- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 18 September 2015 17:00
- Hits: 1463
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
แม้ SET ยังขึ้นต่อได้ แต่ก็ต้องระวังปรับพัก ดังนั้นรอซื้อลบ...
กลยุทธ์ : หลังผลประชุมเฟดเมื่อคืนนี้ออกมายังไม่ขึ้นดอกเบี้ยตามคาด ซึ่งอาจส่งผลให้ SET บวกต่อได้ แต่ต้องเริ่มระวังแรงขายทำกำไรกดดันให้ปรับพักตัวไว้ด้วย ดังนั้น FSS ยังแนะนำให้รอเลือกหุ้นทยอยเข้าซื้อช่วง SET อ่อนตัวลงก่อนดีกว่า
หุ้นเด่นทางเทคนิค : ITD, AGE, GLOW(buy back)
แนวโน้ม : SET ยังขยับบวกขึ้นมาจากแรงซื้อเก็งกำไรผลประชุมเฟดต่อเนื่อง แต่ก็มีแรงขายทำกำไรกดดันให้แกว่งตัวผันผวนอยู่ด้วย หลังตลาดหุ้นจีนยังปรับตัวย้อนลบอีกครั้งวานนี้ แต่ SET ยังยืนปิดบวกได้ดี โดยได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่รีบาวด์กลับขึ้นมา และแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติที่ยังมีเข้ามาพยุงตลาดเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน ขณะที่เช้านี้คาดว่าน่าจะยังมีแรงซื้อเข้ามาช่วยผลักดันตลาดได้อีกครั้ง หลังที่ประชุมเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ก่อนตามคาด อย่างไรก็ตามถ้า SET ขยับขึ้นต่ออีกก็จะทำให้ดัชนีขยับขึ้นมาตอบรับประเด็นการคงอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐพอควรแล้ว ซึ่งมุมมองของเฟดเมื่อคืนนี้ต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ออกมาในเชิงลบก็น่าจะกดดันแรงซื้อในตลาดหุ้นได้ นอกจากนี้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เริ่มมีแรงขายทำกำไรในลักษณะ sell on fact ให้เห็นเช่นกัน ทำให้ FSS คาดว่า SET มีโอกาสที่จะแกว่งตัวผันผวนและย้อนลบได้ในช่วงถัดจากนี้ จึงยังไม่ต้องรีบร้อนซื้อในลักษณะไล่ราคา แต่ในจังหวะ SET ย้อนลงยังน่าสนใจเลือกหุ้นทยอยเข้ารับได้ เพราะเราคาดว่ากรอบลบจะยังถูกจำกัด จากความคาดหวังเชิงบวกเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยและยังลุ้นกลับไปแกว่งบวกต่อได้
แนวรับ 1388-1386 , 1382-1375 จุด
แนวต้าน 1392-1395 , 1400-1403 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$479 ล้าน ไหลเข้าทุกประเทศยกเว้นอินโดนีเซีย โดยไหลเข้าไต้หวันมากสุด US$378 ล้าน ตามด้วยเกาหลีใต้ US$96.9 ล้าน และไทย US$34.9 ล้าน เงินทุนในภูมิภาคมีทิศทางที่เป็นบวกมากขึ้นแต่อาจไหลออกเพราะความไม่แน่ใจต่อเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐซึ่งออกไปในปลายปีนี้หรืออาจเป็นปีหน้า และท่าทีที่กังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนมากยิ่งขึ้น
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) Fed ตัดสินใจยังไม่ขึ้นดอกเบี้ย โดยมีมติ 9 ต่อ 1 ให้คงอัตราดอกเบี้ย 0-0.25% ต่อไป แม้ตลาดแรงงานสหรัฐจะแข็งแกร่ง แต่ Fed ให้น้ำหนักกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ มุมมองที่เป็นลบกับเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะเศรษฐกิจจีน และความกังวลกับการประชุมครั้งถัดๆไปของ Fed (เหลือการประชุมอีก 2 ครั้งคือ 27-28 ต.ค. และ 15-16 ธ.ค.) ยังคงกดดันตลาดหุ้นโลกต่อไปในระยะกลาง แต่ในระยะสั้นค่าเงินบาท (และเอเชีย) ที่กลับมาแข็งค่าระยะสั้น เพราะการ unwind position ของเงินดอลลาร์ จะช่วยหนุนตลาดหุ้นไทย
(+) ยังเน้นหุ้น Domestic plays ความเสี่ยงในต่างประเทศยังมีอยู่มาก แต่หุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐจะสามารถ outperform ตลาดได้ เรายังเน้นกลุ่มไฟแนนซ์ ค้าปลีก รับเหมา สื่อสาร และกลุ่มที่ 3Q เป็น high season ของผลประกอบการ เช่น LIT, MTLS, GLOBAL, PS, QH, CK, CENTEL, AAV, ADVANC, INTUCH, EPG
