- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 16 September 2015 17:16
- Hits: 1254
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
แม้ SET ยังปรับลงแต่เชื่อใกล้ลุ้นดีดขึ้นกลับ ดังนั้นเน้นถือต่อ!
กลยุทธ์ : หลังจาก SET แกว่งพักตัวเพื่อรอลุ้นผลประชุมเฟดมา 3 วันติดต่อกัน ด้วยระยะทางพอควรแล้ว ขณะที่ยังมีแรงซื้อกลับเข้ามาช่วยหนุนอยู่ ทำให้ FSS คาดว่า SET ใกล้ที่จะเข้าสู่รอบรีบาวด์ขึ้นได้อีกครั้งในเร็วๆ นี้ ดังนั้นหลังจากเราแนะนำให้เลือกหุ้นซื้อช่วงลบไปแล้ว ถัดจากนี้น่าเน้นถือไว้ก่อนเพื่อรอโอกาสทำกำไรช่วงบวกต่อไป
หุ้นเด่นทางเทคนิค : SYNEX, CHOW, SAWAD(short)
แนวโน้ม : ช่วงบ่ายวานนี้ SET ยังปรับตัวลงต่ออีก หลังตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวลงถึงเกือบ 3% จากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจจีน รวมทั้งนักลงทุนยังไม่มั่นใจว่าผลประชุมเฟดในช่วง 16-17 ก.ย.นี้จะออกมาอย่างไรด้วย แต่ในช่วงตลาดอ่อนตัวลงก็ถือว่ายังพอที่จะมีแรงซื้อกลับเข้ามาหนุนอยู่พอควร ขณะที่เช้านี้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศก็ดูสดใสมากขึ้น หลังตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปเมื่อคืนนี้ปิดบวกได้ดี เนื่องจากนักลงทุนมองว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐซึ่งเปิดเผยเมื่อวานนี้ อาจทำให้เฟดยังไม่ตัดสินใจขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมช่วง 2 วันข้างหน้านี้ได้ ส่วนราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็ถือว่ายังแกว่งทรงตัวได้ดี และมีจังหวะบวกกลับขึ้นได้บ้าง ประกอบกับนักลงทุนต่างชาติกลับมามียอดซื้อสุทธิอีกครั้ง ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 3 ของเดือนนี้ และการที่ค่าเงินบาทเริ่มมีจังหวะแข็งค่าให้เห็นบ้างน่าจะช่วยหนุนแรงซื้อในตลาดหุ้นไทยได้อีก ทำให้ FSS ยังคาดหมายว่ากรอบลบของ SET น่าจะยังไม่ลึกมากนัก และมีลุ้นโอกาสพลิกกลับไปแกว่งตัวด้านบวกได้ตามคาดอยู่ ดังนั้นซื้อลบแล้วยังแนะนำให้เน้นถือไว้ก่อนเช่นเดิม
แนวรับ 1368-1366 , 1360-1355 จุด
แนวต้าน 1377-1380 , 1385-1390 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคหนาแน่น US$684 ล้าน โดยเป็นการไหลออกจากฟิลิปปินส์หนักมาก US$523 ล้าน ตามด้วยเกาหลีใต้ US$121 ล้าน และไต้หวัน US$49 ล้าน ขณะที่ไหลเข้าไทยและเวียดนาม US$24.3 ล้าน และ US$2.7 ล้านตามลำดับ แนวโน้มกระแสเงินทุนยังมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาค และมีทิศทางที่ดีขึ้นเพราะตลาดคาดการณ์ Fed จะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) คาดกนง.คงดอกเบี้ย ที่ 1.50% ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 4 ในการประชุมพุธนี้ แม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะยังอ่อนแอและกนง.มีพื้นที่เหลือในการลดดอกเบี้ย แต่น่าจะรอดูผลการประชุมของ Fed (รู้ผลเช้าวันศุกร์) และรอดูประสิทธิผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐก่อน เพราะการลดดอกเบี้ยจะยิ่งเสี่ยงต่อการที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าและเงินไหลออก
(-) TISCO มีแนวโน้มตั้งสำรองหนี้สูญสำหรับ SSI UK เพิ่มใน 3Q15 ซึ่งเดิมคาดว่าจบไปแล้วเพราะตั้งไปแล้ว 58% ของมูลหนี้ ถ้าต้องตั้งทั้ง 100% อาจทำให้กำไรงวด 3Q15 ย่ำแย่มากเหลือ 800-900 ล้านบาท ต่ำสุดในรอบ 3 ปี ซึ่งจะกดดันราคาหุ้น TISCO เพราะเป็น Negative surprise และรวมไปถึง KTB และ SCB ที่ร่วมให้สินเชื่อแก่ SSI UK ด้วย ส่วนสินเชื่อ 8 เดือนแรก -8.9% YTD เราปรับประมาณการกำไรปีนี้ลง 15% เหลือ 3.8 พันล้านบาท -10% Y-Y และคาดกำไรปี 2016 โต 13.5% Y-Y ราคาเป้าหมายปีนี้ปรับลงเหลือ 40 บาท ส่วนราคาเป้าหมายปี 2016 เป็น 49 บาท ราคาหุ้นปัจจุบัน 39 บาทสะท้อนว่าเต็มมูลค่าในระยะสั้น-กลางแล้ว แต่สำหรับการลงทุนระยะ 1 ปีขึ้นไป เรายังแนะนำซื้อ
