WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ASIAwealthบล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook

 

กดดัน Fed อาจขึ้นดอกเบี้ยและเศรษฐกิจจีนชะลอ
       คาดหุ้นไทยขยับลงวันนี้ ก่อนการประชุม Fed สัปดาห์หน้าที่มีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้พอๆกับไม่ปรับขึ้น ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนยังคงกดดันอยู่โดยเฉพาะล่าสุดตัวเลขยอดขายรถยนต์ในจีนที่ยังอ่อนแอ ภายในประเทศภาคท่องเที่ยวที่กลับมาดูดีอีกน่าจะช่วยตลาดได้บ้างในขณะที่การประมูล 4G ช่วงความถี่ 900 MHz ที่กำหนดขึ้นในเดือน ธ.ค. ถือว่าเป็นปัจจัยลบอยู่บ้าง

หุ้นเด่นวันนี้ : TISCO (Bt40.00; ซื้อ, ราคาเป้าหมายปี 58 ของ AWS 48.00 บาท) ดูรายงานฉบับเต็มวันนี้


       บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นหุ้นแนะนำวันนี้ เนื่องจากได้รับประโยชน์จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในครึ่งปีแรก จากสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อมีอัตราดอกเบี้ยรับคงที่อยู่ที่ประมาณ 70% ของสัดส่วนทั้งหมด ต้นทุนที่ลดลงทำให้ NlM สูงขึ้นซึ่งน่าจะชดเชยการคาดการณ์การเติบโตสินเชื่อในปีนี้ที่ลดลง นอกเหนือจากนี้รัฐบาลได้อนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะช่วยลดภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงและเป็นการเพิ่มสภาพคล่องของธุรกิจ SMEs นอกจากนี้ราคารถยนต์มือสองอยู่ในระดับคงที่รวมทั้งการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อใหม่ที่ลดลง ชี้ให้เห็นว่าคุณภาพสินทรัพย์ผ่านจุดที่ต่ำสุดมาแล้ว ทำให้ TlSCO สามารถลดการตั้งสำรองหนี้ลง เราคาดกำไรสุทธิปี 58 เติบโต ที่ 3.1% ก่อนที่จะเพิ่มเป็น 11.2% ในปี 59 TlSCO มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับธนาคารขนาดเล็กจากการวิเคราะห์ CAMEL ในขณะที่มูลค่าหุ้นยังถูก ปัจจุบันซื้อขายที่ 1.1 เท่า 2558E BV จุดเด่นของหุ้นคือมีอัตราเงินปันผลตอบแทนสูงที่ 5.3% ภายใต้อัตราการจ่ายปันผลที่ 40% Price Pattern ของ TlSCO ได้กลับมาเกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่ แต่ก็ยังคงโดนกดดันจากการเกิดทั้ง Weekly & Monthly Sell Signal อยู่ ดังนั้นในช่วงเริ่มต้นของการฟื้นตัวในราคาของ TlSCO จึงยังไปได้ไม่ไกลนัก โดยเมื่อพิจารณาจาก Price Pattern ของ TlSCO คาดว่าจะเห็นการปรับตัวขึ้นเพื่อไปทดสอบเป้าหมายเบื้องต้นที่ 41.25 บาท ก่อนที่จะไปทดสอบเป้าหมายถัดไปที่ 42.75 บาท และเป้าหมายสำคัญที่ 44 บาท ตามลำดับ (แนวต้าน: 40.50, 41.00, 41.75; แนวรับ: 39.75, 39.25, 38.50)

 

ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :

       อุตสาหกรรมท่องเที่ยวยืดหยุ่นขึ้น สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติและรายได้จากนักท่องเที่ยวจะเกินเป้าหมายปี 58 ที่ รมว.กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาตั้งเป้าหมายไว้ เนื่องจากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่แข็งแกร่งในครึ่งปีแรก และคาดว่าจะฟื้นตัวอีกครั้งในไตรมาส 4/58 โดยคาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมายังไทยเกิน 30 ล้านคนในปีนี้และเม็ดเงินใช้จ่ายคาดว่าจะอยุ่ที่ 1.5 ล้านล้านบาท ปีนี้ เทียบกับเป้าหมายของรัฐบาลที่ 28.8 ล้านคนและเม็ดเงินใช้จ่ายที่ 1.4 ล้านล้านบาท (Bangkok Post)
แต่งตั้งประธานใหม่ของ ตลท. และ ก.ล.ต. ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ อดีตผู้ว่าการ ธปท. น่าจะได้นั่งตำแหน่งประธานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจากการเปิดเผยของแหล่งข่าว ขณะที่นริศ ชัยสูตร รองปลัดกระทรวงการคลังจะนั่งเก้าอี้ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ก.ล.ต.)