(+) FSMART เรากลับมาแนะนำซื้ออีกครั้งโดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2016 ที่ 16 บาท (DCF) จากการปรับอัตราการเติบโตของกำไรในระยะยาวขึ้นพอสมควรเพราะมีพื้นที่อีกมากให้บริษัทขยายตลาดได้ โดยมูลค่าการเติมเงินผ่านตู้ออนไลน์ปัจจุบันขยายตัวสูงถึงประมาณ 25% ต่อปีและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทดแทนช่องทางอื่นเช่นบัตรเติมเงิน ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดของ “ตู้บุญเติม” ของบริษัทมีเพียง 10% จึงยังเติบโตได้อีกมากตามจำนวนตู้ที่เพิ่มในอัตราเร่ง จาก 32,500 ตู้ปี 2013 เป็น 43,000 ตู้ปี 2014 และ 54,000 ตู้สิ้น 2Q15 นอกจากนี้ ตู้บุญเติมยังพัฒนาไปเป็นตู้ให้บริการชำระเงินออนไลน์และขายเครื่องดื่มอัตโนมัติในเครื่องเดียวกัน ตู้น้ำดื่ม RO และตู้ชั่งน้ำหนัก ซึ่งจะเพื่มรายได้ในอนาคต เราคาดกำไรปีนี้โต 79% ปี 2016-17 โต 41% และ 23% เป้าหมายดังกล่าวคิดเป็น 2016 Implied PE 33 เท่า ถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับการเติบโตที่สูง
(+) TMB สินเชื่อเดือน ส.ค. +2.29% M-M จากสินเชื่อธุรกิจ ทำให้สินเชื่องวด 8M15 +6.87% YTD ดีที่สุดในกลุ่มธนาคาร ขณะที่เงินฝากเพิ่มเพียง 0.4% M-M หรือราว 2.3 พันล้านบาท เป็นไปตามกลยุทธ์ที่ชะลอการเพิ่มของเงินฝาก แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่อง โดยอัตราส่วน LTD ยังอยู่ที่ราว 89% เพียงพอต่อการขยายตัวของสินเชื่อในระดับ 8-10% ในปีนี้ และน่าจะทำให้ NIM ดีขึ้นใน 3Q15 เรายังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 2.80 บาท
(+) KBANK สินเชื่อเดือน ส.ค. ขยับขึ้นเล็กน้อย 0.9% M-M จากสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่และรายกลาง และทำให้สินเชื่อ 8M15 โต 3.72% YTD ใกล้เป้าหมายที่เราคาดการณ์ไว้ทั้งปีที่ราว 6% ยังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 219 บาท
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดผสมหลังจากที่ FED มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมช่วง 2 วันที่ผ่านมาและแสดงมุมมองที่เป็นลบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก
(0) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในกรอบแคบเนื่องจากระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุม FED ซึ่งปกติจะออกมาหลังจากตลาดปิดทำการ
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในกรอบแคบๆเป็นส่วนใหญ่ยกเว้นตลาดหุ้นญี่ปุ่น หลัง FED คงดอกเบี้ยซึ่งถือว่าเป็นไปตามที่ตลาดคาด
(0) ค่าเงินบาทแกว่งแกว่งตัวผันผวนโดยล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 35.75-35.85 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ต.ค. ปิดที่ 46.90 ดอลลาร์/บาร์เรล ขยับลง 0.25 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากที่พุ่งขึ้นต่อเนื่องในช่วง 2 วันก่อนหน้า นอกจากนี้การที่ FED ยังคงอัตราดอกเบี้ยและให้ความเห็นต่อทิศทางเศรษฐโลกในเชิงลบยังเป็นอีกปัจจัยกดดัน
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดที่ 1,117.00 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 2.00 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังพุ่งขึ้นในวันก่อนหน้า อย่างไรก็ตามการที่ FED ยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมที่ผ่านมายังเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำระยะสั้น
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
17-ก.ย. - ตลาดหุ้นอินเดียปิดทำการ
- อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI) ประชุม
- สหรัฐ: Housing starts, Building permits (ส.ค.), สภาคองเกรสโหวตยกเลิกการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่ออิหร่าน
20-ก.ย. - ไทย: ยอดขายรถ (ส.ค.)
- กรีซ: เลือกตั้งทั่วไป
21-23 ก.ย. - ญี่ปุ่น: ตลาดหุ้นปิดทำการ
21-ก.ย. - สหรัฐ: ยอดขายบ้านเก่า (ส.ค.)
22-ก.ย. - ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.ย.)
23-ก.ย. - ไทย: KOOL เริ่มเทรดวันนี้ (ราคา IPO 1.80 บาท)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ก.ย.)
24-ก.ย. - ไทย: ดุลการค้า (ส.ค.)
- ตลาดหุ้นมาเลเซีย และ อินโดนีเซียปิดทำการ
- ฟิลิปปินส์: ธนาคารกลาง (BSP) ประชุม
- สหรัฐ: คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (ส.ค.), ยอดขายบ้านใหม่ (ส.ค.)
25 ก.ย. - สหรัฐ: 2Q15 GDP (ตัวเลขสุดท้าย)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265 Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research