(+) LIT ได้งานสินเชื่อเช่าซื้อชุดเครื่องยนต์ดีเซลกำเนิดไฟฟ้า มูลค่าสัญญา 62.85 ล้านบาท ระยะเวลา 28 งวดถึง 15 ธ.ค. 2017 แนวโน้มสินเชื่อของ LIT น่าจะเติบโตได้ 30% ในปีนี้และ 20% ในปีหน้าตามที่เราคาด เพราะตลาดสินเชื่อ SME ซึ่งเป็นตลาดหลักของบริษัทยังมีช่องว่างให้ขยายลูกค้าได้อีกมาก และปัจจุบันกำลังอยู่ใน High season ของงานประมูลภาครัฐซึ่งใกล้ปิดปีงบประมาณประจำปี การขอสินเชื่อของลูกค้าจะกระจุกตัวใน 3Q เราจึงคาดกำไร 3Q15 +18% Q-Q, +40% Y-Y และทั้งปีเติบโต 40% Y-Y และโตอีก 33% Y-Y ในปีหน้า ยังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2016 ที่ 9.70 บาท
(0) TPCH ผู้บริหารปรับลดเป้ารายได้ปีนี้เหลือโตไม่ต่ำกว่า 20% จากเดิมที่คาดโต 30-40% จากโครงการโรงไฟฟ้าแม่วงศ์ที่ล่าช้า แต่ยังคงเป้ากำลังผลิต 200 MW ภายใน 5 ปี เราปรับประมาณการกำไรทั้งปี 2015 ลงจากเดิม 134 ล้านบาท เหลือ 40 ล้านบาท แต่ยังโตสูง 40% Y-Y การปรับกำไรลงเป็นลบระยะสั้นต่อราคาหุ้น แต่ไม่กระทบราคาเป้าหมายมากนัก เรายังคงราคาเป้าหมายเดิม 28.50 บาท คงคำแนะนำซื้อลงทุนระยะยาว
(+) โรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์คืบหน้ามากขึ้น กกพ.เตรียมประกาศหลักเกณฑ์รับซื้อไฟจากโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินของหน่วยงานราชการและสหกรณ์ฯ ล๊อตแรก 600MW เร็วๆนี้ และให้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบไม่เกิน 30 ก.ย. 2016 คาดว่าบริษัทเอกชนที่สนใจเข้าร่วมเช่น GUNKUL, TSE, DEMCO, EGCO, IEC, SPCG, SUPER, SOLAR, BCP นอกจากนี้ เป็นโอกาสการได้งานของผู้ประกอบการ EPC (ก่อสร้างโรงไฟฟ้า) คือ DEMCO และ GUNKUL
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดพุ่งกว่า 1 เปอเซ็นต์ จากนักลงทุนมองว่าข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่ประกาศออกมาเมื่อคืนที่ยังไม่แข็งแกร่งเท่าที่ควร อาจจะส่งผลให้ FED ยังไม่ตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 16-17 ก.ย.นี้
(0) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนส่วนใหญ่ปิดในแดนบวกเช่นกัน จากมุมมองของนักลทุนต่อข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ อาจส่งผลต่อการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ในการประชุมคืนนี้
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดบวกเช่นกันตามตลาดหุ้นทั่วโลก อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังคงจับตาดูผลการประชุม FED ที่จะเริ่มในคืนนี้
(0)ค่าเงินบาทยังแกว่งตัว Sideway ในกรอบ 35.87-35.94 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ต.ค. ปิดที่ 44.59 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.59 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเก่งกำไรหลังสัญญานำมันดิบปิดร่วงลงติดต่อกัน 2 วันก่อนหน้า ขณะที่นักลงทุนจับตาการรายงานสต็อกน้ำมันดิบของ EIA ที่จะเปิดเผยในคืนวันนี้
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดที่ 1,102.60 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 5.1 ดอลลาร์/ออนซ์ เป็นผลของแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และการที่ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปดีดตัวขึ้นเมื่อคืน ยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอบภัย
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
16-17 ก.ย. - สหรัฐ: FOMC ประชุม
16-ก.ย. - ไทย: กนง.ประชุม
- ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดทำการ
- สหรัฐ: อัตราเงินเฟ้อ (ส.ค.)
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (ส.ค.)
17-ก.ย. - ตลาดหุ้นอินเดียปิดทำการ
- อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI) ประชุม
- สหรัฐ: Housing starts, Building permits (ส.ค.), สภาคองเกรสโหวตยกเลิกการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่ออิหร่าน
20-ก.ย. - ไทย: ยอดขายรถ (ส.ค.)
- กรีซ: เลือกตั้งทั่วไป
21-ก.ย. - สหรัฐ: ยอดขายบ้านเก่า (ส.ค.)
22-ก.ย. - ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.ย.)
23-ก.ย. - ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ก.ย.)
24-ก.ย. - ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดทำการ วัน Idul Adha
- ฟิลิปปินส์: ธนาคารกลาง (BSP) ประชุม
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research