- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 21 September 2015 17:52
- Hits: 2695
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA -290.16, NASDAQ -66.72, S&P -32.17, FTSE -82.88, CAC -119.29 และ DAX -313.42 ภายใต้ความกังวลเกี่ยวกับอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก หลังเฟดชะลอการกลับไปใช้นโยบายการเงินที่ปกติ โดยผลประชุมเฟดล่าสุดเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมามีมติ (9 : 1) คงอัตราดอกเบี้ยในช่วง 0 - 0.25% ต่อไป จากความวิตกต่อเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอและตลาดการเงินที่ไร้เสถียรภาพ ขณะที่ล่าสุดสหรัฐฯ เปิดเผย ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ – สค. เพิ่มขึ้น 0.1% หลังทรงตัวเมื่อกค. ที่ผ่านมา แต่ต่ำกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2%
.....ส่วนทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ได้รับปัจจัยกดดันหลังเฟดแสดงความลังเลในการกำหนดนโยบายการเงิน ภายใต้ความกังวลเกี่ยวกับความ
ผันผวนของตลาด ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในตลาดโลก และอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำของสหรัฐฯ รวมถึงบริษัทผู้ส่งออกของยุโรปได้รับแรงลบจากการแข็งค่าของสกุลเงินยูโร
.....ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ต.ค. -US$2.22 อยู่ที่ US$44.68 ต่อบาร์เรล ตามตลาดหุ้น หลังเฟดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำต่อไป
.....ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. +US$20.8 อยู่ที่ US$1,137.8 ต่อออนซ์ หลังวันก่อนหน้าปิดทำการก่อนทราบผลประชุมของเฟดที่
คงอัตราดอกเบี้ยในช่วง 0 - 0.25% ต่อไป
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -237 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -91,444 ล้านบาท (ปี’57 มียอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)
ทิศทางตลาด :
ทิศทางตลาด : ตามตลาดต่างประเทศ? คาดมีโอกาสลดลง ภายใต้ปัจจัยกดดันจากความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ซึ่งคาดส่งผลต่อการตัดสินใจของเฟดในการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำ อย่างไรก็ตามแนะติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของจีนที่คาดอาจเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมตลาดหลังจากนี้ไป จากก่อนหน้าที่มีความพยายามฟื้นฟูความเชื่อมั่น เพิ่มสภาพคล่อง รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยใช้มาตรการผ่อนคลาย ทั้งการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) และอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ
....ส่วนทางด้านปัจจัยในประเทศ ภาพรวมยังไม่มีประเด็นชี้นำใหม่ๆ คาดอยู่ระหว่างรอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่คาดออกมาต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลดค่าธรรมเนียมการโอน การจดจำนอง ซึ่งกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณา คาดส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการต่างๆ ของภาครัฐ ที่คาดส่งผลดีต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
.....ขณะที่ภาพรวม Fund Flow ยังมีความผันผวน แรงซื้อขายสุทธิต่างชาติสลับกัน ยังแนะติดตามค่าเงินบาท ที่ล่าสุดแข็งค่าขึ้น ซึ่งคาดน่าจะส่งผลต่อดี Fund Flow ไหลกลับเข้ามาบ้าง
....รวมถึงติดตาม (1) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, PTTGC, TOP และ BCP จะได้รับผลกระทบจากการขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในช่วง 3Q/58 แต่เรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นในช่วงที่ราคาอ่อนตัวสำหรับการลงทุนในระยะยาวกลาง – ยาว (2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่คาดยังคงได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐ เช่น ITD, STEC, TRC และ UNIQ (3) ค่าเงินบาท ล่าสุดเคลื่อนไหวบริเวณ 35.70 – 35.75 แข็งค่าขึ้นจาก
ก่อนหน้าที่ประมาณ 36.00 – 36.20 บาท (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น TASCO และ VNG เป็นต้น (5) กลุ่มโรงแรม (CENTEL) และหุ้นกลุ่มสายการบิน (เช่น AAV, BA) หลังสถานการณ์การท่องเที่ยวมีแนวโน้มทรงตัว และคาดดีขึ้น โดยเฉพาะช่วง High season ในช่วง 4Q/58 (6) กลุ่มสื่อสาร (ADVANC) หลัง กสทช. จะเปิดประมูลใบอนุญาต 4G คลื่นความถี่ 1,800 MHz และ 900 เมกะเฮิร์ตซ์ (MHz) ในวันที่ 11/11/58 และ15/12/58 ตามลำดับ และ (7) Window Dressing – 3Q/58 ในวันที่ 30/9/58
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี เพิ่มขึ้น -0.09 อยู่ที่ 2.13% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) +1.14 อยู่ที่ 22.28
หุ้นแนะนำ : CK
ประเด็นที่ต้องติดตาม (21 - 25 กย.’58)
21/9/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ยอดขายบ้านมือสอง - สค.
22/9/58 : - ไม่มีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ –
23/9/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้น - กย. (2) สต็อกน้ำมัน
24/9/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน - สค. (2) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (3) ดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศ - สค.
(4) ยอดขายบ้านใหม่ - สค.
25/9/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้าย GDP – 2Q/58 (2) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้น - กย.(3) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้าย - กย.
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788