- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 11 September 2015 18:16
- Hits: 4635
บล.กรุงศรี : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Daily Strategy
ตลาดหุ้นวานนี้: SET ผันผวนตามตลาดหุ้นภูมิภาค โดยเปิดปรับลงกว่า -9.8 จุด จากความไม่แน่นอนในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด อย่างไรก็ตาม SET กลับมาฟื้นตัวและปิดตลาดลดลงเพียง -0.13 จุด ปิดที่ 1,396.29 จุด จากแรงเก็งกำไรในหุ้นขนาดเล็กในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และหุ้นขนาดเล็กที่ปรับลงแรกก่อนหน้านี้ นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ 825 ล้านบาท ครั้งแรกในรอบ 7 วัน และขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 1,105 ล้านบาท ต่อเนื่องเป็นวันที่ 15 แต่กลับมา Net short TFEX 10,617 สัญญา
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้: SET น่าจะปรับขึ้นในกรอบจำกัด นำโดยกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้น และหุ้นที่ได้ผลบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากที่กำลังจะคิกออฟ ขณะที่ปัจจัยภายนอกยังไม่มีอะไรใหม่ และเชื่อว่านักลงทุนส่วนใหญ่จะรอผลประชุมเฟดสัปดาห์หน้า ซึ่งจะทำให้มูลค่าการซื้อขายเบาบางในช่วงนี้
กลยุทธ์วันนี้: ในช่วง 2 อาทิตย์ที่ผ่าน SET รีบาวด์มาแล้วประมาณ 7.3% หลังจากที่ร่วงกว่า 19% จากจุดสูงสุดครั้งก่อนมาแตะต่ำสุด 25 ส.ค. หรือคิดเป็นการฟื้นตัว 1 ใน 3 ที่ปรับลงแรงก่อนหน้านี้ ซึ่งเราถือว่าเป็นจุดหัวเลียวหัวต่อ โดยเฉพาะแนวต้านจิตวิทยาที่ 1,400-1,410 จุด อย่างไรก็ดีหุ้นขนาดเล็กจะฟื้นตัวเร็วกว่าหุ้นขนาดใหญ่ ดังนั้นจึงยังเน้นเล่นเก็งกำไรในหุ้นขนาดเล็กและซื้อเมื่ออ่อนตัว
Trading วันนี้: BIG (BIG camera fair กระตุ้นกำไร และมี PE ต่ำเมื่อเทียบกับกลุ่มผู้ค้าอุปกรณ์มือถือ )
กลุ่มธุรกิจที่มีแนวโน้มดี: พลังงานทดแทน (GUNKUL, EA) กลุ่ม Healthcare (BDMS) และสื่อสาร
High Div. Stock: ADVANC, TVO, INTUCH, BTS, BJCHI KSS report วันนี้: DEMCO(Outperform/เป้า 16 บ.), BIG (Initail coverage Outperform/เป้า 1.50 บ.)
หุ้น/ข่าว/ประเด็นสำคัญวันนี้:
(+) จับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก วงเงิน 1.3 แสนล้านบาท ที่จะคิกออฟ 20 ก.ย นี้ : มาตรการหลักๆ จะอยู่ที่กระทรวงการคมนาคมเกี่ยวกับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และกระทรวงอุตสาหกรรมที่ต้องสร้างความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงการที่จะนำเอกชนเข้ามาร่วมทุนในโครงการเหล่านี้ด้วย ดังนั้นหุ้นที่คาดว่าจะได้ผลบวกจะเป็นหุ้นในกลุ่มก่อสร้างอย่าง STEC, CK ITD และกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับภาคอุตสาหกรรมอย่าง ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมี อาหาร เป็นต้น
(+) จีนรายงานอัตราเงินเฟ้อในเดือนส.ค. ขยายตัว 2% yoy เพิ่มขึ้นจาก 1.6% ในเดือนก.ค. สูงกว่าที่คาดไว้ที่ 1.7% แสดงให้เห็นการบริโภคภายในของจีนยังคงดีต่อเนื่อง แม้ภาคการผลิตและการส่งออกชะลอตัว เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าเศรษฐกิจจีนยังโตอยู่ในระดับ 6.5% -7.0% ยังไม่ถึงขั้น Hard landing
(+) ราคาน้ำมันดิบวานนี้ปรับตัวขึ้น โดย WTI ปรับขึ้น US$1.77/bbl ปิดที่ US$45.92/bbl และน้ำมันดิบ BRENT เพิ่มขึ้น US$1.31/bbl ปิดที่ US$48.89/bbl จากรายงานปริมาณสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเกินคาดและการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐที่ลดลง 83,000 บาร์เรล เป็น 9.135 ล้านบาร์เรลต่อวัน
(0) ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาค่อนข้างผสมผสาน ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐผันผวนในกรอบแคบ
(-) VIX index ยังยืนเหนือระดับ 20 วานนี้ปิดที่ 24.37 ซึ่งยังแสดงให้เห็นว่าภาวะความเสี่ยงของตลาดหุ้นสหรัฐยังอยูในระดับค่อนข้างสูง
(+) DEMCO (Outperform/เป้า 16 บาท) – ได้งาน EPC เพิ่มอีก 50%, คาดมีโอกาสได้งานสายส่งใต้ดินของกฟน. และ คาด WEH จะ IPO 1Q16
(+) BIG (Outperform/เป้า 1.50 บาท) - PE ต่ำเมื่อเทียบกับกลุ่มผู้ค้าอุปกรณ์ IT และมือถือ
§ BIG เบอร์ 1 ผู้นำธุรกิจค้าปลีกกล้องถ่ายภาพ ครองส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 50%
§ เทรนกล้อง Mirrorless กำลังมาแรง คาดตลาดเติบโตเฉลี่ย 40%
§ กำไรสุทธิเติบโตต่อเนื่องทุกไตรมาส คาดปีนี้พุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
§ แนะนำ ซื้อ โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 1.5 บาท มี Upside gain 22%