เลื่อนประมูลคลื่น 900 MHz คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) วานนี้ได้เห็นชอบให้ประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิร์ตซ์ในวันที่ 15 ธ.ค. โดยแบ่งเป็น 2 ใบอนุญาต แบนด์วิธใบละ 10 เมกะเฮิร์ตซ์ ก่อนหน้านี้ กสทช.เคยจะจัดวันที่ 10 11 หรือ 12 พ.ย. (Bangkok Post) ความเห็น: ใบอนุญาตคลื่น 900 เมกะเฮิร์ตซ์ เลื่อนไป 1 เดือนจากวันที่เคยกำหนดเดิม อย่างไรก็ดี เราเห็นว่าไม่น่าจะกระทบอะไรมากเนื่องจากค่ายมือถือสามารถเริ่มธุรกิจ 4G ได้เลยนับแต่การประมูล 1800 เมกะเฮิร์ตซ์รอบแรกและรอบสองก็ล่าช้าไปอีกแค่ 1 เดือนเท่านั้น


พิจารณาการลงทุนแบบ PPP มากขึ้น สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กระทรวงคมนาคม กำลังร่างข้อกำหนดเพื่อนำไปหารือเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานของความร่วมมือของโครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPPs) ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายใต้การบริการแหล่งเงินทุนโดยสำนักบริหารหนี้สาธารณะการลงทุนจากภาคเอกชนในโครงสร้างพื้นฐานถูกจำกัดไว้ที่ 500 พันลบ. ซึ่งหมายความว่ารัฐยังเป็นผู้หาแหล่งเงินลงทุนหลักในโครงการพื้นฐานทั้งหมด (Bangkok Post)
SPALI (19.00 บ,) กล่าวว่ามาตรการจูงใจทางภาษีล่าสุดของรัฐบาลจะช่วยให้รายได้การขายที่อยู่อาศัยโดยรวมเพิ่มสูงขึ้นได้อย่างชัดเจน โดย SPALl ประเมินว่ารายได้จะสามารถเพิ่มสูงขึ้นราว 10-15% เนื่องจากผู้บริโภคจะสามารถตัดสินใจโอนยูนิตที่พร้อมรับรู้รายได้ได้ง่ายขึ้น (Bangkok Post)


ต่างประเทศ :

สัญญาณเศรษฐกิจที่ขัดแย้งกัน ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐที่แสดงถึงเงินเฟ้อที่ต่ำมากท่ามกลางตลาดแรงงานที่ตึงตัวและการเติบโตทางเศรษฐกิจอันแข็งแกร่งก่อให้เกิดความท้าทายแก่คณะกรรมการพิจารณานโยบายของเฟดซึ่งจะพบกันระหว่างวันที่ 16-17 ก.ย. ในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย (Reuters)
เงินดอลลาร์ร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนวานและในเช้าวันนี้ จากการเทขายอย่างหนักเทียบกับเงินหยวนและเงินสกุลสำคัญอื่น ๆ เงินหยวนแข็งค่าขึ้น 1.2% เทียบกับเงินดอลลาร์เมื่อคืนก่อน ส่วนเงินยูโรไต่ขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบสัปดาห์ที่ 1.1296 ดอลลาร์ในเช้าวันนี้ อย่างไรก็ตาม เงินดอลลาร์สามารถรักษาสถานะไว้ได้เมื่อเทียบกันเงินเยนและล่าสุดปิดที่ 120.75 เยน(Reuters)
ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจจากฝั่งเอเชียที่จะมีผลต่อตลาดในวันนี้ ข้อมูลผลผลิตทางอุตสาหกรรมของจีนและยอดขายปลีกซึ่งจะประกาศในวันอาทิตย์นี้จะเป็นตัวกำหนดทิศทางตลาดในสัปดาห์หน้า (Reuters)


สหรัฐ :

ตลาดหุ้นสหรัฐปิดเพิ่มขึ้นเมื่อวันพฤหัส ในช่วงการซื้อขายที่มีความผันผวนสูงเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลไปล่วงหน้าเกี่ยวกับการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตาม การที่หุ้นบริษัท Apple ปรับตัวขึ้นหนุนให้ตลาดปรับตัวขึ้นหลังจากผู้ผลิตไอโฟนเปิดเผยถึงการทำธุรกรรมทางการเงินที่สะดวกสบายขึ้นและผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่มีประโยชน์หลากหลาย หุ้น Biotech ได้กระตุ้นตลาดด้วยเช่นกัน (Reuters)
ตลาดแรงงานสหรัฐเป็นช่วงขาขึ้นในช่วงต้นเดือนก.ย. ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสหรัฐลดลง 6,000 รายลงมาอยู่ที่ 275,000 รายในสัปดาห์ก่อน เป็นสัปดาห์ที่ 27 ติดต่อกันแล้วที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการดังกล่าวยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าค่ากลางที่ 300,000 ราย ซึ่งปกติแล้วมีความเชื่อมโยงกับตลาดแรงงานที่กำลังแข็งแกร่ง Reuters)


