี้ ด้าน "ฉัตรชัย" ยันไทยสามารถดำเนินการและเดินตามมาตรฐานสากล พร้อมปรับปรุงขั้นตอน ระเบียบเงื่อนไข เผย อียูพอใจการแก้ปัญหาของไทย "สมาคมประมงนอกน่านน้ำ" จี้รัฐหาแหล่งจับปลาใหม่ หลังเรือประมงไทย 129 ลำจอดสนิทที่อินโดนีเซีย (หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ)
ค้ำเสากู้ 7 แสนล. กล่อมอภิศักดิ์ดันกม.จัดการหนี้ รักษาเครดิตประเทศกดดอกต่ำ
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เตรียมข้อมูลถึงความจำเป็นที่จะต้องออก พ.ร.บ.บริหารจัดการหนี้ 7.2 แสนล้านบาท และประโยชน์ในการออกกฎหมายดังกล่าว เสนอให้นาย อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เพื่อพิจารณา หลังจากที่ รมว.คลัง มีความเห็นว่าควรระงับการออกกฎหมายดังกล่าวเพราะรัฐบาลมีกระแสเงินสดมาก ไม่จำเป็นต้องกู้เงินเพิ่ม (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)
ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ Tel. (662) 618-1330-1
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
รายงานวันนี้
หุ้น: IFEC คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 16.50
- โครงการปากพนัง พร้อม COD 25 กย. นี้ 100% หนุนกำไรปีละ 70-90 ล้านบาท
- กำไรที่ดีขึ้นต่อเนื่องจะมาจากการรับรู้กำไรจากโรงไฟฟ้าในต่างประเทศที่เกาหลีใต้ และ ที่กัมพูชา ใน 3Q-4Q15 และเข้ามาเต็มปีในปี 2016
- โครงการ ลอลิกอร์ (8.9MW) และ โครงการลมเทพา (4.8MW) พร้อมดำเนินการก่อสร้างทันทีในเดือนหน้า
- แผน AEDP ใหม่ กับค่าไฟฯระบบ FiT กระทบราคาเป้าหมายจำกัด เพราะระยะยาว IRR ของโครงการไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมาก
นักวิเคราะห์: วิกิจ ถิรวรรณรัตน์, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
นักวิเคราะห์: ธนัท พจน์เกษมสิน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
หุ้น: ILINK คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 26.00
- แนะนำ "ซื้อ" ดักการประกาศรับงานและการปรับคาดการณ์กำไรของตลาด
- คาด backlog เพิ่มอีก 4,500 ล้านบาท ในช่วงปลายปีนี้ และต้นปีหน้า จาก high potential bidding project
- หากได้งานตามคาด ประมาณการกำไรมี upsides อีกราว 20-25% และราคาเป้าหมายมีแนวโน้มจะปรับเพิ่มอีก 4-6 บาท/หุ้น
- โครงการสายไฟลงดินของกฟน.(มูลค่า 66,000 ล้านบาท) จะหนุนส่วนงานวิศวกรรมของบริษัทคึกคักอีก 10 ปี
นักวิเคราะห์: วิกิจ ถิรวรรณรัตน์, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
นักวิเคราะห์: ธนัท พจน์เกษมสิน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์