เงินเฟ้อสหรัฐยังคงต่ำมาก ราคาสินค้านำเข้าลดลง 1.8% ในเดือนส.ค. เนื่องจากต้นทุนปิโตรเลียมและต้นทุนของสินค้าจำนวนหนึ่งลดลง หลังจากที่ลดลง 0.9% ในเดือนก.ค. ราคาสินค้านำเข้าลดลงมากสุดในช่วง 7 เดือนและคาดว่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าและความต้องการทั่วโลกยังคงกดดันเงินเฟ้อจากการนำเข้า ราคาสินค้านำเข้าในปัจจุบันลดลงใน 12 เดือน จาก 14 เดือน ในช่วง 12 เดือนจนถึงเดือน ส.ค. ราคาสินค้านำเข้าลดลง 11.4% ร่วงลงมากสุดตั้งแต่ ก.ย. 52 (Reuters)


ยุโรป :

หุ้นยุโรปร่วงหลังจากบวกติดกัน 3 วันในวันพฤหัส จากการที่หุ้นเอเซียปรับตัวลงถ้วนหน้าด้วยตัวเลขยอดขายรถยนต์จีนที่ยังอ่อนแอต่อเนื่องมาแปดเดือนแล้ว และตัวเลขการใช้จ่ายในการซื้อสินค้าทุนของญี่ปุ่นที่ชะลอลง (Reuters)


เอเชีย :

ผู้ว่าฯ BOJ ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าฯ BOJ กล่าวว่าตัวเลขข้อมูลเศรษฐกิจประเทศในช่วงที่ผ่านมายังไม่แสดงถึงภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ชัดเจนมากนัก แต่นับว่ากำลังอยู่ในช่วงของการขยายตัวและยังคงเชื่อว่าจะสามารถบรรลุเป้าอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ได้ (Reuters)
ญี่ปุ่นประกาศอพยพประชาชนกว่าแสนคนเมื่อวันพฤหัสบดี หลังจากที่เกิดพายุและปริมาณฝนถล่มมากเป็นประวัติการณ์บริเวณภาคตะวันออกของญี่ปุ่น โดยปริมาณน้ำฝนในเมืองโจสะสูงราว 600 มม. (24 นิ้ว) ขณะที่เจ้าหน้าที่พยากาณ์อากาศประเมินว่ามีโอกาสจะเพิ่มสูงขึ้นอีกอย่างน้อยราว 200 มม. (8 นิ้ว) ในพื้นที่ภาคตะวันออก (Reuters)
ยอดขายรถยนต์ในจีนช่วง 8 เดือนแรกของปีทำได้เพียงทรงตัว ขณะที่ยอดขายเดือน ส.ค. ลดลง 3% YoY มาอยู่ที่ 1.7 ล้านล้านคัน และมีแนวโน้มว่าทั้งปีจะเห็นการหดตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เปิดตลาดเมื่อช่วงปลายยุค 1990 ทั้งนี้มีสาเหตุมาจากความกังวลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ (Reuters)


สินค้าโภคภัณฑ์ :

ทองฟื้นเล็กน้อย หลังแตะจุดต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ที่ 1,101.11 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ทองก็กลับฟื้นขึ้นมาเล็กน้อย 5.45 ดอลลาร์สหรัฐสู่ 1,111.15 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ อย่างไรก็ดีผู้ค้าได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ย (Reuters)
ราคาน้ำมันขึ้นจากอุปสงค์เบนซินที่แข็งแกร่ง แม้ว่ารายงานสต็อกน้ำมันดิบจะยังเพิ่มขึ้นอยู่ แต่ตัวชี้วัดอุปสงค์ต่อน้ำมันเบนซินจัดทำโดย ElA พุ่งขึ้นตลอด 4 สัปดาห์ที่ผ่านมาถึง 4% ซึ่งทำให้น้ำมันปรับขึ้น NYMEX บวก 1.77 ดอลลาร์สหรัฐหรือ 4.0% ปิดที่ 45.92 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล Brent บวก 1.31 ดอลลาร์สหรัฐหรือ 2.8% ปิดที่ 48.89 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)

Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) TeI: 02 680 5041
Mr. Krit SuwanpibuI (No.17968) TeI: 02 680 5090
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) TeI: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpan (No.49234) TeI: 02 680 5094

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!